กระทรวงวิทย์จับมือ “เจ้าคุณธงชัย” ประธานสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล ปั้นเด็กอาชีวะสู่อีอีซี รับจีนเข้ามาลงทุน ผุด “อะคาเดมีอาชีวะ” ผลิต 7 อาชีพอนาคต “ระบบราง-ช่างอากาศยาน-แมคคาโทรนิกส์-หุ่นยนต์-เทคนิคพลังงาน-นวัตกรรมการท่องเที่ยว-โลจิสติกส์” ป้อนตลาดแรงงาน เผยจีนสั่งหุ่นยนต์ 6 พันตัว แต่ไม่มีแรงงานรองรับ
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หารือแนวทางความร่วมมือสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนระดับอาชีวศึกษากับ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ “เจ้าคุณธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะประธานสถาบัน ขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล โดยทั้งสองใช้เวลา ในการหารือประมาณ 30 นาที
นายสุวิทย์กล่าวว่า ได้หารือกับเจ้าคุณธงชัย ใน 3 ประเด็นที่จะมีความร่วมมือกัน ประเด็นแรก เรื่องของเส้นทางสายไหมทางทะเลที่เจ้าคุณธงชัย ดำเนินการอยู่จะไปเชื่อมโยงกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล โดยรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับประเทศไทยมาก ในเรื่องเส้นทางสายไหมทางทะเล และปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน วท.จะร่วมกับสถาบันขงจื่อฯ พัฒนาเด็กอาชีวะเข้าสู่ตลาดแรงงานในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะสร้างฝีมือแรงงานใน 7 สาขาที่ไทยยังขาดแคลน คือ 1.ระบบขนส่งทางราง 2.ช่างอากาศยาน 3.แมคคาโทรนิกส์ หรือเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ 4.หุ่นยนต์อุตสาหกรรม 5.เทคนิคพลังงาน 6.นวัตกรรมการท่องเที่ยว และ 7.โลจิสติกส์
รมว.วิทยาศาสตร์ฯกล่าวว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ พระองค์มีรับสั่งว่า ให้ประเทศไทยร่วมมือกับประเทศจีนให้มาก เนื่องจากจีนมีสถาบันวิจัยจำนวนมาก ไทยควรจะไปใช้ประโยชน์ ประเด็นที่สอง วท.จะร่วมมือกับสถาบันขงจื่อฯ ใช้วิทยาศาสตร์สร้างคน เพื่อตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ โดยนำเด็กอาชีวะ มาเรียนรู้เชื่อมโยงกับการศึกษาระบบสเต็ม ที่ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และเทคโนโลยี เพื่อให้เด็กอาชีวะมีศักยภาพมากขึ้น ประเด็นสุดท้าย วท.จะร่วมกับสถาบันขงจื่อฯและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายคณิต แสงสุพรรณ เป็นเลขาธิการ สร้างอะคาเดมีอาชีวะ เพื่อนำเด็กอาชีวะเข้าไปฝึกวิชาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับอีอีซี โดยตรงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอีอีซี หัวใจสำคัญ คือเด็กอาชีวะเมื่อจบมาจะต้องมีงานทำ มีคุณภาพ และมีความเป็นสากล เด็กอาชีวะที่อยู่ในอะคาเดมี จะต้องถูกคัดสรรอย่างเข้มข้น
...
เมื่อถามว่า งานที่เป็นรูปธรรมที่ วท.และสถาบันขงจื่อฯจะร่วมกันคืออะไร นายสุวิทย์กล่าวว่า การพัฒนาคน โดยเฉพาะเด็กอาชีวะ เพราะว่าแรงงานอาชีวะปัจจุบันยังไม่สามารถตอบโจทย์อีอีซีได้ทั้งหมด ล่าสุด บริษัทจากประเทศจีน ที่มาลงทุนในอีอีซี ต้องการที่จะผลิตหุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรม จำนวน 6,000 ตัว แต่ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม ดังนั้น การสร้างคนอาชีวะจึงมีความสำคัญ
ด้านพระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย กล่าวว่า สถาบันขงจื่อฯได้นำวิทยาลัยอาชีวะ 62 แห่ง อาทิ สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพฯ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง สถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออก เป็นต้น ลงนามความร่วมมือกับสถาบันอาชีวศึกษาจากประเทศจีน รัฐบาลจีนได้ให้ทุนผ่านสถาบันขงจื่อฯจำนวนมาก ล่าสุด วิทยาลัยซันยา แห่งมณฑลไหหนาน ได้ให้ทุนกับสถาบันขงจื๊อฯ 30 ทุน เพื่อให้ไปเรียนเป็นแอร์โฮสเตส หรือมหาวิทยาลัยฟู่โจว ให้ทุน 100 ทุน เพื่อให้เด็กไทยไปเรียนวิศวะ เป็นต้น การร่วมมือกับ วท.ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาเด็กอาชีวะอย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน ได้เปรียบประเทศอื่น เพราะคนจีนถือว่าไทยจีน คือพี่น้องกัน
เจ้าคุณธงชัยกล่าวอีกว่า ปัญหาของเด็กอาชีวะปัจจุบัน คือฝึกงานไม่ตรงกับที่เรียน ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ที่สำคัญจะต้องมีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนอาชีวะใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคตอันใกล้ ประเทศไทย จะมีรถไฟฟ้า รถรางเกิดขึ้นมากมาย แต่ถามว่า มีแรงงานที่มีฝีมือรองรับหรือไม่ หรือแม้กระทั่งการท่องเที่ยว ก็ยังต้องมีนวัตกรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง
ดังนั้น การเรียนการสอนของอาชีวะจะต้องสอดคล้องกับโลก คือจบออกมาทำงานเป็น ทำงานได้ส่วนวิธีการที่เด็กอาชีวะจะได้รับโอกาสนี้ต้องทำอย่างไร มีค่าใช้จ่ายแค่ไหน
เจ้าคุณธงชัยกล่าวว่า ทุกอย่างฟรีหมด โดยจะมีบริษัทจากประเทศจีนที่มาลงทุนในอีอีซีเป็นผู้ให้ทุนผ่านสถาบันขงจื่อฯและจะมีการสอบชิงทุนการศึกษาในแต่ละระดับ ทั้ง ปวช. ปวส. และปริญญาตรีตามสาขาต่างๆ เมื่อสอบได้แล้วจะไปเรียนยังมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศจีน ตั้งแต่ 2-4 ปี จบออกมาแล้ว มหาวิทยาลัยจาก ประเทศจีนจะส่งกลับมาทำงานกับบริษัทของจีนที่ลงทุนอยู่ในอีอีซี