นักศึกษาแพทย์ ม.ดัง ตั้งคำถาม กลัวชื่อเสียงสถาบันเสียหายหรือกำลังปกป้องคนผิด หลังเจอกล้องแอบถ่ายติดอยู่ในห้องน้ำชายหลายห้อง แจ้งเรื่องทุกอย่าง แต่ผ่านไป 1 เดือนกลับไร้การแจ้งเตือนภัยใดๆ...
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Keen Pinkaew โพสต์เตือนภัยห้องน้ำ พบกล้องติดไว้แอบถ่ายในห้องน้ำชายของโรงพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 61 เวลา 14.30 น. ได้ไปเข้าห้องน้ำเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ในซอกตรงข้ามกับลิฟต์ขนขยะ สังเกตเห็นว่ามีวัตถุสีขาว แบนเรียบ ลักษณะคล้ายฐานติดตั้งอะไรซักอย่าง ติดอยู่ข้างโถปัสสาวะชาย
ต่อมา 16.00 น. ไปเข้าห้องน้ำเดิมอีกครั้ง พบว่ามีวัตถุสีขาวทรงกลมนูน ถูกติดตั้งบนฐานข้างโถปัสสาวะชาย รูปร่างคล้ายกับเครื่องพ่นดับกลิ่น เนื่องจากเป็นคนที่คลุกคลี และมีประสบการณ์อยู่กับอุปรกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มามากพอสมควร จึงเกิดความสงสัยว่าสิ่งที่ติดอยู่นั้น อาจไม่ใช้เครื่องดับกลิ่น หรืออุปกรณ์ปกติธรรมดา แต่น่าจะเป็นกล้องแอบถ่าย จึงถอดมาดู พบว่ามีแผงวงจร ซึ่งเป็นกล้องแอบถ่ายขนาดเล็กจริงๆ

...
ในจังหวะนั้นค่อนข้างตกใจ ตื่นเต้น และหวาดกลัว แม้จะเคยได้ยินข่าวมาบ้าง และเคยทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในโรงเรียนแพทย์ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อได้ตรวจสอบพบว่ามีตัวเองถูกบันทึกภาพอยู่ในวิดีโอนั้นซึ่งเห็นทั้งหน้าและขณะปัสสาวะ จึงแจ้งอาจารย์ในภาควิชาทันที ได้รับคำแนะนำให้ลองไปดูที่ห้องน้ำชั้นอื่น และให้ใส่ถุงมือไปด้วย เพื่อหวังว่าจะได้เก็บลายนิ้วมือจากวัตถุพยาน จึงทำให้รู้ว่ามีกล้องลักษณะนี้ติดอยู่ในห้องน้ำชายอีก 3 ห้อง ส่วนห้องน้ำหญิงบริเวณใกล้เคียงไม่พบ ตรวจสอบกล้องตัวอื่นก็พบมีผู้เสียหายถูกถ่ายเช่นกัน
“ผมคาดว่านี่ไม่ใช่การลงมือทำครั้งแรกอย่างแน่นอน เพราะฐานตัวกล้องที่ติดอย่างมั่นคง ผมเคยสังเกตเห็นฐานกล้องลักษณะนี้มานานแล้วแต่ไม่ได้สงสัย และจากการสอบถามเพื่อนที่เคยวนมาวอร์ดนี้เมื่อ 1-2 เดือนก่อน สังเกตเห็นวัตถุนี้เช่นเดียวกัน ผู้เสียหายน่าจะมีเป็นจำนวนมากแน่นอน ห้องน้ำตรงนี้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาแพทย์ เพราะฉะนั้นทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อ”

จากนั้นอาจารย์ได้มาพบ และปรึกษากันว่าจะขอดูกล้องวงจรปิด แต่กลับไม่มี ต่อมามีการติดต่อไปยังผู้รับผิดชอบว่าจะส่ง รปภ.มานั่งดูแลให้ จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณบดีในวันถัดมา และจะจัดการเรื่องดำเนินคดีให้ จึงเสนอกลับไปว่าควรออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการจากคณะหรือไม่ เพื่อให้ทุกคนตื่นตัว เฝ้าระวังตัวเองและการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ กลับได้รับคำตอบว่า “ยังไม่ควรประกาศเตือน ควรเก็บเรื่องไว้เงียบๆก่อน เผื่อว่าจะสามารถจับคนร้ายได้” พร้อมตั้งคำถามว่ากำลังกลัวชื่อเสียงที่จะเสียไปมากกว่าต้องการที่จะปกป้องผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ หรือกำลังปกป้องผู้กระทำผิดอยู่
กระทั่ง 1 เดือนผ่านไป เรื่องเงียบ และไม่มีการประกาศเตือนใดๆ หรือทำอะไรที่เป็นรูปธรรมเพื่อการแก้ปัญหา จึงตัดสินใจพูดประกาศเตือนเพื่อนในกองกุมารเวชศาสตร์ รวมทั้งแจ้งความกับอาจารย์อีก 2 ท่าน ตำรวจมาดูสถานที่เกิดเหตุ สอบปากคำ และตำรวจได้นัดสอบปากคำเพิ่มเติมอีกเวลา 19.00 น. ใช้เวลาทั้งวันไปกับตำรวจ

“สิ่งที่ได้รับการตอบกลับมาล่าสุด คือ แจ้งว่ามีการจัด รปภ. เดินเวรให้ถี่ขึ้น, สั่งแม่บ้านให้ตรวจสอบห้องน้ำให้ละเอียดขึ้น และกำลังติดต่อทำเรื่องติดตั้งกล้องวงจรปิดใหม่ ผมขอขอบคุณเป็นอย่างสูงที่ได้มีการกระทำเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ผมเห็นว่าทุกอย่างที่ทำมาล้วนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่มีการสร้างความตื่นตัวเพื่อให้เกิดการป้องกันจากภายใน ไม่มีการเตือนเพื่อแจ้งให้คนหมู่มากทราบเพื่อระวังตนเอง ส่วนทำไมจึงยังไม่มีการเตือนคือ ไม่ควรออกประกาศเตือน เนื่องจากจะเกิดความแตกตื่น”
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก Keen Pinkaew)