กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกพริกระยะนี้สภาพอากาศเป็นใจ ให้เฝ้าระวังการระบาดของโรคกุ้งแห้ง

เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา พบได้ในระยะต้นพริกให้ผลผลิต เริ่มแรกจะพบจุดหรือแผลช้ำยุบตัวเล็กน้อย ต่อมาแผลขยายใหญ่สีน้ำตาลหรือดำ ลักษณะเป็นวงรีหรือวงกลม บริเวณแผลพบส่วนของเชื้อราเป็นจุดสีดำขนาดเล็กเรียงเป็นวงซ้อนกัน

กรณีสภาพอากาศมีความชื้นสูง จะเห็นเมือกเยิ้มสีส้มอ่อน...ถ้าอาการรุนแรง จะทำให้ผลเน่าและร่วงก่อนเก็บเกี่ยว...หากพบอาการที่ผลอ่อน จะทำให้ผลพริกโค้งงอบิดเบี้ยวลักษณะคล้ายกุ้งแห้ง

หากพบเห็นอาการของโรคในแปลงปลูก ให้เก็บพริกที่เป็นโรคไปเผาทำลายทิ้งนอกแปลงปลูก เพื่อลดปริมาณเชื้อก่อโรค และกำจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อไม่ให้แปลงปลูกมีความชื้นสูง เพราะเป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการเกิดโรค

ถ้าพบการระบาดของโรค ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน 25% เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตร

ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ โพรคลอราซ 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน

หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตพริกแต่ละรุ่นแล้ว เกษตรกรควรกำจัดวัชพืชและเก็บเศษซากพืชส่วนที่เป็นโรคในแปลงไปเผาทำลายทิ้งให้หมด และควรจัดระยะปลูกพริกให้เหมาะสม ไม่ปลูกชิดกันเกินไป

ก่อนเพาะต้นกล้า ควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่น 50 ํC นาน 20-30 นาที และควรเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้าจากแหล่งที่ปราศจากโรค...กรณีเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกเอง ควรเลือกผลพริกที่ไม่เป็นโรค

สำหรับในพื้นที่มีการระบาดรุนแรง เกษตรกรควรหมุนเวียนไปปลูกพืชชนิดอื่น เพื่อตัดวงจรของเชื้อโรค.

สะ-เล-เต