LiFi (ไลไฟ : Light Fidelity) เป็นเทคโนโลยีที่ได้มีการพูดถึงและมีการพัฒนากันมาตลอด กลุ่มที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้ระบุว่า เป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่มีความน่าสนใจและให้ประโยชน์มากกว่าเทคโนโลยี WiFi (ไวไฟ) ที่นิยมใช้กันแพร่หลายไปทั่วโลก
การทำงานของเทคโนโลยีนี้จะแพร่สัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านแสงสว่างจากหลอดไฟแอลอีดี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทดสอบปรากฏว่าให้ความเร็วสูงกว่าการเชื่อมต่อ WiFi อย่างเห็นชัด และมีการระบุว่าเร็วกว่าถึง 100 เท่า โดยสามารถรับส่งขนาด 1 GB ได้ภายในเวลาเพียงแค่วินาทีเดียว
สำหรับประเด็นเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นการรับส่งสัญญาณผ่านคลื่นแสง ที่ไม่สามารถทะลุกำแพง ดังนั้น การที่จะทำให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเป็นไปอย่างราบรื่นจะต้องติดตั้งหลอดไฟให้แสงสว่างครอบคลุมบริเวณพื้นที่ที่จะใช้ออนไลน์ เรียกง่ายๆ มีแสงสว่างที่ไหนสามารถออนไลน์ได้ที่นั่น และต้องใช้อุปกรณ์ “ดองเกิ้ล” เฉพาะเพื่อเชื่อมต่อจึงสามารถควบคุมได้ง่ายและมีความปลอดภัยกว่า WiFi
ในอุตสาหกรรมหลอดไฟให้แสงสว่างเป็นที่รู้กันดีว่า “ฟิลิปส์” เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ในยุคของเทคโนโลยีเราได้เห็นผลิตภัณฑ์หลอดไฟอัจฉริยะและสมาร์ทโฮมจากค่ายนี้ ได้เปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างเต็มตัวด้วยการทดลองผ่านบริษัทแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสชื่อ “Icade” ซึ่งเป็นสำนักงานอัจฉริยะในกรุงปารีส นำ “ฟิลิปส์ไลไฟ” มาใช้เป็นบริษัทแรกด้วยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูงถึง 10,000 เท่า เมื่อเทียบกับไวไฟ
ทางบริษัทฟิลิปส์ ไลท์ติ้ง ให้ข้อมูลว่า “ไล-ไฟ” เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสองทางแบบเดียวกับ “ไวไฟ” แต่ใช้คลื่นแสงแทนคลื่นวิทยุเพื่อส่งข้อมูล นวัตกรรมของฟิลิปส์ทำให้การเชื่อมต่อบรอดแบนด์ด้วยความเร็ว 30 Mbps จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสตรีมมิ่งวีดิโอคุณภาพสูงพร้อมกันหลายเครื่อง ไปพร้อมกับการสนทนาทางวีดิโอหลายๆเครื่องโดยไม่สะดุด
...
ทางฟิลิปส์ได้ย้ำว่า ประโยชน์ของไลไฟมีมากกว่าไวไฟ เนื่องจากการใช้งานไวไฟในบางสถานที่ที่คลื่นความถี่ของไวไฟอาจรบกวนอุปกรณ์ เช่น โรงพยาบาล หรือสัญญาณไวไฟเข้าไม่ถึง หรือสัญญาณอ่อน เช่น สถานที่ใต้ดิน รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยสูง สถาบันการเงินต่างๆ
ทั้งนี้ บริษัท Icade เป็นบริษัทลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ให้ข้อมูลว่าการนำร่องใช้เทคโนโลยีไลไฟเพื่อดูว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในฐานะผู้นำในตลาด ต้องการสำรวจความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีนี้สำหรับลูกค้าในปัจจุบันและในอนาคต และนำเทคโนโลยีไปโชว์ในสำนักงานอัจฉริยะของบริษัท ดังนั้น นอกเหนือจากการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ คุณภาพของแสงสว่างก็เป็นสิ่งสำคัญ
คงต้องรออีกสักพักว่า บ้านเราจะมีมาให้ใช้เมื่อไรกัน.
หนุ่มดิจิทัล
cybernet@thairath.co.th