กลายเป็นเรื่องฮือฮาทั่วโลก เมื่อผู้ที่มีชื่อเสียงในแวดวงไอทีหลายคนออกมาประกาศตัวว่าจะหยุดการใช้โซเชียลมีเดียสุดฮิตอย่างเฟซบุ๊ก พร้อมกับติดแฮชแท็ก #Deletefacebook
ต้องขออนุญาตเกริ่นก่อนว่า...ที่มาของเหตุการณ์นี้เกิดจากกรณีบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กนับ 50 ล้านรายชื่อไปใช้อย่างไม่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จนทำให้หลายฝ่ายไม่มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลบนเฟซบุ๊ก
ผู้ที่ออกมาแสดงความต่อต้านพร้อมติดแฮชแท็กบนทวิตเตอร์คนแรกคือ Brian Acton ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp ที่ออกมาบอกว่า "หรือนี่ถึงเวลาที่...#deletefacebook"
จากนั้น Elon Musk ยังเข้ามาตอบว่า "อะไรคือเฟซบุ๊ก?"
การตอบกลับเช่นนั้น จึงทำให้ผู้คนในโลกโซเชียลต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ว่า แน่จริง SpaceX ก็อย่าใช้เฟซบุ๊กสิ
Elon Musk จึงตอบกลับไปอีกว่า "ไม่รู้ว่ามีด้วย, งั้นจะลบ" หลังจากนั้นเฟซบุ๊กเพจของ SpaceX และ Tesla ก็หายไปจริงๆ
...
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราเห็นว่ามีชายอีกคนที่ชื่อ Elon Musk ที่กำลังประกาศสงครามกับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Facebook ที่สำคัญคือชายคนนี้ก็มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ดังนั้นเราไปทำความรู้จักเขากันเลยดีกว่า
1. อีลอน มัสก์ เกิดที่กรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2514 แต่ชีวิตในวัยเด็กเขากลับเป็นเด็กไม่สู้คน เอาแต่หมกตัวอยู่กับหนังสือการ์ตูนและเล่นเกมคอมพิวเตอร์
2. พออายุ 17 ปี เขาหนีการฝึกทหาร และย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ประเทศแคนาดา เพื่อเข้ารับการศึกษาที่ Queen’s University แต่พอเรียนได้สองปี เขาก็ลาออกแล้วไปเริ่มเรียนใหม่ที่ University of Pennsylvania พร้อมคว้าปริญญาตรีพร้อมกันถึง 2 ใบในสาขาเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์ ในปี 1995 เขายังได้ศึกษาต่อปริญญาเอกในสาขาฟิสิกส์และพลังงานที่ Stanford University
3. ในขณะที่กำลังศึกษาต่อปริญญาเอก เขาได้ดรอปเรียน เพื่อก่อตั้งบริษัทแรกชื่อ Zip2 ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ออนไลน์ หลังจากนั้นไม่กี่ปี เขาได้ขายกิจการทั้งหมดให้กับ Compaq (ปัจจุบันควบรวมกับ HP) ได้เงินมากว่า 304 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีในวัยเพียง 28 ปี
4. เมื่อได้เงินก้อนแรกมา เขาก็ได้นำไปลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน ชื่อเว็บไซต์ x.com จนภายหลังนำไปควบรวมกิจการกับบริษัท Confinity จนเกิดเป็น Paypal ที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้นำกลุ่มธุรกิจทางการเงินออนไลน์ ก่อนจะขายกิจการให้กับ Ebay
5. ความฝันของชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่ระบบออนไลน์ แต่เขาฝันยิ่งใหญ่ถึงการทำจรวดเพื่อเดินทางในอวกาศ
6. ในปี 2002 เขาได้ก่อตั้งบริษัทที่ 3 ในชีวิต นั่นคือ SpaceX บริษัทสำรวจอวกาศเอกชน ที่เขาใช้ทุนของตัวเองในการสร้างจรวดและโครงการด้านอวกาศที่จะพาคนเดินทางไปยังดาวอังคาร
7. ถึงแม้ความฝันนี้จะใช้เวลาก่อร่างสร้างตัวนานกว่าฝันอื่นๆ แต่สุดท้ายในปี 2008 เขาได้รับการเซ็นสัญญาจาก NASA และหลังจากนั้นอีกไม่กี่ปี ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากการออกแบบจรวดชื่อ Falcon 9 รวมถึงระบบโครงสร้างการลงจอดของจรวด
8. อีลอน มัสก์ ไม่ได้หยุดอยู่แค่การทำจรวด เพราะเขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla Motors บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า นั่นเพราะเขาเป็นหนึ่งในนักอนุรักษ์โลกสีเขียว
9. เขาเป็นหนึ่งในบุคคลทรงอิทธิพล และร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลก จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes อีกทั้งเขายังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Self-made หรือรวยได้ด้วยตัวเอง (ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊กเลยจ้า)
10. สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น มัสก์ ผ่านการแต่งงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ตอนนี้มีข่าวแว่วมาว่าเขากำลังโสดอยู่ แต่เราก็เชื่อว่าหนุ่มผมบลอนด์ ตาสีฟ้าแบบนี้ คงมีสาวๆ เข้ามาติดพันไม่น้อย คล้ายๆ กับโทนี่ สตาร์ก ในเรื่อง Iron man เลยเนอะ
เอ้า...ก็ถึงว่าเป็นมวยถูกคู่อยู่นะสำหรับเจ้าพ่อเทคโนโลยีทั้ง 2 คน ซึ่งเราก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่าพวกเขาจะงัดไม้เด็ดอะไรออกมาตีกันผ่านโซเชียลให้เราเห็นอีกหรือไม่...
...