บนหลังคา “ตึกแถว” ท่าเตียนหัวหน้าทีมซอกแซกได้รับคำบอกเล่าจากเพื่อนฝูงรุ่นน้องรายหนึ่งมานานแล้วว่าเขาไปพบดาดฟ้าที่มองเห็นวิวสวยที่สุดในชีวิตของเขาเมื่อปลายปีที่แล้ว อยากให้หัวหน้าทีมลองไปดูสักคืน เพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของเขาถูกหรือผิดกันแน่

วิวสวยที่สุดที่ว่านี้อยู่บนดาดฟ้าของตึกแถวริมฝั่งเจ้าพระยา บริเวณท่าเตียนนี่เอง

จนกระทั่งเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าทีมจึงได้มีโอกาสไปพิสูจน์

นั่งดูนั่งชม นั่งละเลียดบรรยากาศตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง...ในที่สุดก็บอกกับตัวเองว่า “เห็นด้วยแฮะ...เป็นวิวที่สวยที่สุดในชีวิตเท่าที่เราเคยเห็นมาเหมือนกัน”

คณะของเราเริ่มต้นการไปเยือนดาดฟ้าบนหลังคาตึกแถวท่าเตียนแห่งนี้ด้วยการขับรถไปจอดไว้ที่ถนนสำหรับจอดรถ (เสียสตางค์) ของ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งจะเป็นถนนแบ่งครึ่งวัดพอดิบพอดี ขับไปตามถนนมหาราชเรื่อยๆ ผ่านวัดพระเชตุพนฯแล้วจะเห็นเอง

จากนั้นเราก็เดินข้ามมาทางฝั่งตึกแถวท่าเตียน เหล่ไปที่ซอยซึ่งมีชื่อว่า “ซอยท่าเตียน” แล้วเดินไปจนสุดซอย เป้าหมายอยู่ที่ร้านอาหาร Eat Sight Story อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาพอดิบพอดี

ร้านอาหารชื่อฝรั่งร้านนี้เป็นท่าเรือเก่าและตกแต่งเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรปบวกไทย มีโต๊ะให้นั่งริมน้ำหลายสิบโต๊ะ

เพื่อนบอกว่า เราจะดูพระอาทิตย์ตกหลังพระปรางค์วัดอรุณฯ และก็รับประทานอาหารที่นี่กันเสียก่อน น่าจะเป็นวิวแรกที่ประทับใจในการมาเยือนท่าเตียนก่อนตะวันตกดิน

โชคไม่ดีนักที่ช่วงพระอาทิตย์ตกดินวันนั้นเมฆจัดไปหน่อย เลยเห็นพระอาทิตย์ไม่ค่อยชัด ทำให้ไม่สามารถมองเห็นดวงตะวันสีแดงที่กำลังค่อยๆลดลงลับเหลี่ยมพระปรางค์ได้ถนัดถนี่

แต่ก็ถือว่าสวยงามและประทับใจพอใช้

...

แต่พอตกค่ำเข้าไต้เข้าไฟเท่านั้นแหละ หันไปที่พระปรางค์วัดอรุณฯอีกทีต้องยกมือขึ้นประนมด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันอย่างบรรยายไม่ถูกในความงดงามขององค์พระปรางค์ ท่ามกลางแสงไฟที่สาดฉายไปรอบๆ

มองเห็นองค์พระปรางค์ได้อย่างเต็มตา และเป็นองค์พระปรางค์ที่ไม่มีเสาระเกะระกะครอบคลุมอยู่เลย เพราะซ่อมแซมใหม่แล้วเสร็จเรียบร้อย

ในเชิงศิลปะ วัฒนธรรมหรือโบราณคดีจะมีการถกเถียงว่า เหมือนหรือไม่เหมือนของเก่า อย่างไร? เราคงไม่สามารถจะร่วมวิจารณ์หรือวินิจฉัยกับปราชญ์ทั้งหลายได้

เรารู้แต่เพียงว่า ด้วยสายตาของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง พระปรางค์วัดอรุณฯเมื่อทุ่มเศษๆของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ช่างสวยงามเหลือเกิน

ครั้นแหงนหน้าขึ้นไปมองบนหลังคาส่วนหนึ่งของร้านอาหารที่เรานั่งอยู่ก็พบกับแผ่นป้ายตัวอักษรที่ทำด้วยไม้เก่าๆ อ่านได้ใจความว่า “ท่าเรือแดง” หัวหน้าทีมซอกแซกก็พลันหวนระลึกความหลังขึ้นมาได้อีก

นี่คือท่าเรือเมล์เก่าที่คนนครสวรรค์เคยเดินทางมากรุงเทพฯด้วยเรือยนต์ที่เรียกกันว่า “เรือแดง” ซึ่งเป็นเรือที่ใช้โดยสารและบรรทุกสินค้าขึ้นล่องระหว่างนครสวรรค์กับกรุงเทพมหานคร เมื่อ 70-80 ปีที่แล้ว

เลยได้ความสุข 2 ต่อ ทั้งได้ชมความงามของพระปรางค์วัดอรุณฯยามราตรี และรำลึกความ หลังว่าด้วยเรือเมล์แดงด้วยประการฉะนี้

สำหรับรสชาติอาหารของร้าน Eat Sight Story เป็นอาหารไทยแบบฟิวชั่น รสชาติอยู่ในเกณฑ์อร่อย สำหรับเมนูเด็ดยกให้ พิซซ่าหน้ากะเพราหมู กับ ข้าวเหนียวแก้ว แกล้ม คอหมูย่างอบน้ำผึ้ง ซึ่งจะมีแจ่วรสแซ่บกำกับมาด้วย

2 ทุ่มเป๊ะ เพื่อนผู้ค้นพบสถานที่นี้ก็เอ่ยชวนทีมงานซอกแซกให้ลุกเดินย้อนกลับมาในซอยท่าเตียนอีกหน่อยหนึ่ง แล้วเดินตัดซอกเล็กๆไปอีกซอยหนึ่ง น่าจะเรียกว่าซอย เพ็ญพิมาน

ที่ซอยเพ็ญพิมานนี่แหละที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมตึกแถว หรือโรงแรมบูติก ชื่อ ศาลาอรุณ ซึ่งเป็นตึก 3 ชั้นที่เราจะไปอาศัยขึ้นสู่ดาดฟ้า

เพื่อนผู้ค้นพบบอกว่า ที่รู้จักโรงแรมนี้ก็เพราะเมื่อวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 เขาและครอบครัวต้องการจะมาเฝ้าส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยที่ใกล้ชิดที่สุด รอบๆ พระบรมมหาราชวัง จึงออกมาเสาะหาว่าจะมีโรงแรมที่พักใกล้ๆอยู่ตรงไหนบ้าง

ในที่สุดก็มาเจอโรงแรมนี้ จึงตัดสินใจเช่าพัก และเป็นเหตุให้พบว่าบนดาดฟ้าซึ่งจัดไว้เป็นร้านเครื่องดื่มด้วยนั้น เป็นดาดฟ้าที่มีวิวสวยสุดเท่าที่เขาเคยเห็น

คณะของเราเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด เล่นเอาหอบเล็กน้อยเมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณดาดฟ้าที่เขาตั้งชื่อว่า Eagle Nest

ใครจะดริ๊งก์อะไรที่มีดีกรีอ่อน ดีกรีแข็งอย่างไร เขามีบริการให้ทุกยี่ห้อที่นี่ หรือสำหรับคนไม่ชอบของมึนเมาเขาก็มีน้ำผลไม้ไว้บริการ

มีฝรั่งนั่งกันอยู่เต็ม มีคนไทยเสริมบ้างบางส่วน

เมื่อไปยืนฝั่งเจ้าพระยาก็จะเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯอันแสนสวยงามในมุมเดียวกับที่นั่งชม มาระหว่างรับประทานอาหารที่ท่าเรือแดง

ครั้นเดินไปด้านฝั่งวัดโพธิ์จะเห็นหลังคาพระอุโบสถและสิ่งปลูกสร้างในวัดโพธิ์ รวมทั้งพระเจดีย์ต่างๆงดงามเหลือเกิน ท่ามกลางแสงไฟอร่ามเรืองที่ฉายส่องไปรอบๆ

ครั้นมองไปทางด้านเหนือก็จะเห็นพระบรมมหาราชวังยามราตรี ที่มีการประดับไฟสวยสดงดงามเช่นกัน ทั้งวัดพระแก้ว พระที่นั่งจักรีมหาประสาท พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ฯลฯ

แม้จะมีหลังคาตึกบางตึก ซึ่งมีอะไรเกะกะอยู่บนหลังคามารบกวนสายตาบ้าง แต่ในภาพรวม แล้วเห็นด้วยทุกประการที่เพื่อนบอกว่านี่คือ “วิว” ที่สวยที่สุดในชีวิตของเขา

มันไม่ใช่สวยที่สุดอย่างเดียวหรอก แต่เป็นความภาคภูมิใจด้วย...ภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต ที่ทรงสร้างบ้าน สร้างเมือง และสร้างวัง สร้างวัดที่สวยที่สุดเหล่านี้ไว้เป็นมรดกของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน

...

ใครจะลองไปสัมผัสบรรยากาศบ้างก็เชิญนะครับ อ่านลายแทงซูมซอกแซกฉบับนี้แล้วนั่งรถไปท่าเตียนได้เลย...ใช้รถเมล์หรือแท็กซี่สะดวกที่สุด...ไม่ต้องเสียเวลาไปหาที่จอดจ้า!

“ซูม”