คุณว่าในโลกนี้สัตว์ชนิดไหนโหดร้ายที่สุด...?
สิงโต !! เพราะมันเป็น “เจ้าป่า”
ฉลาม !! เพราะมันขย้ำโหดมาก เหมือนเป็น “เจ้าทะเล”
อินทรี !! เพราะมันล่าเหยื่อเก่ง เหมือนเป็น “เจ้าเวหา”
ทุกคำตอบที่ให้มาข้างต้น “ผิดหมด” เพราะสัตว์ที่โหดที่สุดนั้นคือ “เจ้าสัว” เอ้ย...ไม่ใช่ นั่นคือ “เจ้ามนุษย์” นี่แหละ เพราะสัตว์ประเสริฐที่เรียกว่า "มนุษย์" รับประทานเรียบ (ซะ) ทุกอย่าง...
ตอนนี้เชื่อว่า “คนทั้งประเทศ” กำลังจับจ้องไปยังคดีหวย 30 ล้าน ระหว่าง ครูปรีชา ใคร่ครวญ และ ลุงจรูญ วิมูล ที่จวนเจียนจะถึงตอนอวสานแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดคิวก็คาดว่า ปลายเดือนนี้น่าจะรู้เรื่อง ใครได้เงิน ใครติดคุก ! ซึ่งคดีนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้ “ผู้การวิสุทธิ์ วานิชบุตร” อดีตนายตำรวจชื่อดัง เชี่ยวชาญด้านการสอบสวน มาวิเคราะห์ข้อมูลผ่านสกู๊ป "ผ่า 7 ปมคาใจ คดีหวย 30 ล้าน ท้ายสุด..คนซวยสุดอาจเป็นตำรวจ!?" ไปแล้ว...
และทีมข่าวก็ไม่พลาดจะถามถึงคดี "บิ๊กเจ้าสัว" นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ที่ถูกจับคาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยมีของกลางเป็นซากสัตว์ป่า ไก่ฟ้าหลังเทา หนังเสือดำ และเนื้ออื่นๆ โดยมีอาวุธเป็นปืนนานาชนิด ซึ่งนายเปรมชัย และพวก ก็ถูกตั้งข้อหาคดีล่าสัตว์และอาวุธปืนรวม 9 ข้อหา
...
จะรอดหรือจะร่วงนั้น “ผู้การวิสุทธิ์ วานิชบุตร” ให้มุมมองแบบฟันเปรี้ยงเลยว่า “ยังไงก็หนีหลุดยาก !!!”(เน้นเสียงดัง)
ปมที่ 1 เข้าป่าก่อนได้รับอนุญาต
พร้อมให้เหตุผลว่า 1. นายเปรมชัยได้เตรียมขออนุญาตเข้าป่าวันที่ 2 ก.พ. เพื่อจะเข้าป่าในวันที่ 3 ก.พ. แต่ทางผู้มีอำนาจยังไม่อนุญาตแต่ดันเข้าไปแล้ว พูดง่ายๆ เหมือน เราไปทำใบขับขี่แล้วอีก 3 วันมารับ ภายใน 3 วันนี้ก็ยังขับขี่ไม่ได้.. เพราะเขายังไม่อนุญาต
คำถาม คือ รู้ได้อย่างไรว่าเขาจะอนุญาตให้เข้าได้ ในเมื่อยังไม่ได้ให้คำตอบ...
ปมที่ 2 ล่าสัตว์ในพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า
ผู้การวิสุทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนประเด็นที่ 2 ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ป่านั้นมี 2 อย่าง คือ 1. เขตคุ้มครองสัตว์ป่า กับ 2. วนอุทยาน โดยทั่วไปเขาไม่อนุญาตให้ “บุคคลทั่วไป” เข้าไปในเขตคุ้มครองสัตว์ป่า ยกเว้นแต่..พวกเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลที่เข้าไปสร้างประโยชน์แก่ผืนป่าและสัตว์ป่า เช่น นักศึกษาเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาศึกษาผืนป่า แต่ สำหรับคณะบุคคลนั้น ส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้เข้าอยู่แล้ว
แต่เรื่องนี้ช่างมัน !...เพราะนายเปรมชัย ได้เข้าไปแล้ว ทีนี้ต้องมาดูว่าขนอะไรเข้าไปบ้าง...
...
ปมที่ 3 หลักฐานมัดตัวแน่น ดิ้นหลุดยาก...ตัดหางเสือกิน เชื่อเพื่อแก้เคล็ด
ประเด็นที่ 3 หลักฐานที่พบมีมากมาย โอกาสดิ้นหลุดยาก ซึ่งประกอบด้วย
1. ปืน 3 ขนาด คือ เพื่อยิงสัตว์ใหญ่ สัตว์กลาง และสัตว์เล็กเอาไว้ พร้อมติดกล้อง เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีกระสุนเพียงพอ
2. เอาพริกแกง หม้อไห กระเทียม เครื่องเทศเพื่อเตรียมไปทำกับข้าวเข้าไปทำไม..?
3. เอาเบ็ด สวิง เกือบ 100 คัน เบ็ดนี้อยากถามว่า เอาไปตกปลาใช่ไหม.. แล้วปลาเป็นสัตว์ไหม แบบนี้ถือว่าล่าสัตว์ไหม
4. นกหวีด ไม่ใช่นกหวีดที่เป็น กปปส. เป่า ใช่ไหม เป็นนกหวีดที่สามารถเลียนเสียงสัตว์ เช่น นก หรือ ไก่ ใช่หรือไม่ มันเป็นนกหวีดล่อสัตว์ เพื่อใช้ลูกกรดขนาดเล็กใช่ไหม..?
5. เอาเกลือไปทำอะไร ตั้ง 4 ถุงใหญ่ กิน 2 ปี ก็ไม่หมด ที่เอาไปเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องมายิงสัตว์ป่า เอามาเพื่อใช้หมักหนังเสือดำ หรือหมักเนื้อต่างๆ ใช่มั้ย... มีใครส่งซิกว่าตรงนี้มีหนังเสือดำหรือไม่..?
...
“ที่ตัดหางเสือดำ และเนื้อ กินเพราะอะไร...รู้ไหม เข้าใจว่าไปงานศพ เห็นแมวสีดำข้ามโลงศพ มันไม่ดี แล้วลองไปถามพวกพรานป่าดูว่า การตัดหางเสือดำไปกินนี้เป็นการแก้เคล็ดใช่หรือไม่ เพื่อไม่ให้วิญญาณของเสือดำตามมาใช่ไหม... เรื่องนี้ผมก็รู้ ถามว่ากินทำไม..ก็เพื่อแก้เคล็ดไง!” ผู้การวิสุทธิ์ กล่าว
6. เสื้อที่ใส่อยู่ ก็จะเห็นว่าชัดเจน ที่ซื้อต่างประเทศตัวละ 35,000 บาท เสื้อนี้กันหนาว กันลม แล้วตรงบ่าที่เห็นว่าเป็นสี่เหลี่ยมนั้นเป็นการป้องกันปืนกระแทก และไม่ให้มันไหลเวลาประทับ แบบนี้ถือว่าชัดเจน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจก็เจอซากสัตว์ หากบอกว่าไม่ได้ยิง..เชื่อก็ได้ แต่ตามกฎหมายมันก็ถือว่าร่วมกันอยู่ดี สมมติไม่ได้ยิง แต่ใช้คนอื่นยิง ตามกฎหมาย...ผู้จ้างวานรับโทษมีสิทธิ์เท่ากับตัวการ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่าเป็นคนยิงก็ได้
ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาถูกจับร่วมขนยาเสพติด แต่มีคนรับว่าเป็นของคนเดียว ถามว่าคนที่อยู่ด้วยมันรอดไหม...อยู่ในรถคันเดียวกัน ไม่รอดหรอก เช่นเดียวกัน ทุกอย่างมันครบวงจรตั้งแต่เข้ามา แล้วเจอซากสัตว์
“อีกคำถาม คือ เอาน้ำยาล้างปืนเข้ามาทำไม บอกว่าเอามาป้องกันตัว นี่เอาปืนมา 3 ขนาด เพื่อป้องกันเลยใช่มั้ย...”
...
ผู้การวิสุทธิ์ ตั้งคำถามว่า คนที่ยิงปืนเป็น มีอยู่ 2 คน หากพบว่าเป็นเสือ เป็นเก้ง ถามว่าใครจะยิง... เป็นไปได้ไหมที่จะให้คนอื่นยิง..!? เพราะที่เข้าป่ามาเพื่ออะไร...เข้ามายิงหรือล่าสัตว์ใช่ไหม ใส่เสื้อสำหรับพร้อมยิงปืนใส่มาทำไม..!?
"จะว่าไปแค่เอาเบ็ดเข้าป่าไปก็ถือว่าล่าสัตว์แล้ว เพราะตรงนั้นมันคือเขตคุ้มครองสัตว์ป่า สิ่งที่ชัดเจนที่สุด ยกตัวอย่าง คือ สถานที่ตั้งแคมป์ เพราะ เขาอนุญาตให้ตั้งอีกที่ แต่ดันไปตั้งอีกที่ พอมาเจอก็อ้างนู้นนี่ แต่พอเจ้าหน้าที่ออกมาก็ได้ยินเสียงปืน...?"
ชื่นชม ศรีวราห์ ไปตรวจร้านอาหารป่า ชี้เป็นการดักทาง
ทั้งนี้ ผู้การวิสุทธิ์ ได้กล่าวชื่นชม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ด้วย โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมา ศรีวราห์ ถูกด่าเยอะ เพราะไปตรวจตามร้านของป่า ตามเพจต่างๆ ด่า ว่าเป็นการ “ชี้โพรงให้กระรอก” แต่จริงๆ ไม่ใช่.. ศรีวราห์ ฉลาดมาก ต้องชื่นชม ให้ตรวจร้านค้าของป่าเพราะให้ยืนยันไว้ก่อน ป้องกัน เปรมชัย อ้างว่าซื้ออาหารป่าแล้วเข้าป่า แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ยิง แต่ศรีวราห์ ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปสอบไว้ก่อน
“แม่ค้าก็บอกไว้ก่อน ว่าไม่มี เปรมชัยไม่ได้มา ไม่ใช่ไก่ป่า เป็นไก่แจ้ มาทำเป็นไก่ป่า เนื้อกวางก็คือกวางเลี้ยง คนที่วิจารณ์ศรีวราห์ เพราะไม่รู้กฎหมาย แต่ศรีวราห์นั้นไปดักทางไว้ก่อน เพื่อป้องกันเปรมชัยมาอ้างในชั้นอัยการ และสอบสวน เพราะร้านอาหารป่ายืนยันว่าไม่ได้ซื้อ เปรมชัยไม่ได้มา ไม่ได้ขายของป่าให้"
ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์ ในฐานะอดีตนายตำรวจที่มีประสบการณ์ในการทำคดีมามากมาย.. แต่ความเป็นจริงนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ ว่าจะหาหลักฐานมัดนายเปรมชัยได้แค่ไหน การเป็นอภิมหาเศรษฐีจะส่งผลต่อคดีหรือไม่ ไม่ช้าไม่นาน คงจะได้เห็นกัน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน