ไอดอลวงน้องใหม่สไตล์ญี่ปุ่นที่ตอนนี้เรียกว่ากระแสแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆกับเจ้าของเพลง 'คุกกี้เสี่ยงทาย' จากวง BNK48 ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้รับเชิญเข้าร่วมงาน แกรนด์ โอเพ่นนิ่ง อีฟแอนด์บอย ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ วันก่อน จึงได้พูดคุยกับสาวน้อยลุคห้าว นักกิจกรรมตัวยง อย่าง 'ปัญ' ปัญสิกรณ์ ติยากร ที่พกความน่ารักสดใสมาเต็มกระเป๋าพร้อมแจกจ่ายให้เหล่าโอตะ
ปัญเป็นสาวน้อยหน้าหวาน แต่มีลุคห้าวอีกทั้งยังมีอารมณ์ร่าเริงขั้นสุดให้เราได้เห็นตลอดการสัมภาษณ์ จะพาเหล่าโอตะทั้งหลายมาทำความรู้จักกับ 'ปัญ BNK48' หรือน้องฉลามน้อยของเรากัน
ชื่อ-สกุล ปัญสิกรณ์ ติยากร
ชื่อเล่น ปัญ
อายุ 17 ปี
ศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ
วิชาที่ชอบตอนมัธยม
ชอบเรียนวิชาพละค่ะ ชอบเล่นบาส หนูเล่นเป็นตัวที่เลี้ยงบอลกับตัวชู้ตค่ะ
...
วิชาที่ชอบตอนเรียน
ชอบวิชา Account หรือวิชาบัญชีค่ะ เพราะมหา'ลัยที่หนูเรียนต้องเรียนเกือบทุกอย่างเลยทั้ง บัญชี การเงิน พฤติกรรมผู้บริโภค การจัดการ เพราะคณะหนูเป็นคณะที่ครอบคลุมหลายอย่างค่ะ แล้วที่ชอบเรียนบัญชีเพราะว่าตอนที่หนูเรียนหนังสือที่โรงเรียนหนูไม่เคยเรียนเลย เหมือนหนูออกตอน ม.2 ก็ยังแค่บวกลบคูณหารธรรมดา ยังไม่ได้เข้าไปลึก บัญชีเลยเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับหนูมาก ต้องวาดตาราง ต้องอย่างนู้นอย่างนี้ ก็เลยกลายเป็นวิชาที่ชอบค่ะ
เป็นเด็กกิจกรรมไหม
กิจกรรมมากค่ะ (หัวเราะ) ตอนอยู่โรงเรียนก็เป็นนักกีฬาโรงเรียนทุกอย่างเลย แล้วก็เต้นเชียร์ด้วย แล้วก็เดินพาเหรดตอนงานกีฬาสีด้วย ตอนที่มีประกวดความสามารถพิเศษก็ด้วย มีไปลูกเสือหนูก็เป็นคนคุม ก็ทำเกือบทุกอย่างเลย เพราะว่าสนุกดีค่ะ
...
มีฉายาไหมตอนเรียน
ไม่น่ามีนะคะ (หัวเราะ) ก็จะมีแค่เมื่อก่อนมี ปัญ สอง ปัญในห้องเรียน ด้วยความที่หนูมาทีหลังก็เลยกลายเป็น ปัญทู แล้วชื่อจริงก็ ปัญสิกรณ์ ติยากร พอดี ก็ตัวทีเหมือนกันก็เลยกลายเป็นพีที เพื่อนก็จะเรียก พีที ค่ะ
...
วางแผนในอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้าง
ก็คงอยู่ในวงต่อไปก่อนในช่วงนี้ หนูก็ชอบในการที่จะทำงานในวงการบันเทิงเหมือนกัน แต่ถ้ารู้สึกว่าตัวเองอิ่มแล้ว ก็อยากที่จะไปทำงานเบื้องหลังค่ะ โปรดิวซ์อะไรพวกนี้ก็ชอบเหมือนกันค่ะ
ทั้งเรียนทั้งทำงานพร้อมกัน มีปัญหาเรื่องเวลาชนกันบ้างไหม
ช่วงนี้เป็นช่วงที่หนูปิดเทอมอยู่ค่ะ แล้วก็กำลังจะเปิดเทอม เทอมหน้า แต่ด้วยความที่หนูเข้าวงตอนที่เรียนมหา'ลัยแล้ว ปัญหาที่จะจัดการเรื่องวิชาเรียนมันก็จะง่ายกว่าคนที่เรียนโรงเรียน เพราะหนูก็จะสามารถเลือกวิชาได้ว่าจะเรียนเช้าเรียนบ่าย หนูก็เลยเลือกเรียนทุกอย่างตอนเช้าค่ะ จากที่แต่ก่อนหนูลง 5 ตัวต่อเทอม ตอนนี้ก็ลดเหลือ 3 ตัวต่อเทอม ตอนนี้หนูอยู่ปี 2 อายุก็ 17 เอง ก็เลยจะมีเวลามากกว่าคนอื่นด้วย ก็เลยเลือกจะลดวิชา แล้วก็รอถ้าช่วงไหนที่มีงานน้อยหน่อย ก็ค่อยกลับไปลงเพิ่ม หนูไม่อยากทำทั้งสองอย่างแล้วมันไม่ดีค่ะ อะไรที่พอลดได้ก็จะลดเพื่อที่จะคงมาตรฐานให้มันดีค่ะ มันจะได้มีคุณภาพด้วย
...
การเรียนยากไหม
ยากค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่า หนูไม่ได้มีพื้นฐานตอนมัธยมปลาย ทุกอย่างมันก็จะแปลกใหม่มาก มหา'ลัยก็จะสอนเร็วมาก บางครั้งมันเป็นเลกเชอร์ ถ้ามัธยมก็จะเปิดหนังสืออ่านทีละหน้า แต่พอมันเป็นเลกเชอร์เขาก็จะพูดๆ ซึ่งบางคนเขาจะไม่ใช่อาจารย์ก็จะสอนไม่เหมือนคุณครูค่ะ เราก็ต้องกลับไปทำความเข้าใจเอง ก็เลือกทำความเข้าใจในห้องเลย ด้วยความที่หนูเป็นคนขี้เกียจในระดับหนึ่ง (หัวเราะ) หนูก็เลยไม่ชอบกลับไปอ่าน ก็จะทำความเข้าใจตรงนั้นเลย เพื่อจะได้จำได้เลย เวลาสอบก็จะได้ทำได้ค่ะ
คาดหวังกับการเรียนไหม
คาดหวังค่ะ เพราะว่าตอนเด็กๆ หนูเรียนได้ที่หนึ่งตลอดเลย พอย้ายมาอินเตอร์ก็ได้เกียรติบัตรการเรียนดีมาตลอดเลย พอเข้ามหา'ลัยก็อยากได้การเรียนดีเหมือนกัน ก็เลยเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ไม่อยากอัดเรียนทีเดียวเพราะถ้าเรียน 5 ตัวแล้วเราไม่สามารถโฟกัสได้ทั้งหมด คะแนนเฉลี่ยรวมก็จะไม่ดี ก็สู้เอาแค่ 3 ตัวให้คะแนนเฉลี่ยมันดี มันจะได้ดีๆ
คุณพ่อคุณแม่ว่าอย่างไรบ้างพอมาอยู่ตรงนี้ แล้วเขาคาดหวังเรื่องการเรียนไหม
เขาแค่บอกว่าห้ามทิ้งการเรียนนะ แต่เขาก็ปล่อยให้เราทำตรงนี้ให้ดีเหมือนกัน เวลาเราต้องการความช่วยเหลือ เขาก็ยินดีช่วยค่ะ
พอดังแล้วใช้ชีวิตลำบากไหม
หนูรู้สึกว่า หนูก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ แต่ก็ต้องมีการระมัดระวังมากขึ้น ด้วยความที่แม่หวงด้วย ก็จะไม่ค่อยไปไหนคนเดียวอยู่แล้ว แต่ก็จะระวังตัวมากขึ้น
แล้วเวลาไปเรียนต้องระวังไหม
ช่วงที่ยังเรียนอยู่วงยังไม่ค่อยดัง ช่วงซิงเกิลแรกๆ ค่ะ คนก็จะไม่ค่อยรู้จักเท่าไร แล้วพอตอนนี้ที่ คุกกี้เสี่ยงทายมีคนรู้จักมากขึ้น แล้วเป็นช่วงที่หนูดรอปเรียนพอดี แล้วตอนนี้ก็ปิดเทอม แล้วก็กำลังจะเปิดเทอมใหม่หนูก็กำลังลุ้นอยู่ว่าไปถึงปุ๊บแล้วจะเป็นยังไง เพราะพี่ชายก็บอกว่านั่งกินข้าวอยู่ก็ได้ยินคนร้องคุกกี้เสี่ยงทาย แล้วด้วยความที่มหา'ลัยเรียนแบบใช้คอมพ์ นั่งเรียนอยู่ก็แอบถ่ายคนที่ใช้เดสก์ท็อปเป็นรูป BNK48 ก็มีบ้างแล้ว ก็อยากรู้ว่าไปแล้วจะมีอะไรบ้าง
รู้ใช่ไหมว่าตัวเองดังมาก
ก็อ่านข่าวบ้างค่ะ แล้วก็สังเกตจากจำนวนแฟนคลับแล้วก็จำนวนสื่อ แต่สำหรับหนูก็ไม่เคยรู้สึกว่าดังมาก เพราะว่าถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราจะเหลิง (หัวเราะ) ก็ยังรู้สึกว่าเราก็ยังเป็น BNK48 อยู่
พี่ชายหวงไหม
คือสมัยก่อนเพื่อนของปอมก็คือเพื่อนของหนู ด้วยความที่หนูเป็นลูกคนเล็กของบ้าน เป็นผู้หญิงด้วย แม่ก็จะหวงๆ หน่อย ถ้าจะไปเที่ยวก็คือจะต้องไปกับพี่ชายเท่านั้นค่ะ เวลาไปด้วยกันเพื่อนของปอมก็เหมือนเพื่อนของหนูค่ะ ก็อยู่ด้วยกันหมดเลยค่ะ
ตอนนี้พี่ชายรู้ว่าน้องดังหรือยัง
ไม่รู้เหมือนกัน ก็มีขับรถไปรับไปส่ง แต่ว่าปอมก็โอชิ (ชอบที่สุด) เมมเบอร์ในวงก็คือ พี่ตาหวานค่ะ ไม่โอชิหนูเลย ไม่อยู่ในสายตาเลย ใช้เข็มกลัดพี่ตาหวานด้วย (หัวเราะ)
ปัญหวงพี่ชายไหม
ไม่ค่ะ (หัวเราะ) ก็ชีวิตคนเราก็ต้องเผชิญอะไรอยู่แล้ว แค่เขาปลอดภัยหนูก็โอเคแล้ว อยากทำอะไรก็ให้เป็นสิทธิของเขาที่เขาจะเลือก
ขอสเปกหนุ่มในอุดมคติหน่อย
หนูจะชอบคนที่ไม่ใช่คนตามใจ หรือไม่ใช่คนที่เป็นผู้ชายที่แสนดีในอุดมคติของผู้หญิง หนูจะชอบคนดื้อๆ แบดๆ หน่อย
ไม่ค่อยตามใจเรา แบบไปไหนไปกัน ไม่ชอบผู้ชายที่จู้จี้ค่ะ สุดท้ายก็คือชอบผู้ชายที่เขารักเราค่ะ
ปัญเป็นคนยังไง
เป็นคนที่อารมณ์หลายบุคลิกก็ว่าได้ บางครั้งก็ดีดมาก บางครั้งก็นั่งนิ่งๆ คือหนูก็ไม่รู้ค่ะว่าหนูเป็นคนยังไง (หัวเราะ) แต่หนูว่าหนูน่าจะเข้ากับคนง่าย
ข้อห้ามในวงมีผลกระทบต่อชีวิต ทำให้ใช้ชีวิตลำบาก
อย่างมากก็คือห้ามถ่ายรูปกับคนอื่น ห้ามแตะเนื้อต้องตัวค่ะ แต่หนูไม่มองเป็นปัญหาในชีวิตนะคะ หนูว่าเป็นข้อดีด้วยซ้ำ เพราะว่ายิ่งพอเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีคนเข้ามา เราก็สามารถบอกได้ว่า อันนี้เป็นกฎของบริษัทค่ะ ไม่ได้ ก็คือจะใช้อันนี้ที่เป็นตัวปกป้องเราได้ค่ะ
ที่มาภาพ:pun.bnk48official