กรมเชื้อเพลิงพลังงานจับมือ ปตท. เป็นเจ้าภาพขนย้ายท่อยักษ์ปริศนา ยาวเกือบ 200 เมตร หนักกว่า 20 ตัน เกยหาดบ้านบางเบิด เขตติดต่อชุมพร-ประจวบฯ หน่วยงานเกี่ยวข้องยังงมเข็มในมหาสมุทร หาเจ้าของไม่เจอ คาดเป็นเป็นท่อขนถ่ายน้ำมันระหว่างเรือกลางทะเลลึก...
จากรณีชาวบ้านพบท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 80 เซนติเมตร หรือประมาณ 20 นิ้ว ความยาวเกือบ 200 เมตร น้ำหนักมากกว่า 14 ตัน ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาดบ้านบางเบิด หมู่ที่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร นานกว่า 1 สัปดาห์ หน่วยงานเกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบแล้วแต่ยังให้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน และไม่เร่งขนย้ายท่อดังกล่าวออกจากพื้นที่ จนผู้นำชุมชนและกลุ่มนักอนุรักษ์ออกมาเรียกร้องให้รีบขนย้ายออกไปโดยเร็ว เนื่องจากภายในท่อยักษ์ยังมีคราบน้ำมันดิบสีดำติดอยู่ และแตกกระจายออกมาปนเปื้อนในน้ำทะเล บนหาดทราย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาชีพชาวประมง และการท่องเที่ยวของจังหวัด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ก.พ. 61 นายทองรัตน์ วรรณนุช พลังงานจังหวัดชุมพร นายวชิรรัตติ อันอัฎพัฒน์ ผจก.คลังน้ำมัน บริษัทไออาร์พีซี สาขาชุมพร นายปณัย หนูแท้ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร นางอวยพร ชิดดุษฏี ผอ.ส่วนสิ่งแวดล้อม ทสจ.ชุมพร นายธีรวุฒิ นุชนงค์ ปลัดอำเภอปะทิว นายสนธยา ประไพทรัพย์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ที่ 5 ชุมพร นายสมโภชน์ อุบลกาญจน์ กำนันตำบลปากคลอง นายบุญส่ง จารึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลปากคลอง และบริษัทผู้รับเหมาขนย้าย ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบวางแผนการขนย้ายท่อยักษ์ออกจากชายหาด
...

โดยบริเวณดังกล่าวเป็นชายหาดสวยงามทอดยาวด้านทิศเหนือเป็นชุมชนบ้านบางเบิด ติดกับเขตแดน อำเภอบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทิศใต้ติดกับโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ รัชกาลที่ 9 และอ่าวถ้ำธง ซึ่งมีเนินทรายหนึ่งในสยามสันทรายงามที่ชุมพร เป็นย่านชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ขณะที่ท่อยักษ์เจ้าหน้าที่ได้วัดรัศมีวงกลมกว้าง 80 เซนติเมตร หรือประมาณ 20 นิ้ว มีนอตขันต่อกันเป็นช่วงยาวช่องละ 12 เมตร จำนวน 14 ท่อ รวมความยาวทั้งหมด 168 เมตร น้ำหนักท่องละ 1 ตัน แต่เนื่องจากถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาดตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. จนถึงวันนี้รวม 10 วัน ภายในท่อทรายทะเลเข้าไปอัดแน่นอยู่จำนวนมาก ทำให้แต่ละท่อมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 300-500 กิโลกรัม จึงทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นรวมมากกว่า 20 ตัน ซึ่งการขนย้ายต้องขันนอตข้อต่อออกทั้งหมดเพื่อให้เหลือเป็นท่อนๆ แล้วใช้รถเครนชักลากใส่บรรทุกไปกับรถเทรลเลอร์ โดยกรมเชื้อเพลิงพลังงาน ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้ไปช่วยดำเนินงาน เพื่อเร่งคลี่คลายปัญหาไม่ให้ยืดเยื้อ เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และกลุ่มผู้ผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย
นายจันติ กิตติชนม์ธวัช หัวหน้าบริษัทผู้รับเหมาการขนย้ายกล่าวว่า วันนี้ลงมาประเมินการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขนย้ายและเคลียร์หน้างาน โดยช่วงบ่ายจะใช้รถแบ็กโฮตัดดินที่ฝังท่อออกก่อน และจะต้องไม่ให้สิ่งปนเปื้อนที่มีอยู่ภายในท่อต้องตกหล่นอยู่บนหาด ต้องใช้ความระมัดระวัง และความชำนาญเป็นกรณีพิเศษ คาดว่าจะสามารถขนย้ายแล้วเสร็จประมาณ 3 วัน

ด้าน นายทองรัตน์ วรรณนุช พลังงานจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ท่อทั้งหมดจะขนย้ายไปเก็บไว้เป็นของกลางที่ สภ.มาบอำมฤต อ.ปะทิว เพื่อประกาศและสืบหาเจ้าของ ซึ่งกรมพลังงานเชื้อเพลิง ได้หมายให้ทาง บริษัท บีบีเอ็มที จำกัด ส่งผู้เชี่ยวชาญลงมาตรวจวัดสารที่ตกค้างภายในท่อ ซึ่งพบว่าไม่มีสารหนูและสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และผลกระทบต่อชายหาด
ส่วนสาเหตุนั้นเบื้องต้น จากการตรวจสอบบริษัทเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมันและบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย ไม่พบข้อมูลว่ามีบริษัทใดใช้ท่อส่งน้ำมันขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้ว ที่มีใช้กันอยู่เฉพาะไม่เกิน 16 นิ้วเท่านั้น คาดว่าน่าจะเป็นท่อขนถ่ายน้ำมันระหว่างเรือกลางทะเลลึก จากการตรวจดูมีชื่อผู้ผลิตและทะเบียนข้อมูลติดอยู่เป็นท่อขนาดใหญ่ผลิตในต่างประเทศ ส่วนจะเป็นของใคร บริษัทใดนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ.
...