นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. อ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญรัฐมนตรีถือหุ้นสัมปทานรัฐก่อนรับตำแหน่งทำได้ แนะ พิจารณาสัดส่วนหุ้นว่ามีผลต่อการชี้ขาดของ คกก.บริษัทที่ถือหุ้นหรือไม่

วันที่ 15 ก.พ. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่ นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัญญาสัมปทานและเป็นคู่สัญญากับรัฐ โดยถือครองหุ้น เอสซีจี ของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด จำนวน 5,000 หุ้นว่า ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ยกเว้นในเรื่องดังกล่าวไว้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยว่าการที่รัฐมนตรีมีหุ้นอยู่ก่อนรับตำแหน่งไม่ได้อยู่ในข่ายต้องห้าม ซึ่งส่วนตัวไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงการถือครองหุ้นเป็นมาอย่างไร แต่โดยหลักการทั่วไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยมาก็ให้ถือว่ายุติตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่หากจะถือครองหุ้นภายหลังเข้ารับตำแหน่งนั้นทำไม่ได้

แต่หากภายหลังจากเข้ามารับตำแหน่งแล้วจะต้องทำการขายหุ้นดังกล่าวออกไป เพื่อไม่ให้เกิดประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่มีผลในการออกเสียงในที่ประชุมของคณะกรรมการหรือไม่ หากเป็นหุ้นที่มีอยู่จำนวนไม่มากได้กำไรเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร

นายมีชัย กล่าวต่อถึงกรณีที่กลุ่มขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอให้แยกกลุ่มสตรีในการแบ่งกลุ่มเพื่อคัดเลือก ส.ว. เป็นกลุ่มเดียว ว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือในชั้นกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย เพราะทางกลุ่มสตรีมีความกังวล เพราะเป้าหมายเดิมของ กรธ. ต้องการให้แยกกลุ่มสตรีออกมาต่างหาก เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็น ส.ว. อย่างน้อย 10 ที่นั่ง.