(ภาพจากยูทูบ)
เรือค้นหาเครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 เจอเหตุการณ์ซ้ำรอย จู่ๆ หายไปจากจอเรดาร์นานถึง 80 ชั่วโมง กว่าจะสามารถกลับมาติดต่อได้ เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
เมื่อ 6 ม.ค. 61 สื่อต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุการณ์ปริศนาขึ้นกับเรือของบริษัทThe Seabed Constructor (ซีเบด คอนสตรัคเตอร์) ที่ออกค้นหาเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 พร้อมผู้โดยสาร 239 คนที่หายไปอย่างลึกลับมานานกว่า3ปี เนื่องจากจู่ๆ ระบบ Automatic Identification System หรือ (AIS) ของเรือลำดังกล่าวได้ขาดการติดต่อจากเรดาร์ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา และหายไปนานนับ 80 ชั่วโมง ก่อนจะสามารถกลับมาติดต่อได้ตามปกติ
ข่าวแจ้งว่า ถึงแม้ระบบ AIS ของเรือค้นหาลำดังกล่าวจะกลับมาแล้ว แต่สาเหตุที่ทำให้เรือหายไปจากจอเรดาร์นานถึง 80 ชม.นั้น ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ขณะที่เรื่องตื่นเต้นครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเรือลำนี้ได้ออกค้นหา MH370 ได้เพียงแค่ 10 วัน เพื่อติดตามหาเครื่องบินโดยสารมาเลเซียแอร์ไลน์ส ที่หายไปจากจอเรดาร์ 1 ชั่วโมงหลังเครื่องบินทะยานขึ้นจากสนามบินในกรุงกัวลาลัมปอร์ มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อ 8 มีนาคม 57 และปฏิบัติการค้นหาในมหาสมุทรอินเดียที่ผ่านมา ไม่พบซากเครื่องบิน ซึ่งเป็นบริเวณที่คาดว่าเป็นจุดตกเลย
...
เว็บไซต์ The Sun ชี้ว่า การที่จู่ๆ เรือค้นหาของบริษัทซีเบด คอนสตรัคเตอร์ หายไปจากจอเรดาร์นานถึง 80 ชม. ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดต่อชะตากรรมของเที่ยวบินMH370 ที่เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์อย่างลึกลับเช่นกัน
ทั้งนี้ เรือค้นหาของบริษัทซีเบด คอนสตรัคเตอร์ เป็นเรือที่ออกปฏิบัติการค้นหาภายใต้ข้อตกลงบริษัท Ocean Infinity (โอเชียน อินฟินิตี้) ที่อาสาเข้ามาค้นหาเที่ยวบินMH370 โดยมีการตกลงกับรัฐบาลมาเลเซียว่า ‘ถ้าไม่เจอก็ไม่ต้องจ่าย’ โดยบริษัทโอเชียน อินฟินิตี้ ได้ออกแถลงการณ์ว่าจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เรือค้นหาลำดังกล่าวได้ออกค้นหาในบริเวณที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นจุดตกของ MH370 โดยเรือค้นหาได้แล่นออกจากท่าเรือเมืองเดอร์บัน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา และไปถึงบริเวณที่คาดว่าเป็นจุดตกเมื่อ 21 ม.ค. โดยลูกเรือได้ใช้อุปกรณ์โซนาร์สแกนค้นหาซากเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์สลำนี้