2 หนุ่มอดีตอาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.วังทองหลาง อ้างตัวเป็นตำรวจคอมมานโดกองปราบ ตระเวนอุ้มเหยื่อคดียาเสพติดไปคุยก่อนยัดข้อหา บังคับให้ยอมจ่ายเงินแลกอิสรภาพ สุดท้ายโดนคอมมานโดตัวจริงซ้อนแผนรวบ

วันนี้ 3 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (คอมมานโดกองปราบฯ โชคชัย 4) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ พ.ต.ท.วชิรา ยาวไทสงค์ รองผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วันชนะ ทิพอาสน์ สว.กก.ปพ.บก.ป ร.ต.อ.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล รองสว.กก.ปพ.บก.ป.นำกำลังตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม จับกุมนายสุรศักดิ์ กรวยสวัสดิ์ อายุ 39 ปี และนายสุริยา กวยระดาน อายุ 39 ปี อดีตอาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.วังทองหลาง หลังได้รับการร้องเรียนว่าแอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม เข้ามากรรโชกทรัพย์ เจ้าของร้านข้าวแกงแห่งหนึ่งย่านวังทองหลาง

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนแอบอ้างเป็นตำรวจคอมมานโดกองปราบอุ้มผู้เสียหายไปรีดทรัพย์ หลังพบว่าเหยื่อมียาเสพติดประเภทน้ำต้มใบกระท่อมไว้ในความครอบครองก่อนนำตัวขึ้นรถ ขับมาที่หน้ากองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม (คอมมานโดกองปราบปราม) ภายในซอยโชคชัย 4 พร้อมข่มขู่ผู้เสียหายให้ยอมจ่ายเงิน 30,000 บาทแลกกับการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดี หากไม่จ่ายจะนำตัวส่งให้ร้อยเวรดำเนินคดีทันที

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า ด้วยความกลัวผู้เสียหายได้ตกลงจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ แต่ในตัวมีเงินอยู่เพียง 20,000 บาท จึงขอเลื่อนจ่ายส่วนที่เหลืออีก 10,000 บาทในภายหลัง เมื่อผู้ต้องหาปล่อยตัวจึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ ไปแจ้งตำรวจ 191 ให้ตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หลังตรวจสอบพบว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นตำรวจแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ครบกำหนดนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลือ เจ้าหน้าที่จึงได้ซ้อนแผนให้ผู้เสียหายนัดผู้ต้องหาทั้งสองคนมารับเงินใกล้กับคอมมานโด กองปราบปราม แล้วแสดงตัวจับกุมทั้งคู่มาดำเนินคดี

...

ผกก.ปพ.บก.ป.กล่าวอีกว่า สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคน รับสารภาพว่า เคยเป็นอาสาสมัครตำรวจของ สน.วังทองหลาง รู้ขั้นตอนการทำงานของตำรวจเป็นอย่างดี นำรูปแบบการทำงานไปหากินผิดกฎหมาย ด้วยการออกตระเวนในพื้นที่หัวหมาก วังทองหลาง และโชคชัย 4 หากพบผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดจะเข้าตรวจค้น หากเจอยา จะเจรจาเรียกรับทรัพย์สินแลกกับการไม่ดำเนินคดี นอกจากนี้ยังให้การอีกว่า มีลูกพี่เป็นคนมีสีชื่อ “ผู้กองดา” คอยสั่งการอยู่เบื้องหลัง เงินที่ได้มาจะส่งให้ลูกพี่ก่อนจัดสรรปันส่วน ที่ผ่านมาก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.