"เครือข่ายใช้บุหรี่ไฟฟ้า" ยันสาธารณสุขอังกฤษการันตีความปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน พร้อมส่งทีมงานจากแดนผู้ดี ให้ข้อมูลกับรัฐสภาไทย

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.61 นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า "ลาขาดควันยาสูบ End Cigarette Smoke Thailand (ECST)" และเฟซบุ๊กเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" เปิดเผยกรณีมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ระบุว่า ผลการศึกษาของสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England: PHE) ไม่มีความน่าเชื่อถือและมีผลประโยชน์ทับซ้อนว่า "PHE รับทราบเรื่องนี้และได้ส่งอีเมลมายังเรา ยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน พร้อมชี้แจงเพิ่มเติมว่ามาตรการควบคุมยาสูบในประเทศอังกฤษ ได้รับการยอมรับว่าเป็นแผนงานที่ดีที่สุดในยุโรป โดยแผนงานฯให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและแนวทางใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและจัดการกับความเสี่ยงไปพร้อมกัน และพร้อมเดินทางมาชี้แจงกับรัฐสภาของไทยหากได้รับคำเชิญ"

นายมาริษ กล่าวต่อว่า เนื้อความในอีเมลจาก นายมาร์ติน ดอคเรลล์ หัวหน้างานควบคุมยาสูบ สาธารณสุขอังกฤษ ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบริหารของกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ (Department of Health) ระบุว่า ข้อสรุปว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ 95% นั้น เป็นการเปรียบเทียบกับควันที่เกิดจากการเผาไหม้ของบุหรี่มวน ซึ่งผลการศึกษาหลายฉบับชี้ให้เห็นตรงกันว่า สารพิษและความเสี่ยงของการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีน้อยมาก ผลวิจัยล่าสุดของ ดร.ไลอ้อน ชาแฮบ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารด้านการแพทย์ Annals of Internal Medicine ศึกษาผลกระทบระยะยาวของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสรุปสอดคล้องกันว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งเพียง 0.5% เมื่อเทียบกับบุหรี่ปกติ หรือใกล้เคียงกับการเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินทดแทน เช่น แผ่นแปะนิโคติน ผลการศึกษาเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กรต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าที่ออกมายอมรับด้วยว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากพิษภัยของบุหรี่ได้ กรณีที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ กล่าวอ้างว่ารายงานของ PHE มีความผิดพลาดนั้น PHE ยืนยันในหลักฐานว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากพิษภัยของบุหรี่ได้ และมีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่จัดการได้

ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีคล้ายคลึงกันเกิดขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อคณะกรรมาธิการด้านสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุและและการกีฬา รัฐสภาออสเตรเลียทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) เพื่อหามาตรการในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และมีนักรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับรายงานของ PHE ทำให้สาธารณสุขอังกฤษต้องมีคำชี้แจงไปยังรัฐสภาของออสเตรเลียต่อกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่าประเทศอังกฤษมีมาตรการควบคุมยาสูบแบบครบวงจรและสอดคล้องกับ MPOWER ขององค์การอนามัยโลก(WHO) กรณีข้อสังเกตเรื่องระเบียบการทำวิจัยของ PHE ใน British Medical Journal (BMJ) เป็นเพียงการรายงานข่าวทางสื่อมวลชน ไม่ใช่เป็นข้อสรุปจากการศึกษาเอกสารทางวิชาการต่างประเทศ (Peer reviewed study) และยังมีการอ้างว่าผู้ทำวิจัยของ PHE ได้รับการสนับสนุนโดยบริษัทยาสูบ ซึ่งต่อมา BMJ หยุดพูดถึงข้อกล่าวหาดังกล่าว และได้ตีพิมพ์แก้ไขข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จดังกล่าวเผยแพร่ใน The Observer, The Times และ CBC

...

ทั้งนี้ PHE ยืนยันว่าผู้ทำการวิจัยได้ทำหมายเหตุชัดเจนว่าตัวเลขประมาณการว่า "บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป 95%" เป็นการสรุปจากการศึกษาเอกสารวิชาการที่ได้รับการตรวจทานโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed) เกี่ยวกับความปลอดภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียได้เผยแพร่เอกสารฉบับดังกล่าวเพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าไปศึกษาได้

"สาธารณสุขอังกฤษได้ส่งข้อมูลจำนวนมากมาให้เราเพื่อยืนยันถึงการศึกษาและนโยบายลดอันตรายจากยาสูบของอังกฤษ และยังบอกด้วยว่าหากได้รับการเชิญจากรัฐสภาไทย ก็ยินดีที่จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อให้ข้อมูลจะได้เป็นประโยชน์ต่อการวางนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศเรา เหมือนกับที่ได้เดินทางไปแชร์ข้อมูลกับหลายๆ ประเทศมาแล้วเช่นเกาหลีใต้ และไอร์แลนด์ เครือข่ายฯ จะส่งจดหมายฉบับนี้พร้อมกับเอกสารของทาง PHE ไปให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล่ว" นายมาริษ ระบุ