เรียกว่าเป็นอีก 1 สาวที่ผ่านความรักมาไม่น้อย สำหรับสาวสวยเซ็กซี่ เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร และในวันนี้สาวเมย์ได้เจอกับความรักที่ทำให้ตัวเองมีความสุขและเป็นตัวของตัวเองที่สุด กับแฟนหนุ่มนักฟุตบอลชื่อดังรุ่นน้องอย่าง เจ ชนาธิป

เมื่อได้เจอสาวเมย์ ที่เดินทางมาโปรโมทลิปสติกแบรนด์ DOK ที่ร่วมลงทุนทำกับเพื่อนๆ ซี้อย่าง หนิง ปณิตา, เป้ย ปานวาด และกระแต ศุภักษร ที่ไทยรัฐออนไลน์ เลยไม่พลาดที่จะอัพเดตเรื่องราวความรักของสาวเมย์

ซึ่งก่อนจะมาเจอความรักในครั้งนี้ เมย์ได้เล่าแบบหมดเปลือกถึงชีวิตความรักของตัวเองที่ผ่านมา ว่ามีช่วงเวลาที่เสียสูญเมื่อเพื่อนๆ ทยอยแต่งงาน มีครอบครัว จนทำให้ตัวเองต้องดิ้นรนหาความรักและต้องพบเจอกับความรักแบบงงๆ ว่า 

เดินทางไปหาเจที่ญี่ปุ่นบ่อยมาก?
“ก็ไปหาเค้าทุกเดือน เดินทางบ่อย เพราะสัญญาไว้ก็ต้องเป็นสัญญา (หัวเราะ) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปสัญญากับเค้าตอนไหน คือเค้าบอกให้ไปหาทุกเดือนเลยนะ เราก็โอเคๆ คือตอนแรกกะว่ารอบล่าสุดจะไม่ไป เพราะเดี๋ยวเค้าก็กลับมา แต่พอดีมีรายการจะไปสัมภาษณ์เค้าและอยากได้เมย์ด้วย เจบอกว่ารายการออกค่าใช้จ่ายให้หมดเลย ให้มาสิ คิดถึง ก็เลยโอเคเพราะมีคนออกให้ก็เลยไป”

...

รักระยะไกลมีผลต่อความสัมพันธ์เมย์กับเจมั้ย?
“ถ้าผลในด้านความสัมพันธ์ไม่มีเลย แต่กลับดีเพราะว่าพอไกลกัน กลับคิดถึงกัน มันทำให้เราทะนุถนอมกันมากขึ้นเวลาเจอ ไม่งอแง ไม่ทะเลาะ ก็เลยรู้สึกว่า เวลาเจอกันครั้งนึง 10 วันมันมีค่า ก็มาพูดคุยกันดีๆ”

ทางนู้นอยากจะได้ตัวเจไปเล่นถาวร เมย์โอเคมั้ย?
“คือจริงๆ ที่เค้าไป เราก็เป็นคนสนับสนุน ตอนที่รู้ว่าทางญี่ปุ่นติดต่อมา เค้าก็ยังดูงงๆ ว่าจะเอายังไงดี แต่เมย์ให้เค้าไป ทุกคนก็ตกใจ แปลกทำไมถึงอยากให้ไป

เพราะเมย์คบกับเค้ามา เมย์รู้ว่าความฝันเค้าคือการได้ไปค้าแข้งต่างประเทศ มันก็เลยรู้สึกว่านี่คือความฝันของเค้า เมื่อมีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ ถ้าเค้าต้องอยู่ยาวก็ยินดี (ยิ้ม) คือญี่ปุ่นมันไม่ได้ไกลมาก เมย์ไม่ได้ชอบนั่งเครื่องบินหรอก แต่ 6-7 ชั่วโมงยังไหว โอเคค่ะ”

เมย์ต้องแบ่งเวลาให้กับเจ 10 วันใน 1 เดือน?
“30 วันของเมย์ใน 1 เดือน 10 วันทำงานอย่างหนัก อีก 10 วันทำงานในมือถืออย่างเดียวเพื่อบินไปหาเค้า และอีก 10 วันที่เหลือก็ต้องทุ่มเทให้พ่อแม่ เพื่อน หมา ชีวิตเมย์เป็นอย่างนี้ค่ะในตอนนี้ (ยิ้ม)

ส่วนงานในวงการเมย์ตั้งใจไม่รับเยอะ เพราะรู้ตัวว่าอายุเยอะขึ้นแล้ว จะให้มานั่งเล่นละครเทคิว 7 วันไม่ได้แล้ว เราโตขึ้นอีกระดับนึงทำธุรกิจ จะให้ไปสู้กับเด็กใหม่ๆ ก็คงไม่ใช่ แต่ก็มีคนติดต่อมา ดีใจที่คนยังอยากร่วมงานกับเรา อยากดูเราเล่น เมย์รับอยู่นะคะ แต่เน้นสั้นๆ ถ่ายไม่นาน เพราะเมย์ไม่สามารถรับละครยาวได้ เพราะเมย์ต้องบินทุกเดือน”

มาอยู่กับเพื่อนๆ ที่มีครอบครัวแล้ว รู้สึกกดดันมั้ย?
“เคยกดดันในปีที่ทุกคนแต่งงานกันหมด มันเป็นปีที่เมย์รู้สึกเคว้งคว้าง ปีนั้นวุ้นเส้นแต่ง แป้งแต่ง เป้ยแต่ง เป็นปีที่เมย์รู้สึกว่างงกับชีวิตมาก เสียศูนย์อยู่ประมาณ 2-3 ปี ไม่เข้าใจตัวเอง และอยากแต่งงาน ก็ไปเจอความรักแบบงงๆ จนถึงตอนนี้เพื่อนก็กลับมาอยู่กับเราหลายคน (หัวเราะ) หรือไม่ก็ส่วนนึงมีลูกไปเลย อีกส่วนก็กลับมาอยู่กับเรา

ก็เลยรู้สึกเฉย ตอนนี้เรามีความสุขแล้ว เรารู้แล้วว่าความสุขของเราคืออะไร เราค้นหาตัวเราเจอแล้ว ความสุขของเราไม่ใช่การแต่งงาน มันคือหาใครสักคนที่เข้าใจเรา ให้กำลังใจเรา เติมเต็มเรามากกว่า เมย์ก็คิดว่าเจอแล้ว”

คบกันมา 3 ปีแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าไม่น่ารอด?
“ตอนแรกที่คบกันก็บอกตรงๆ ว่า นอยต์ ไม่กล้าบอกใคร เพราะเค้าก็ดูเป็นคนที่ไม่น่าจะมาคบกันได้ เค้าเองก็คิดว่ามันจะรอดเหรอ แต่กลายเป็นว่า อะไรที่เราไม่ได้คาดหวังมันก็มาเติมเต็มเราได้

...

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเราเหมือนกันยังไง ทุกคนเห็นแต่ความแตกต่าง ว่านั้นเค้าเด็ก เราแก่ เราสูงกว่าเค้า เค้าตัวเล็ก เค้าเป็นนักฟุตบอล เราเป็นดารา ไปเอาทำไม แล้วมันจะยังไง อันนั้นคือสิ่งที่ทุกคนเห็นและเมย์ก็เห็น เราเลยระวังในการคบกันว่าเราก็ต่างกันเยอะแล้ว นอกเหนือจากนั้นอย่าต่างกันเยอะเลย (ยิ้ม) มันก็เลยทำให้เรารู้สึกลงตัว

เมย์ชอบดูเค้าเตะบอล เมย์ชอบดูกีฬา ก็เลยไม่ขัด ซัพพอร์ตเต็มที่ ส่วนเค้าก็เข้าใจในความเป็นเรา สิ่งที่เราเหมือนกันคือเราชอบแต่งตัว ชอบเล่นเกม วันว่างเราไปดูหนัง เราชอบคุยกัน คือเราไม่ได้เป็นคนที่ติดแฟนทั้งคู่ แต่เราชอบคุยกัน เหมือนเพื่อนกันว่าเราทำอะไร

เค้าอยากจะเห็นหน้าเราก่อนนอน อยากได้กำลังใจก่อนที่เค้าจะแข่ง ก่อนที่เค้าจะแข่งเค้าจะต้องโทรหาคุณแม่เค้าก่อน แล้วก็โทรหาเรา เป็นการขอกำลังใจ เราก็มีความสุขในทุกครั้งที่เห็นเค้าอยู่ในสนาม เป็นการส่งกำลังใจให้กันตลอด 3 ปีที่คบกัน ดีมีความสุขดี

ยอมรับว่าคนรอบข้าง แม้แต่เพื่อนสนิทยังไม่เห็นด้วย ถามว่าจะเอาจริงเหรอ ทุกคนดูห่วงด้วย เพื่อนบางคนบอกว่าเดี๋ยวเมย์ก็เบื่อ เมย์คบเด็กบ้าหรือเปล่า ทำไมไม่คบคนโตกว่า เดี๋ยวคบไปเลิกก็โดนด่า เราก็รู้สึกว่าไม่รู้จะบอกอะไรยังไง ถึงวันนี้ก็ให้เค้าดูเอาเองดีกว่า ว่าเราโอเคนะ มีความสุขอยู่

...

เพื่อนๆ ทุกคนโอเค ยอมรับ เค้ากลายเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ ขวัญใจของที่บ้าน จากเดิมที่ทุกคนไม่พูดอะไร แต่ตอนนี้ทุกคนถามถึงเค้าตลอด เมย์รู้สึกดีที่เพื่อนโอเคกับเค้า คนรอบตัวโอเคกับเค้า แถมยังมีเพื่อนมาบอกว่า ไม่เคยเห็นเมย์มีความสุขและเป็นตัวเองแบบนี้ เมย์มีความสุขมาก เมย์ไปเที่ยวกับเพื่อนได้โดยไม่ต้องห่วงเค้า

คือเมื่อก่อนถ้ามีแฟน เมย์จะหวงว่าแฟนว่าเค้าทำอะไร เค้าจะโกรธมั้ยถ้าเราอยู่กับเพื่อน เราจะต้องรีบกลับมั้ย มันจะมีความที่ไม่เป็นตัวเอง แต่คบกับคนนี้ เมย์สามารถอยู่กับเพื่อนได้เต็มที่ โดยที่เค้าสบายใจ เค้าสามารถทำงานของเค้าได้เต็มที่ เรารู้ตารางานของกันและกัน เจคือผู้ชายที่ไว้ใจได้”

...

อะไรที่ทำให้เราอยู่กับเค้าแล้วมีความสุข?
“เค้าไม่ห้ามอะไรเราเลย และเราก็ไม่ห้ามอะไรเค้า แต่เรามีความเกรงใจกัน เค้ารักครอบครัว ทุกวันนี้เค้าหาเงินได้เยอะแต่ก็ให้ที่บ้านหมด และให้ตัวเองน้อยมากถ้าเค้ารักครอบครัวแล้วเราได้ไปอยู่ในครอบครัวเค้าเค้าก็คงจะเต็มที่กับเรา เมย์ชอบคนที่เค้าสปอร์ตกับพ่อแม่มากกว่าคนที่สปอร์ตกับคนข้างนอกแต่พ่อแม่ไม่ค่อยเลี้ยงดู แบบนั้นเราจะไม่ชอบ แต่คนนี้เค้าเต็มที่กับครอบครัว รักสัตว์ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน มีวินัย ขยัน”

เริ่มคุยเรื่องแต่งหรือยัง?
“คุยนะ แต่ต้องไปถามเค้าเอง เมย์รอได้ ไม่น่าจะนานแล้วค่ะ แต่จะเร็วขนาดไหนต้องไปถามเค้า (ยิ้ม) แต่ถ้าต้องแต่งงานแล้วเค้าต้องไปทำงานที่เมืองนอก เมย์ยังงงอยู่ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ ก็ต้องทำใจให้เค้าไปล่าฝันก่อน ให้กำลังใจแต่ก็โอเคเมย์มีความสุข มีตื่นเต้นไปกับเค้าด้วย (ยิ้ม)”