ไม่ร้องไห้ไปนะคะซิส...เจ๊รู้ค่ะว่า 'ความโสด' มันเป็นเรื่องเศร้าของสาวๆ หลายคน ดังนั้นถ้าใครไม่อยากเศร้า ขอเชิญทางนี้ค่ะ เพราะเราจะพาคุณไปไหว้พระขอพรเรื่องความรัก ในสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่า "ขลัง" เเละ "ศักดิ์สิทธิ์" มาก 

ต้นปีแบบนี้ เป็นโอกาสดีในการเดินสายไหว้พระ-ทำบุญ วันนี้ เกอิช้อย จะพาสาวโสด-หนุ่มโสดทั้งหลายบินลัดฟ้าไปขอพรที่วัดดังของฮ่องกง เนื่องจากวัดนี้ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการขอเนื้อคู่ ...แหม เกริ่นมาขนาดนี้ ช้อยรู้อยู่แล้วค่ะว่าหลายคนต้องเดาถูก ใช่ค่ะ! ช้อยหมายถึงวัดหวังต้าเซียนนั่นเองค่ะ

เริ่มต้นด้วยการเดินทาง คุณหนุ่มๆ สาวๆ ทั้งหลายขา เราหวังจะมีคู่อย่างเดียวไม่ได้นะคะ ต้องฉลาดด้วย ดังนั้นการเลือกตั๋วเครื่องบินก็สำคัญค่ะ หมั่นรอดูโปรโมชั่นจากสายการบินต่างๆ ถ้าเงินเหลือจะนั่งอะไรก็ไม่ว่ากัน แต่ฐานะระดับช้อย...ช้อยรอตั๋วโปรโมชั่นเท่านั้นค่ะ เพราะเงินที่เหลือจะได้เอาไปช็อปปิ้ง กินเที่ยวให้หนำใจ ช้อยไม่อยากจะคุย...แต่ครั้งหนึ่งช้อยเคยสอยตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกงมาได้ในราคา 4,000 บาทเท่านั้น (ทำหน้าภาคภูมิใจระดับได้รางวัลออสการ์)

การเตรียมพร้อมอีกอย่างที่สำคัญคือซิมค่ะ ยิ่งหากใครที่อยากจะข้ามไปช็อปปิ้งที่เซินเจิ้น ช้อยแนะนำให้พวกคุณเตรียมซิมไปจากเมืองไทย มันจะง่ายกับชีวิตกว่าเยอะ เพราะคุณจะได้ไม่โดนบล็อกสัญญาณอะไร และในครั้งนี้ซิมที่ช้อยเลือกไปคือ ซิมโกอินเตอร์จากดีแทค และซิมท่องโลกของทรูมูฟเอช 

ในส่วนของสัญญาณ ช้อยคิดว่าสามารถใช้งานได้ลื่นไหลทั้งคู่ ระหว่างที่ใช้ก็ไม่พบปัญหาใดๆ แต่สิ่งที่ชอบคือ...ซองพลาสติกเก็บซิมที่แถมมากับซิมโกอินเตอร์ของดีแทค (สามารถเก็บได้ 2 ซิม) และที่จิ้มถาดซิมของไอโฟน อันนี้ช้อยรักมาก...ดูใส่ใจผู้บริโภคสุดๆ ไม่ต้องทุลักทุเลถอดตุ้มหูมาจิ้มถาดซิมให้เสียลุค คือเค้าเตรียมพร้อมมาสำหรับคนเดินทางจริงๆ 

...

เมื่อเครื่องบินของเราเทียบท่าเข้าสู่ท่าอากาศยานฮ่องกง ใครจะหาของอร่อยรับประทาน ใครจะช็อปปิ้ง หรือใครอยากเช็กอินเข้าโรงแรมก่อนก็ตามใจนะคะ แต่เป้าหมายของช้อยคือที่นี่..."วัดหวังต้าเซียน" (Wong Tai Sin Temple) ส่วนการเดินทางก็ไม่ยาก เพียงนั่ง MTR สายสีเขียว ลงสถานี Wong Tai Sin Exit B3 ออกมาก็เจอเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาเราก็จะเจอจุดไหว้เทพเจ้าต่างๆ อาทิ เทพเจ้าหวังต้าเซียน เจ้าแม่กวนอิม เจ้าที่ เทพเจ้าขงจื๊อ และจุดมุ่งหมายของพวกเรา เทพเจ้าหยุคโหล่ว

ก่อนอื่น ช้อยขอย้อนถึงความเชื่อ-เรื่องราวของเทพเจ้าหยุคโหล่วกันสักนิด (จริงๆ ตอนที่ไปถึงเจอทัวร์ไทยกลุ่มหนึ่ง เลยเนียนๆ เดินตามไป แล้วจำมาจากไกด์) ...ว่ากันว่า เทพเจ้าหยุคโหล่วนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์หรือผู้เฒ่าแห่งจันทรา เนื่องจากมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า (The Old Man from The Moon) ซึ่งคนจีนนับถือท่านในฐานะเทพเจ้าแห่งความรัก ตามตำนานที่ว่าเมื่อภรรยาของท่านเสียชีวิตลง ความรักที่มีต่อภรรยาทำให้ท่านคอยสวดมนต์ภาวนาจนได้ขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์กับภรรยา พร้อมกับคอยทำหน้าที่จดบัญชีรายชื่อของคู่รัก

เดี๋ยวก่อนค่ะซิส! ที่นี่เขามีวิธีการขอที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าเดินเข้าไป ไหว้ แล้วจบนะจ๊ะ ถ้าสังเกตให้ดี ตรงทางขึ้นจะมีป้ายบอกวิธีอย่างละเอียด

ขั้นตอนแรกก็ทำนิ้วตามแบบในรูปเลยค่ะ เอานิ้วโป้งกดปลายนิ้วนาง แล้วเอานิ้วก้อยสอดเข้าไปในรูของนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง ค่อยๆ ทำ ใจเย็นๆ ไม่ยากเกินไปแน่นอน และเมื่อทำนิ้วได้ดังภาพแล้ว ทีนี้เราก็เดินไปเอานิ้วคีบ "ด้ายแดง" ขึ้นมา 1 เส้น และที่สำคัญคือ...ถ้าคีบด้ายแดงมาแล้ว ห้ามปล่อยด้ายหลุดมือนะคะซิสสสส

...

หลังจากนั้นก็เดินไปทางรูปปั้นองค์เทพเจ้าหยุคโหล่ว เคารพท่านก่อน ตั้งนะโม 3 จบด้วยก็ดีค่ะ หลังจากนั้น สาวๆ ขอให้เดินไปทางรูปปั้นเจ้าบ่าว ส่วนหนุ่มๆ เดินไปทางรูปปั้นเจ้าสาว และขอเลยค่ะ อยากได้ผู้ชายแบบไหนก็ขอไปเลย สูง ยาว เข่าดี มีสติ มีสมอง ศีลเสมอกัน ซื่อสัตย์  จิตใจดี อยากได้แบบไหนขอไปให้หมด

สาวๆเชื่อกันว่า...ยิ่งมัดด้ายแดงสูงเท่าไหร่ แปลว่ายิ่งใกล้หัวใจหนุ่มๆมากเท่านั้น
สาวๆเชื่อกันว่า...ยิ่งมัดด้ายแดงสูงเท่าไหร่ แปลว่ายิ่งใกล้หัวใจหนุ่มๆมากเท่านั้น
หนุ่มๆก็ไปผูกด้ายแดงที่ฝั่งเจ้าสาว
หนุ่มๆก็ไปผูกด้ายแดงที่ฝั่งเจ้าสาว

...

พอขอเสร็จแล้วให้เดินไปที่รูปปั้น เอามือไปวนๆ ลูบๆ ที่เท้าสัก 3 รอบ เสมือนกับว่าครั้งนี้เรามาขอพรท่าน โปรดเมตตาประทานพรให้เราเถอะนะ จากนั้นก็นำด้ายแดงที่คีบไว้ไปผูกที่เชือกเลย ตรงไหนก็ได้ แล้วมายืนตรงกลางไหว้ขอพรองค์เทพเจ้าหยุคโหล่วอีกครั้ง ขอให้คำขอของลูกกลายเป็นจริง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี!

อ๋อ...ลืมบอกไปว่าสำหรับคนที่มีคู่แล้วก็ไปขอได้นะ แบบว่าขอให้คุณทั้งสองรักกันไปจนแก่เฒ่า ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรอะไรอย่างงี้

ไหว้พระขอคู่กันอย่างสบายใจไปเรียบร้อยแล้ว เกอิช้อย...ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุข สมหวัง มีพลังบวกในชีวิตเยอะๆ แล้วกลับมาพบกับช้อยใหม่ในสัปดาห์หน้านะจ๊ะ

รัก...จากช้อยเอง