นักธุรกิจญี่ปุ่นนำเข้าสินค้ามือสองย่านบางบัวทอง ร้องถูกกลุ่มคนอ้างเป็น จนท.เข้าจับกุมสินค้า วันเดียว 2 ราย เสียเงินไป 6 หมื่น แถมบังคับต้องจ่ายดูแลรายเดือนอีกเดือนละ 2 พัน ผบช.เห็นแล้ว บอกตำรวจจริง...
วันที่ 22 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น หุ้นส่วนร้านขายของมือสองนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ปากทางเข้าซอยวัดลาดปลาดุก ย่านบางบัวทอง ว่า ตนเองเพิ่งเปิดร้านค้า-ขายสินค้านำเข้าของมือสองมาจากประเทศญี่ปุ่นได้ประมาณ 4 เดือน ได้มีกลุ่มคนอ้างมาจากหน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจจับถึง 4 ครั้ง ต้องเคลียร์เงินให้เจ้าหน้าที่ไป พร้อมถูกบังคับต้องจ่ายเงินรายเดือนเพิ่มเติมเป็นค่าดูแล
นายหมู (นามสมมติ) เล่าว่า ร้านแห่งนี้มีเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่น นำเข้าของใช้มือสอง จากประเทศญี่ปุ่นมาจำหน่าย เปิดมาได้ 4 เดือน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้น และเมื่อเดือนสิงหาคม 1 ครั้ง เสียเงินไป 15,000 บาท ครั้งที่ 2 เดือนตุลาคม เสียเงินไปอีก แต่ไม่ทราบจำนวน ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. ได้มีกลุ่มคนอ้างตัวว่ามาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ CPPD (บก.ปคบ.) เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ ECD ซึ่งกลุ่มคนที่ได้อ้างตัวมาจากหลายหน่วยงานดังกล่าว ได้เข้ามาตรวจสอบสินค้าภายในร้าน พร้อมทั้งได้อ้างว่าภายในร้านพบมีสินค้าบางชนิดที่ละเมิดลิขสิทธิ์และผิดกฎหมาย จะขอเข้าจับกุมพร้อมยึดสินค้าไปด้วยหลายรายการ โดยที่ไม่มีหมายศาลมายื่นแสดงให้ตนเองและพนักงานในร้านดูแต่อย่างใด
...
"แต่ละกลุ่มที่เข้ามาทำการตรวจค้นประมาณ 3-7คน มีทั้งชาย-หญิง ใส่เครื่องแบบสีกากีเต็มยศ และมีเสื้อคลุมปักชื่อหน่วยงานสวมทับมา ซึ่งผมและผู้ดูแลร้านก็ให้ความร่วมมือด้วยดี จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวได้ตรวจยึดนำสินค้าติดมือออกไปด้วย อาทิ ของเล่นตัวต่อหุ่นยนต์ที่นิยม เครื่องชามเซรามิก กระเป๋า เสื้อผ้า และได้แจ้งกับทางร้านว่าไม่มีเครื่องหมาย มอก.ติดที่สินค้า หรือไม่สามารถระบุแหล่งที่ผลิตได้ จะนำตัวพนักงานไปดำเนินคดี แต่พอพนักงานภายในร้านได้แจ้งว่าจะช่วยเหลืออะไรกันได้บ้าง ทางกลุ่มคนดังกล่าวได้เรียกพนักงานขึ้นไปบนรถ และทางพนักงานของร้านได้นำเงินเข้าไปให้จำนวน 30,000 บาท ชายที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวพนักงานออกมา พร้อมทั้งคืนสินค้ากลับมาให้กับทางร้าน แต่คืนแค่บางรายการเท่านั้น ก่อนจะกลับออกไป"
นายหมู เล่าต่อว่า ผ่านไป 1 ชั่วโมง ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจจับสินค้าภายในร้านอีกครั้ง โดยกลุ่มที่ 2 นี้ได้อ้างตัวมาจากเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ CPPD (บก.ปคบ.) มากันทั้งชาย-หญิง ประมาณ 6 คน เข้าตรวจสอบสินค้าภายในร้านอีกเช่นเดิม จากนั้นได้ตรวจยึดสินค้าไปและจะดำเนินคดีกับทางร้าน พอทางผู้ดูแลถามกลุ่มคนดังกล่าวด้วยว่า ต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง สุดท้ายมาจบลงด้วยการให้เงินจำนวน 30,000 บาท ไปกับทางเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่มาและแต่งกายด้วยเครื่องแบบเต็มยศ ก่อนพากันออกไปจากร้าน พร้อมกับนำสินค้าบางอย่างติดมือออกไปด้วย และอ้างว่าต้องเอาไปตรวจสอบก่อนว่าผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมทั้งขอเก็บรายเดือนอีก เดือนละ 2,000 บาทด้วย
ทางด้าน นายโยชิ (นามสมมติ) เจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าตนเองเปิดร้านนำเข้าสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วทำไมจึงต้องมีกลุ่มคนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจจับและนำสินค้าออกไป โดยที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเคลียร์ในการที่จะไม่ถูกดำเนินคดีแบบนี้ด้วย แถมยังต้องจ่ายรายเดือนให้กับกลุ่มคนกลุ่มนี้อีกเดือนละ 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าดูแล แลกกับการไม่เข้ามาวุ่นวายภายในร้าน
ล่าสุด พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.ผบช.ภ.1 ได้ทราบข้อมูล พร้อมทั้งดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่จากสื่อมวลชนได้นำเสนอไปแล้ว เบื้องต้นพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง พร้อมทั้งได้สั่งการไปยัง พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว และให้เจ้าหน้าที่คนที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่ามีหน่วยงานไหนและเจ้าหน้าที่ผู้ใดบ้างที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้.