หลังจากที่เปิดตัวว่ากำลังศึกษาดูใจกับ เต้ย จรินทร์ จุนเกียรติ ก็เกิดกระแสตีกลับชนิดที่ทำเอาสาวเต้ยต้องเสียน้ำตา งานนี้ฝ่ายชายอย่าง อาเล็ก ธีรเดช ก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย ที่ทำให้สาวเต้ยต้องเครียด และล่าสุด เจ้าตัวได้มาร่วมงานเปิด the dazzling celebration ณ โซนอีเดน เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างตนและเต้ยว่า 

อัพเดตหัวใจหน่อยตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ต้องพูดตรงๆ ว่าที่ผ่านมาก็หนักเหมือนกัน ตั้งแต่เล็กออกมาพูดไป ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เองที่เล็กได้ออกมาพูดอีกครั้ง”

เต้ยบอกว่าเขาเครียดมาก เพราะข่าวนี้ที่ว่าแรงที่สุดที่เขาเจอมา?
“ใช่ๆ คืออยากให้ทุกคนมองอีกด้าน ถ้าเกิดทุกคนมองว่าพูดถึงเต้ย จรินทร์พร ก็จะคิดถึงความน่ารัก สดใส ซึ่งเขาก็เป็นคนแบบนั้นจริงๆ ช่วงที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าเราทั้งคู่เจอกันหนัก อยากจะบอกว่าเต้ยเขาไม่ได้ทำอะไร ถ้าจะว่าใครให้มาว่าเราดีกว่า เพราะตัวเล็กเองเป็นคนที่เริ่มต้นทุกอย่าง คราวที่แล้วเล็กก็บอกไปแล้วว่าพร้อมกับสิ่งที่จะตามมา นั่นแหละอย่าไปว่าเขาเลย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ลดลง เงียบลงไปแล้ว”

...

เราดูห่วงความรู้สึกของเต้ยเป็นหลัก?
“ต้องห่วงอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าทุกอย่างเริ่มที่ตัวผม โดยปกติผมไม่ค่อยอ่านข่าวของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่พอมีคนอื่นเขามาเกี่ยวข้องด้วย มีเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เราเลยค่อนข้างจะติดตามมากๆ แล้วก็มีทั้งคอมเมนต์ที่ดีและไม่ดีกับตัวพวกเรา แต่คือสิ่งที่เล็กให้ความสำคัญมากๆ คือคอมเมนต์ถึงเขาในด้านไม่ดี ก็ถือว่าเราต้องผ่านไปให้ได้”

เต้ยบอกกำลังใจสำคัญส่วนหนึ่งก็มาจากอาเล็ก?
“ผมบอกเขาว่าอย่าไปอ่าน เดี๋ยวเล็กอ่านเอง เพราะว่ามันมีด้านไม่ดีก็จะมีด้านดีๆเหมือนกันด้วย ที่ผ่านมาก็เห็นคอมเมนต์ให้กำลังใจเขาเยอะมากๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”

วันนั้นที่ตัดสินใจเปิดเผยความสำคัญ คิดไหมว่าจะเจอกระแสแบบนี้?
“คิดว่ามันมีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ คือเราก็เตรียมตัวมาว่าต้องโดนระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของความรู้สึกจริงๆ เราก็รู้สึกผิดที่แบบว่าเขาไม่เคยมีข่าวไม่ดีเลย แล้วพอเล็กออกมาพูดก็มีข่าวไม่ดีกับเขา คือเวลาทุกคนเสพข่าวก็ไม่อยากให้อ่านแค่พาดหัว เพราะว่าจริงๆ เนื้อข่าวมีอะไรมากกว่านั้น ถ้าเกิดให้ดีที่สุดคือฟังจากพวกเราเอง หรือดูคลิปสัมภาษณ์เลยจะชัดเจนที่สุด”

สำหรับ เต้ย-อาเล็ก ก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมาหรือยัง?
"ก็ทุกๆ อย่างตอนนี้ก็เงียบๆ ไปแล้ว หลังจากนี้เวลาทำอะไรไม่ได้มีแค่ชื่อเราแล้ว ก็ต้องมีชื่อของคนอื่นเข้ามาพาดพิงด้วย เพราะฉะนั้นการทำอะไร คือเล็กก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราโตขึ้น ทำอะไรคิดมากขึ้น พอมีข่าวแบบนี้เราก็ต้องคิดก่อนที่จะทำอะไร จะพูดอะไรก็คิดให้ดีขึ้น เป็นประสบการณ์ที่ทำให้โตขึ้นจริงๆ"

วันนั้นเราเสียใจไหมที่เปิดตัวตอบแบบนั้นออกมา?
"เสียใจไหมไม่ได้เสียใจ เพราะเล็กกับเต้ยเองเป็นคนค่อนข้างใช้ชีวิต เราไม่ได้อยากจะปิด แต่ต้องบอกอีกครั้งว่าอยาาอ่านแค่พาดข่าว คนก็จะเข้าใจผิดว่าคบกันแล้ว เรากำลังคุยๆ กันอยู่กำลังศึกษากันอยู่ อย่างที่เต้ยให้สัมภาษณ์ไปเมื่อคราวที่แล้วยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะเป็นแฟนกัน ตอนนี้ก็เดินหน้าไปเรื่อยๆ เรียกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นและเห็นตัวตนของกันและกันมากขึ้น"

ทำให้ความสัมพันธ์มันแข็งแรงมากขึ้นไหม?
“ก็เรียกว่ารู้จักกันมากขึ้นดีกว่าครับ”

เต้ยบอกว่าไม่มีดราม่าหลังไมค์ สำหรับแก๊งเพื่อนๆ เลย?
“คือบุคคลที่มีชื่อในข่าวทุกคนไม่มีใครมีดราม่าอะไรเลยจริงๆ ครับ จะดราม่าก็ตรงข่าวนี่แหละ (หัวเราะ) ก็อยากให้เข้าใจพวกเราครับ”

มีการพาดพิงถึง อเล็กซ์ เรนเดล ด้วย เราได้มีการพูดคุยกันไหม หลังจากที่เราให้สัมภาษณ์?
“คือก่อนหน้านั้นเราก็มีคุยกันบ้างครับ ก็คือเราก็ต้องขอบคุณเขามากๆ คือต้องบอกว่าอเล็กซ์เขาเป็นผู้ชายจริงๆ เป็นคนดีมากจริงๆ คือเราอ่ะดูทุกคลิปสัมภาษณ์ครับ เขาไม่ได้ปกป้องแค่เต้ย เขาพูดถึงเราในแง่ที่ดีด้วยครับ ซึ่งก็ต้องขอบคุณอเล็กซ์ด้วยครับ”

กลายเป็นว่าเรากับอเล็กซ์ไม่ได้สนิทกัน?
“เอ่อ...ก็ตามที่เขาบอกเลยครับ ก็คือทุกคนที่ออกมาพูดคือพวกเราไม่ได้โกหกอะไรอยู่แล้ว เราไม่ได้ปิดบังอะไรเลย คือทุกคนที่ออกมาพูด พูดจากใจของทุกคนล้วนๆ ครับ ทุกคนให้สัมภาษณ์ได้ชัดเจนมาก ทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงมากๆ ครับ”

...

เรากับอเล็กซ์มีความสนิทสนมกันประมาณไหน?
“ไม่ได้เคยร่วมงานอะไรกันจริงๆ จังๆ จะมีก็คือคอนเสิร์ตช่องที่ผ่านมาครับ จะรู้จักกันประมาณนั้น ยืนยันว่าไม่มีปัญหากันเลยครับ แล้วก็ไม่มีปัญหากับทุกคนไม่ใช่แค่กับเรนเดล”

มีคำถามตามมาว่าแก๊งตั๊กไลฟ์แตกไปแล้วเพราะเรา?
“ไม่ได้แตก คือช่วงแรกๆ มันเป็นช่วงจบคอนเสิร์ต ก็เลยยังอยากจะคุยกันต่อ ซึ่งในช่วงหลังๆ ตอนนี้ก็ยังคุยกันก็มีเรื่องมาอัพเดตกันตลอด อย่างพรุ่งนี้หมากจะบวชเราก็คุยกัน ไม่แตกหรอกครับ ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครออกครับ”

เรนเดลหรือคนในแก๊งมีให้กำลังใจอะไรเราไหม?
“คือคนกลุ่มนี้เวลามีเรื่องซีเรียสจะไม่มีใครยุ่งครับ จะปล่อยให้เป็นเรื่องของเรา เราเองก็มีปรึกษาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ปรึกษาในกรุ๊ปนะครับ ปรึกษาแยกคนไป”

กับเต้ยช่วงนี้เราคุยกันเยอะขึ้นไหม?
“ก็คุยกันเรื่อยๆ ถามว่าต้องมีปรับจูนกันบ้างไหม คนสองคนเวลาศึกษากันก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ เวลาที่ผ่านมามันไม่สามารถทำให้เรารู้จักทุกอย่างในชีวิตของแต่ละคนได้ เราเองก็ต้องปรับตัวในหลายๆ เรื่อง คือมันต้องค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากัน แต่ก็ยังยืนยันครับว่ากำลังศึกษากันอยู่เฉยๆ”

แนวโน้มที่จะใช้คำว่าแฟน พอจะเป็นไปได้ไหม?
“มันเป็นอนาคต”

แต่เราก็ทำกิจกรรมร่วมกันตามประสาคนที่กำลังศึกษากันใช่ไหม?
“ก็มีเจอกันบ้าง งานก็ยุ่งกันทั้งคู่ด้วย”

ล่าสุดเห็นเต้ยไลฟ์ไอจีแล้วขอบคุณดอกไม้สีขาว คนก็เลยคิดว่าเราส่งดอกไม้ไปให้เขาหรือเปล่า?

“ไม่ใช่เล็กครับ (ยิ้ม) แต่เป็นแฟนคลับ”

เราเคยมีส่งกำลังใจให้ดอกไม้เขาไหมเวลาไปออกงาน?
“ก็ค่อยๆ แล้วกันครับ”

...

หลังจากเปิดตัวแล้วเวลาไปไหนมาไหนสบายใจขึ้นไหม?
“ก็ต้องพูดตรงๆ ว่ามันเป็นข่าวที่ดี แต่กระแสมันก็มีทั้งบวกและลบ การออกไปไหนมาไหนก็อย่างที่บอกว่าพวกเราก็ต้องคิดก่อนทำ ก่อนพูด ก่อนอะไรทุกอย่าง”

ณ วันนี้เราแฮปปี้กับความสัมพันธ์นี้ใช่ไหม?
“ก็เป็นเรื่องดีๆ ครับผม”

ช่วงที่เจอข่าวหนักๆ มีท้อจนอยากจะหยุดความสัมพันธ์ไหม?
“ก็ไม่ได้ท้อครับ แต่สิ่งที่รู้สึกเยอะๆ ก็คือ 1.เป็นห่วงเขา 2.เป็นห่วงคนที่โดนพาดพิง 3.รู้สึกผิดกับการที่เรา...ก็อย่างที่บอกครับ แต่เราก็ค่อยๆ ให้กำลังใจกันไป”

เวลาคนจับจ้องมากๆ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันจะอึดอัดไหม?
“ช่วงแรกๆ ก็มีบ้างครับ ช่วงที่ข่าวค่อนข้างแรง พูดตรงๆ พวกเราอยากจะใช้ชีวิต”

ขนาดเราแค่เปิดตัวว่าคุยกันยังกระแสแรง แบบนี้จะกล้าใช้คำว่าแฟนไหม?
“เล็กว่าอาจจะไม่ใช่แค่เล็กกับเต้ย แต่เล็กว่าก็ทุกๆ คนแหละ คือเดี๋ยวนี้คนอ่านนิดๆ หน่อยๆ ก็จะตีความไป เหมือนเปิดก็โดน ปิดก็โดน แต่ไม่ใช่เรื่องซีเรียสนะครับ อย่างที่บอกว่าเราก็อยากจะใช้ชีวิตของเราไปเรื่อยๆ เรามั่นใจว่าเราสองคนคุยกัน ศึกษากัน เราไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนเลย แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดเลย เราพยายามจะชักชวนกันทำแต่เรื่องดีๆ ด้วยซ้ำครับ”

ถ้าเป็นแฟนกันแล้วจะบอกไหม หรือจะให้คิดกันเอง?
“เป็นเรื่องอนาคตครับ ตอนนี้ขอเก็บตัวก่อน (หัวเราะ)”

พอเปิดตัวคบกัน มีข่าวว่าเราโดนถอดจากละครกรงกรรม?
“คือมันเป็นเรื่องของคิวล้วนๆ ครับ เล็กก็ต้องเปิดกล้องวัยแสบสาแหรกขาด ซึ่งเรื่องนั้นมันเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นภาค 2 แล้วเป็นคิวเดียวกัน ก็ถือว่าพลาดโอกาสดีๆ ไป ก็เสียดายเหมือนกันครับ แต่อะไรที่มันไม่ใช่ของเรามันก็คงไม่ใช่ของเรา ก็อยากดูเหมือนกันนะครับ เพราะได้มีโอกาสฟังพล็อตมาบ้างน่าดูครับ คิวไม่ได้ก็เลยถูกถอดครับตรงๆ (หัวเราะ)”.

...