เมื่อวันเสาร์ที่แล้วนี้เอง ผมเพิ่งอ่านเจอบทความชั้นหนึ่งในเว็บข่าวดังของต่างประเทศเว็บหนึ่ง ที่ผู้เขียนเขียนเล่าว่า เพิ่งจะไปเยือนเมืองที่มีความสุขที่สุดของสหรัฐอเมริกามาหมาดๆ
ผมอ่านแล้วพลอยมีความสุขไปด้วย และแอบไชโยอยู่ในใจด้วยความปลาบปลื้มตามประสาคนแก่ที่มักจะชอบระลึกความหลัง
เพราะเมืองที่ว่านี้ก็คือเมือง โบลเดอร์ รัฐ โคโลราโด ที่ผมเคยไปอยู่อาศัยมา 2 ปีเต็มๆ ตอนเรียนหนังสือนั่นเอง ถือเป็นเมืองเปลี่ยนชีวิตผมเลยก็ว่าได้
พอรู้ว่าโบลเดอร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่คนอยู่แล้วมีความสุขที่สุดของสหรัฐอเมริกา จากบทความชิ้นนี้ผมก็รีบเข้ากูเกิลค้นหารายละเอียดทันที
ปรากฏว่าเป็นผลมาจากการสำรวจของแกลลัพโพล ร่วมกับนิตยสาร National Geographic Explorer และสุดยอดนักเขียนขายดี แคน บุตเนอร์ ส่งคำถาม 15 คำถามไปถามผู้คนกว่า 250,000 คน พร้อมกับเดินทางไปตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเพิ่มเติม
ในที่สุดก็ประกาศรายชื่อออกมา 25 เมืองว่า เป็นเมืองที่มีความสุขที่สุดของสหรัฐฯ เรียงตามลำดับ แต่เนื่องจากเนื้อที่คอลัมน์ของผมค่อนข้างจำกัด ขออนุญาตคัดลอกมาลงแค่ 10 อันดับแรกก็แล้วกัน...ได้แก่
1.เมือง โบลเดอร์ รัฐโคโลราโด 2.เมือง วัตสันวิลล์ ซานตาครูซ รัฐแคลิฟอร์เนีย 3.เมือง ชาลอตต์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย 4.เมือง ฟอร์ต คอลลินส์ รัฐโคโลราโด 5.เมือง ซานหลุยส์ โอบิสโป รัฐแคลิฟอร์เนีย 6.เมือง ซานโฮเซ-ซันนีเวล-ซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย 7.เมือง โพรโว โอเร็ม รัฐยูทาห์ 8.เมือง บริดจ์พอร์ต สแตมฟอร์ด นอร์วอล์ค รัฐคอนเนกติกัต 9.เมือง บาร์นสเตเบิล รัฐแมสซาชูเสตต์ และ 10.เมือง แองเคอเรจ รัฐอลาสกา
หลายๆเมืองคงจะคุ้นหูคุ้นตาท่านผู้อ่านพอสมควรอยู่ แต่อีกหลายๆเมือง ท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรกก็ได้
...
สำหรับอันดับ 1 เมือง โบลเดอร์ ถิ่นเก่าของผมเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยโคโลราโด และมีชื่อเสียงในเรื่องความสวยความงามมาตั้งแต่เมื่อ 40-50 ปีก่อนโน้นแล้ว ติดอันดับต้นๆของเมืองน่าอยู่ของสถาบันต่างๆมาหลายครั้ง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใดที่จะเข้าป้ายคว้าตำแหน่งแชมป์ “สุขที่สุด” หรือ The Happiest City in the U.S.A. ปี 2017 จากการประกาศของนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ดังกล่าว เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ที่ผมบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองเปลี่ยนชีวิตผม ก็เพราะในช่วงที่ไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด ผมต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างมาก ท่านที่เคยอ่านข้อเขียนยุคแรกๆเมื่อ 40 กว่าปีก่อนที่ผมเขียนใน พิมพ์ไทย คงจะพอจำได้
คนเรียนหนังสือธรรมดาๆ ไม่ถึงกับเก่งมากเนี่ย เวลาไปเรียนต่างประเทศบอกตรงๆว่า เลือดตาแทบกระเด็น ทำให้ผมต้องหยิบปากกาขึ้นมาเขียนหนังสือปลอบใจตัวเอง
เขียนแล้วก็ส่งมาลงที่หนังสือพิมพ์ไทย ปรากฏว่าพี่ มานะ แพร่พันธุ์ ชอบใจนำลงให้ทุกบทความที่ส่งมา โดยเฉพาะเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียนไทย และเรื่องการเมืองสหรัฐฯ ที่ผมดูจากทีวีเลยเรียกว่า “การเมืองตู้”
ต้องยอมรับว่า การเมืองสหรัฐฯยุคโน้นสนุกมาก ไม่นํ้าเน่าเหมือนยุคหลังๆ ดูเขาหาเสียงทางจอทีวีและพอเขามาหาเสียงในรัฐโคโลราโด ผมก็ตามไปฟังสดๆ ติดอกติดใจเลยละครับ
เวลาเขียนส่งมาเมืองไทย ผมก็เขียนแบบลูกทุ่งอ่านเบาๆตามสไตล์ผม ทำให้ได้เกิดในวงการหนังสือพิมพ์ พอกลับมาก็ได้งานทำเป็นนักแปลข่าวเป็นอาชีพเสริม และได้อยู่วงการหนังสือพิมพ์มาจนถึงบัดนี้
ถึงได้บอกว่า เมืองโบลเดอร์ โคโลราโด เป็นเมืองเปลี่ยนชีวิตผม เป็นเมืองที่ทำให้ทุกข์มากในตอนแรก แต่พอเรียนอยู่ตัวเข้าที่แล้วก็สุขมากเช่นกัน
ขออนุญาตปลื้มใจสักวันนะครับ ที่เมืองแห่งความหลังของผมเมืองนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่อยู่แล้วมีความสุขที่สุดของสหรัฐอเมริกา.
“ซูม”