"อภิสิทธิ์" แฉหลายพื้นที่เกณฑ์คนตอบ 6 คำถาม ชี้ใช้วัดสถิติสังคมไม่ได้ ย้ำ คสช.หนุนพรรคการเมือง การปฏิรูปสูญเปล่า ยก 2 ข้อ ยันปัญหายางตก แก้ไม่ถูกจุด แนะรัฐใช้ประกันราคาช่วย
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกฯ กล่าวในรายการต้องถาม ทางสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ ถึง 6 คำถามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ว่า รูปแบบการตั้งคำถามแบบมีกลไกรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ที่จะตอบต้องแสดงตัวมีบัตรประชาชน แต่ก็ไม่สามารถวัดความคิดเห็นตามหลักวิทยาศาสตร์ หลักสถิติ หรือหลักการสำรวจความคิดเห็นที่ถูกต้องได้ เพราะเป็นคำถามนำที่มีถึง 6 คำถาม นอกจากนี้ขอถามว่าในยุคนี้ คนที่ตอบคำถามไม่ถูกใจ จะกล้าไปตอบหรือไม่ เพราะหากตอบไปตรงๆ เผลอๆ ถูกเชิญไปปรับทัศนคติก็ได้
ทั้งนี้มีคนส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าในหลายพื้นที่มีการเกณฑ์ให้ผู้นำชุมชนต่างๆ ไปตอบคำถาม ถ้าไปไม่ได้ให้ส่งตัวแทนไป ซึ่งไม่ทราบว่าใครสั่ง เพราะยังตรวจสอบไม่ได้ ตนถึงบอกว่าการทำสิ่งนี้ไม่ได้เป็นการค้นหาคำตอบที่แท้จริงจากสังคม เพราะถ้านายกฯ อยากจะถาม ควรถามเรื่องปากท้องค่าครองชีพจะได้ประโยชน์และได้ใจไปด้วย หรือการตั้งคำถามที่เกี่ยวกับการพัฒนาน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ทั้งนี้ในภาพรวมจะไม่เป็นผลดี ทั้งก่อนและหลังการปลดล็อก เราจะสร้างช่องว่างระหว่างนักการเมืองกับ คสช.ทำไม นี่คือสิ่งที่ไม่เหมาะสม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ คสช.บอกว่า จะสนับสนุนพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งนั้น ตนเห็นว่า ต้องไม่ใช่การสนับสนุนโดยอำนาจรัฐบาล คสช.ถ้าทำเช่นนี้จะทำลายพื้นฐานระบอบประชาธิปไตย และทำลายการปฏิรูปการเมือง ส่วนที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนนั้น ตนเคยพูดกับนายวิษณุว่า ทำไมไม่ปล่อยให้ส่วนท้องถิ่นมีการเลือกตั้งกันไปตามวาระ หาก คสช.กังวลเรื่องความวุ่นวายก็คุมง่ายกว่ามาก แต่ตอนนี้องค์กรปกครองท้องถิ่นหมดวาระพร้อมกันไปหมดแล้ว
...
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพาราภาคใต้ หลายจังหวัดถูกทหารเชิญตัวไปคุยในค่ายทหาร หลังประกาศจะเข้า กทม. เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำต่อ รมว.เกษตรฯ ว่า เป็นวิธีการจัดการของ คสช.ที่ไม่ประสงค์เห็นการชุมนุมใดๆ ทั้งสิ้น แต่กรณีนี้ยืนยันชัดเจนว่า 1.เกิดขึ้นจากความเดือดร้อนของประชาชนชาวสวนยาง ความพยายามที่จะจัดระเบียบให้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมหรือทำหนังสือส่งไปนั้น มีความพยายามทำกันอยู่ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อมันไม่มีการตอบสนอง หรือปัญหาไม่คลี่คลาย จึงเป็นธรรมชาติของผู้เดือดร้อนที่จะต้องทำอย่างไรที่จะแสดงออกให้ทราบถึงพลัง และให้ฝ่ายต่างๆ ได้รับทราบปัญหา เพื่อที่จะเป็นอีกเสียงที่ช่วยบอกกับผู้มีอำนาจ และกรณีเช่นนี้ จะใช้ระบบบังคับบัญชาแบบทหารไม่ได้
2.การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาไม่เกิดผล เช่น การเอายางพาราไปใช้ในโครงการของรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นน้อยมาก ดังนั้นตนอยากเห็นรัฐบาลและ คสช.แก้ปัญหาราคายางพาราแบบเชิงรุกมากกว่า ไม่ควรจะรอให้ถึงวันนี้ พร้อมกันนี้ขอเสนอว่า รัฐควรนำนโยบายประกันราคามาใช้ ส่วนที่เกษตรกรที่ขอให้ปลดผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยและ รมว.เกษตรฯ นั้น ตนเข้าใจความรู้สึกพี่น้องเกษตรกรสวนยางดี แต่หากเปลี่ยนคนแล้วนโยบายยังเป็นแบบเดิม มันก็จะได้ผลแบบเดิม อย่างไรก็ตาม อยากกระตุ้นให้ทั้งสองท่านมาฟังปัญหาของเกษตรกรที่เดือดร้อนว่าเป็นอย่างไร.