นายองค์กร อมรสิรินันท์ ประธานสภาครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ถูกปรับเข้ามาเมื่อ 16 ธ.ค.2559 จากผลการพิสูจน์ฝีมือ 6 เดือน หลังจากเข้ามาก็มีโพลจากหลายสำนักวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น 1 ใน 3 กระทรวงที่ไม่มีผลงาน และในเดือน ธ.ค. ที่จะครบ 1 ปีถือว่าพอสมควรกับการทำงาน 1 ปี ตนสงสารเด็ก สงสารครู สงสารประเทศชาติ ที่ต้องเสียโอกาสในการเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปการศึกษาไทยจะไร้ผล ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรปรับเปลี่ยนได้แล้ว ตอนนี้คะแนนนิยมนายกฯร่วงลง แต่ถ้าปรับเปลี่ยนเอามืออาชีพ มีวิสัยทัศน์และมีประสบการณ์ในการบริหาร คนใน ศธ.และประชาชนจะมีความสุขมาก และคะแนนนิยมนายกฯจะตีกลับมา

ประธานสภาครูแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่าตนเฝ้าติดตามการบริหารงานของ รมว.ศธ. โดยเฉพาะบทบาทของการเป็นประธานบอร์ดเพียง 3 องค์กรก็รู้ได้เลยว่า ไม่แก้ปัญหาเก่าแล้วยังมาสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คุรุสภา และสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ปัญหามากมาย เพราะไม่ให้ความสำคัญกับงานของแต่ละองค์กร นั่งประชุมคราวเดียวสามารถรัวได้ทีละ 2-3 บอร์ด จะถูกจะผิดยังไงก็ไม่มีเวลาให้อธิบายหรือแสดงความคิดเห็น เข้าพบยากมาก ทำหนังสือไปไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ตนออกมาพูดยอมที่จะเปลืองตัว ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีใครทำ หวังว่าสมาชิกสภาครูคงเข้าใจกับความกล้ำกลืนขื่นขมกับปัญหาทางการศึกษาที่เกิดขึ้น เราไม่มีเวลาที่จะไปตามไล่แก้ปัญหา แต่เรามีเวลาและโอกาสเพียงน้อยนิดคือ เปลี่ยน รมว.ศธ.คนปัจจุบัน เพื่อหยุดปัญหาการศึกษารายวัน.

...