(ภาพจาก ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 10 จังหวัดลำปาง)

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ดำเนินการการช่วยเหลือและทบทวนให้ความเป็นธรรม จากกรณีบริษัทเอกชนเตรียมยื่นฟ้องสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำ พร้อมแนะนำทางออก ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายพอใจผลการไกล่เกลี่ยและข้อตกลงในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทางราชการ...

จากที่มีการนำเสนอข่าว เอกชนเตรียมยื่นฟ้องสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำ พร้อมขอความโปร่งใส ไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย.60 นั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขอชี้แจงว่า ได้ดำเนินการการช่วยเหลือและทบทวนให้ความเป็นธรรมตามที่ บริษัท ไอคิว ๖๖ จำกัด ร้องเรียนมาดังนี้

1.ดำเนินการติดตาม โดยลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 19 ก.ย.60 ณ สหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำ เมืองพะเยา จำกัด โดยได้เชิญคณะกรรมการของสหกรณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยตัวแทนของบริษัท ไอคิว ๖๖ จำกัด เข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย พร้อมกับแนะนำแนวทางเพื่อหาทางออกอันมิใช่ไปดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องคดีหรือถูกฟ้องคดี อาจทำให้ทุกฝ่ายเสียผลประโยชน์ ในการเข้าร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย 

ทั้งนี้ บริษัท ไอคิว ๖๖ จำกัด มีความพอใจผลการไกล่เกลี่ยและข้อตกลงในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทางราชการเป็นอย่างมาก รวมทั้งได้ทำหนังสือไว้เป็นหลักฐาน

2.ต่อมาวันที่ 22 ก.ย.60 ดำเนินการพิจารณาตามประเด็นในข้อกฎหมาย ตามที่ บริษัท ไอคิว ๖๖ จำกัด ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เห็นว่า เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของประธานและคณะกรรมการสหกรณ์ฯ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้ง บริษัท ไอคิว ๖๖ จำกัด ได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย แจ้งความร้องทุกข์กับสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำ เมืองพะเยา และพวกไว้ที่สถานตำรวจนครบาลวังทองหลาง ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และคดีอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นเรื่องของสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำ และพวกที่จะต่อสู้คดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ส่วนประเด็นข้อเท็จจริงตามพฤติกรรมที่ร้องเรียน ได้มอบหมายให้สหกรณ์จังหวัดพะเยาดำเนินการตามอำนาจต่อไป

...

3.เมื่อวันที่ 5 ต.ค.60 สหกรณ์จังหวัดพะเยา ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ได้มีคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ที่ (พย) 35/2560 เรื่อง เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญของสหกรณ์เลี้ยงปลาบ้านต๊ำ เมืองพะเยา จำกัด เนื่องจากมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญวันที่ 18 เม.ย.60 และวันที่ 4 ก.ค.60 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับสหกรณ์ฯ ข้อที่ 63 ที่กำหนดว่า การแจ้งกำหนดการประชุมใหญ่ เมื่อมีการประชุมใหญ่ทุกคราวให้สหกรณ์มีหนังสือแจ้งวัน เวลา สถานที่ และเรื่องที่จะประชุมให้บรรดาสมาชิก หรือผู้แทนสมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน แต่ถ้าการประชุมนั้นเป็นการด่วน อาจแจ้งล่วงหน้าได้ตามสมควร

ทั้งนี้ ให้ประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการ หรือเลขานุการเป็นผู้ลงลายมือชื่อในหนังสือนั้น และต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ทราบล่วงหน้า เช่นเดียวกับที่แจ้งให้สมาชิกหรือผู้แทนสมาชิกทราบด้วย.