มนุษย์เงินเดือน และคนจนผู้เอาประกันตนถึงกับร้อง โอ้โห ทำไปได้! หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานประกันสังคมปิ๊งไอเดียบรรเจิด "บังคับจ่ายเงินประกันสังคมเพิ่มในปีหน้าอีก 33%"
หนุ่มสาวชาวออฟฟิศ เหล่าลูกจ้างทั้งหลายแหล่ถึงกับตบเข่าฉาดใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้ นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) อ้างว่า ช่วงที่ผ่านมา ได้รับฟังความคิดเห็นมาอย่างดิบดีแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่า ลูกจ้างและนายจ้างตั้ง 80% เห็นด้วยกับแนวคิดนี้อีกด้วยนะ แหม...
เดี๋ยวมาดูกันก่อนว่า ไอเดียสุดบรรเจิดนี้ จะทำให้ชาวลูกจ้างอย่างเราๆ ต้องจ่ายเงินเพิ่มเท่าไหร่บ้าง...
- ผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 16,000 บาท จะใช้ฐานคำนวณเดิม เก็บเงินเข้ากองทุน 750 บาท
- ผู้ที่มีเงินเดือน 16,000 แต่ไม่ถึง 20,000 บาท จะเก็บเงินสมทบเข้ากองทุน 800 บาท หรือเพิ่มขึ้น 50 บาทส่วน
- ผู้ที่มีฐานเงินเดือน 20,000 ขึ้นไป จะเก็บเงินสมทบเข้ากองทุน 1,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 250 บาทต่อเดือน
...
ทุกวันนี้หลายคนถูกหักเงินประกันสังคมจากเงินเดือน เดือนละ 750 บาทก็นอนก่ายหน้าผาก เซ็งจะแย่ แต่นี่มาเก็บเพิ่มอีก 250 เป็น 1,000 บาท หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 33.33% ก็นับว่าสูงเอาการอยู่ไม่น้อย...
ในขณะที่ สำนักงานประกันสังคมก็ออกมานั่งยันนอนยันว่า จำนวนเงินที่เพิ่มไปนี้มีคุณูปการมากมายนัก และไม่มีวันที่ประชาชนทั่วเขตสารคามจะต้องเสียเปล่าอย่างแน่นอน เพราะกลุ่มคนที่มีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไปที่ต้องจ่ายเดือนละ 1,000 บาทนั้น จะได้สิทธิประโยชน์ ดังต่อไปนี้...
- กรณีว่างงาน จากการลาออกตามกฎหมาย ได้รับ 3 เดือน จากเดิมเดือนละ 4,500 บาท เป็น 6,000 บาท แต่หากถูกนายจ้างเลิกจ้าง โดยไม่ได้ทำผิดตามกฎหมาย ได้รับ 6 เดือน จากเดิมเดือนละ 7,500 บาท เป็น 10,000 บาท
- เงินขาดรายได้หากเจ็บป่วยแล้วต้องหยุดงานเกิน 30 วัน มีสิทธิเบิกประกันสังคมจากเดิม 7,500 บาท ได้เพิ่มเป็น 10,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- เงินสงเคราะห์คลอดบุตร เดิมได้รับ 22,500 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 บาท
- เงินชดเชยทุพพลภาพได้รับตลอดชีวิต จากเดิมได้รับ 7,500 บาท ได้เพิ่มเป็น 10,000 บาท ต่อเดือน
- เงินชราภาพ หรือ บำนาญ หากส่งครบ 180 เดือน จะได้รับ จากเดิมเดือนละ 3,000 บาท เป็น 4,000 บาท
- หากเสียชีวิต นอกจากค่าทำศพ 40,000 บาท แล้ว จะได้รับเงินสงเคราะห์ จากเดิม 7,500 เป็น 10,000 บาท
เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้ว หลายคนร้องเอ๊ะ! พลางเกาหัว นี่เราต้องออกจากงาน, ต้องเจ็บป่วย, ต้องพิการ, ต้องแก่ชรา และต้องตายหรืออย่างไร ลูกจ้างอย่างเราๆ ถึงจะได้สิทธิประโยชน์อันแสนคุ้มค่านี้? และนี่หรือคือความคุ้มค่าที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมาอย่างดีแล้ว?
ทว่า การที่ประกันสังคมคิดจะเก็บเงินเพิ่มอีก 33% นั้น จะเป็นเสมือนการซ้ำเติมประชาชนอย่างเจ็บปวดเกินไปหรือไม่ เพราะด้วยสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่อ่อนแอเหลือกำลัง จนรัฐบาลต้องเข็นเงินก้อนใหญ่ออกมาแจกคนจน เพื่อเอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกัน ทางประกันสังคม ยังจะคิดแก้กฎหมาย "บังคับจ่ายเงินประกันสังคมเพิ่มในปีหน้าอีก 33%"
...
จากกระแสข่าวที่ทีมข่าวได้ไล่เรียงไปข้างต้นนั้น สุดท้ายก็ไปถึงหู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องออกมาตอบประเด็นดังกล่าวโดยพลันว่า ในขณะนี้ยังไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงการหารือ ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้หารือกันมาเเล้วกว่า 15 ปี และกำลังหาทางให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น ยังไม่ทำอะไรทั้งสิ้น เห็นมีข่าวบอกว่าจะไปเรียกเก็บเงิน ยังไม่มี เป็นแค่การหารือ และขอยืนยันว่า ไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร
โดย นางสาวอำพันธ์ ธุววิทย์ โฆษก สปส. ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทุนชราภาพผ่านเวทีรับฟังความเห็น 12 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งจะจบกระบวนการแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้ นอกจากนี้ยังรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ ขอให้ผู้ประกันตนเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย จากนั้นจะมีคณะทำงานรวบรวมความเห็นไปประมวลและทำการปรับแก้ไข ซึ่งคิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
จากนั้น นายสมพร ขวัญเนตร รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า แม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะบอกว่า ยังไม่มีการเก็บเงินสมทบประกันสังคมเพิ่ม แต่การปรับแก้กฎหมายก็ยังดำเนินการอยู่ เพราะฉะนั้นต้องจับตาดูว่า สปส.จะรอจังหวะในการเสนอกฎหมายเมื่อใด
...
สำหรับเงินประกันสังคมที่จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นนี้ มิใช่ว่าลูกจ้างจะเป็นผู้จ่ายเพิ่มเพียงแค่ฝ่ายเดียว เพราะนายจ้างก็ต้องจ่ายเงินเข้าประกันสังคมเท่ากับลูกจ้างทุกๆ เดือนเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ลูกจ้างจ่าย 750 บาท นายจ้างก็ต้องจ่าย 750 บาทเช่นกัน
ดังนั้น หากแนวคิดการขึ้นเบี้ยประกันทำได้สำเร็จ สำนักงานประกันสังคมจะได้เม็ดเงินเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล...
หากเราพิจารณาจาก ฐานะการเงินของกองทุนประกันสังคมนั้น จะพบว่า กองทุนประกันสังคมมีเงินลงทุนในตลาดรวม 1.68 ล้านล้านบาท โดยมีกำไรสะสมมาตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน 507,644 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินลงทุนกับกำไรสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 กองทุนประกันสังคมมีเงินอยู่ในมือทั้งสิ้น 2.187 ล้านล้านบาท เกือบเท่าเงินฝากของธนาคารกรุงเทพที่มีอยู่ 2.262 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์
"กองทุนประกันสังคมมีเงินอยู่ในมือทั้งสิ้น 2.187 ล้านล้านบาท"
คำถามที่ตามมาคือ การเก็บเงินประกันสังคมเพิ่มนั้น สร้างภาระให้คนจนและมนุษย์เงินเดือนเกินไปหรือไม่ และผู้ประกันตนได้ประโยชน์คุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายไปหรือไม่...?
...