ขยายรถไฟฟ้ามีความจำเป็น
หนังสือที่ระลึกเนื่องในพิธีเปิดการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ.2547 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม. บันทึกไว้ว่า...เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม2547 ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้จารึกถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยที่สนพระราชหฤทัยระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ (รถไฟฟ้าใต้ดิน) เพื่อแก้ปัญหาจราจรอย่างเป็นรูปธรรม
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (หัวลำโพง-บางซื่อ) ที่สถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง
ซึ่ง ณ สถานที่เดียวกัน เมื่อ 108 ปี ก่อนหน้านี้ คือ เมื่อวันที่26มีนาคม 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จฯทรงประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายแรกของประเทศไทย ระหว่างกรุงเทพฯ-อยุธยา ณ สถานีหัวลำโพง
หนังสือที่ระลึกเนื่องในพิธีเปิดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ.2547 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม. บันทึกว่า...เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2547เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (หัวลำโพง-บางซื่อ) ที่สถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง
ทรงประกอบพิธีกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายโครงการ จากนั้นเสด็จลงชั้นชานชาลาโดยลิฟต์เพื่อประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ขบวนที่ 1 หมายเลขตู้รถไฟฟ้าพระที่นั่ง 1014 โดยประทับยังที่นั่งผู้โดยสารปกติตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพงไปยังสถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ และกลับมายังศูนย์ซ่อมบำรุงฯ รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยการเดินรถไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เมื่อรถไฟฟ้าพระที่นั่งวิ่งไปได้ระยะหนึ่ง พระองค์ได้เสด็จเข้าไปประทับที่ห้องพนักงานขับรถ ซึ่งได้มีการจัดเตรียมพระที่นั่งถวาย ได้ประทับทอดพระเนตรอุโมงค์ทางวิ่งพร้อมทรงถ่ายภาพจนถึงสถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จออกมาประทับยังพระที่นั่งเดิม และมีพระราชกระแสรับสั่งด้วยพระอารมณ์ขันกับผู้ร่วมเสด็จฯว่า “....เขายังไม่ให้กลับ เขาจะพาไปที่ศูนย์ซ่อม ไม่ใช่สวนส้ม...”
ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับฟังสรุปรายงานการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมีพระราชดำรัสถามด้วยความสนพระราชหฤทัยหลายเรื่อง เช่นการคืนผิวถนนรัชดาภิเษกหลังการก่อสร้างเสร็จ สภาพถนนดีกว่าเดิมหรือไม่...การก่อสร้างที่สถานีสีลมที่ต้องตัดตอม่อสะพานข้ามทางแยกแล้วสร้างตอม่อใหม่บนหลังคาสถานี ตรัสถามว่า สะพานจะยุบหรือไม่ นอกจากนี้ยังสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับรางรถไฟฟ้าว่าจะใช้รางรถไฟของการรถไฟฯมาวิ่งได้หรือไม่
รับสั่งถามถึงสถานที่ที่ทิ้งดินที่ขุดได้ และทรงถามถึงเครื่องขุดเจาะ รวมทั้งยังตรัสถามถึงการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า “การต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้ามีความจำเป็นต้องเกิดขึ้น เพราะจะแก้ปัญหาจราจร เนื่องจากระยะทางหัวลำโพง-บางซื่อ เป็นระยะทางที่สั้นเพียง 20 กม.เท่านั้น”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงซักถามถึงขั้นตอนการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้าด้วยความสนพระราชหฤทัย และยังตรัสถามถึงราคาค่าโดยสาร ผู้ว่าการ รฟม.กราบบังคมทูลว่าขณะนี้เก็บ 10 บาทตลอดสาย จนถึงวันที่ 12 สิงหาคม จะเก็บเริ่มต้นที่12บาทและสูงสุดที่ 31 บาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำรัสว่า “...อย่างที่เรามานี่ก็ 10 บาท...”
....“จนถึงเวลา 19.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯกลับโดยรถยนต์พระที่นั่ง โดยก่อนเสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่ง มีพระราชดำรัสขอบใจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งพระราชทานพรให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานตลอดไป อันยังความปลาบปลื้มปีติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่ผู้บริหารและพนักงานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย”.