เกิดเหตุปล้นชิงเงินสด 196 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาท กลางลานจอดรถคอนโดมิเนียมหรู ย่านรัชดา ผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจซื้อขายเครื่องประดับประเทศญี่ปุ่น ส่วนคนร้ายชายฉกรรจ์ 5-6 คน สวมหมวกไหมพรมอาวุธครบมือ
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา วันนี้ 3 ต.ค. 60 ที่ สน.พหลโยธิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. เดินทางมาตรวจสอบ และติดตามความคืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ ประมาณ 4-5 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์เงินสดสกุลญี่ปุ่น จำนวน 196 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาท โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ลานจอดรถชั้น 5 คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ใน ซ.รัชดา 30 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายคือ นายภัทริศ หรือ โต้โต้ แต้รัตนชัย อายุ 34 ปี ถูกปล้นเงินจำนวนดังกล่าวไป โดยเจ้าตัว คือ นายโต้ (ผู้เสียหาย) ประกอบธุรกิจ ซื้อขายทองคำแท่ง, เครื่องประดับ/เครื่องเพชร ส่งขายยังประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 60 นายโต้ได้ให้ นายณรงค์ชัย หรือ จั๊ว สวัสดิผล นำเงินสด (สกุลญี่ปุ่น) 196 ล้านเยน ใส่กระเป๋าเดินทาง และส่วนที่เหลือบางส่วนได้นำใส่กระเป๋าสะพายหลัง เดินทางจากประเทศญี่ปุ่น มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยการผ่านศุลกากรเมื่อมาถึงยังบริเวณชั้นผู้โดยสารขาเข้า
...
นายโต้ได้พบกับ นายจิรภัสส์ หรือ เนย พิทักษ์กิจวัฒนา และ นายเกียรติพงษ์ หรือ อุ้ย พึ่งยิ้ม ยืนรออยู่ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายโต้ ให้เดินทางมารับเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อนำไปเก็บไว้ที่คอนโดดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องของนายโต้
ต่อมา ทั้งสาม (จั๊ว, เนย, อุ้ย) ได้เดินไปยังลานจอดรถชั้น 3 อาคาร 2 โดยนำกระเป๋าเดินทางที่ใส่เงินไว้ท้ายรถยนต์ยี่ห้อ BMW X-6 สีขาว ทะเบียน 4กบ 7806 กทม. และนายจั๊วได้นำเงินจากกระเป๋าสะพายหลัง ถ่ายไปใส่ยังถุงดิวตี้ฟรี และนายอุ้ยได้นำถุงดังกล่าวไปไว้ยังเบาะหลังฝั่งคนนั่ง
จากนั้น นายอุ้ย ได้เดินไปขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีส้ม ทะเบียน(ป้ายแดง) ส 5179 กทม. ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้า มีนายอุ้ยเป็นผู้ขับมา ต่อมานายอุ้ยเป็นผู้ขับรถยนต์ฟอร์ด และนายเนยเป็นผู้ขับรถยนต์ BMW มุ่งหน้ามายัง คอนโดฯ ส่วนนายจั๊วนั้น แฟนสาวได้มารอรับและกลับออกไปด้วยกัน
ต่อมาเวลาประมาณ 23.15 น. นายอุ้ย และ นายเนย ได้ขับรถมาถึงคอนโดฯ และกำลังนำรถขึ้นมาจอดบนชั้น 5 ตามที่เคยทำ เมื่อจอดเสร็จ นายเนยได้นำกระเป๋าเดินทางที่ใส่เงินลงจากรถ และถุงดิวตี้ฟรีที่ใส่เงินวางบนกระเป๋าเดินทางอีกที จากนั้นนายอุ้ยได้เป็นผู้มาลากกระเป๋าเดินทางใบดังกล่าวไป
ขณะที่นายอุ้ยและนายเนยกำลังเดินไปยังประตูเข้าอาคาร ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 5-6 คน สวมหมวกไหมพรมสีดำ นายเนยให้การว่า หนึ่งในคนร้ายได้นำอาวุธปืนออกมาข่มขู่นายอุ้ย และรุมทำร้ายนายอุ้ยได้รับบาดเจ็บ โดยนายเนยโดนกลุ่มคนร้ายกดหัวลงกับพื้น ถูกมัดมือไพล่หลัง และมัดข้อเท้า มีเทปกาวปิดปาก จากนั้นนายเนย และนายอุ้ยได้ถูกคนร้ายนำถุงกระสอบป่านมาคลุมศีรษะ และนำตัวไปไว้หลังเสา
ต่อมา เมื่อกลุ่มคนร้ายหลบหนีไป นายอุ้ยได้แก้มัดจนหลุดและได้ช่วยนายเนยแก้มัด จากนั้นทั้งสองได้ขึ้นไปยังชั้น 15 ห้อง 104 ของคอนโดฯ เพื่อแจ้งให้นายโต้ทราบ นายโต้ และ นายเนย จึงได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนนายอุ้ยได้รับบาดเจ็บ.