ย้อนตำนานบ้านหลอนที่ถูกร่ำลือถึงความอาถรรพณ์ จนต้องถูกกล่าวขานและบันทึกลงบนหน้าหนังสือพิมพ์ จะมีบัานหลังใดบ้าง เฮี้ยนหลอนสุดสะพรึงเพียงใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...

อาถรรพณ์บ้านเก่าแก่ ใจกลางกรุง ‘ผีพระยา’ เจ้าของบ้าน

ในปี 2545 หนังสือพิมพ์หลายฉบับตีข่าวความเฮี้ยนของ “บ้านไม้ทรงยุโรป” หลังหนึ่งในย่านสามเสน กรุงเทพมหานคร โดยมีเสียงร่ำลือกันว่า บ้านไม้ทรงยุโรปหลังนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จำนวน 3 หลัง โดยตั้งอยู่ย่านสามเสน แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. ซึ่งเดิมเป็นของ พระยาประเสริฐคมกฤษณ์ และถูกขายกันมาหลายทอด สุดท้ายอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ ว่าเป็นบ้านที่มีผีเจ้าของบ้านสิงอยู่ อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าขานกันว่า ลูกสะใภ้ของพระยาประเสริฐผูกคอตายขณะตั้งครรภ์ที่บ้านหลังนี้ และยังมีทหารนายสิบตายอีก

ต่อมา นายโสภณ ดำนุ้ย รองผอ.องค์การสวนสัตว์ ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ แล้วปรากฏว่านายโสภณเจอปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ โดยระบุว่า เจอชายแก่นุ่งโจงกระเบน เสื้อราชปะแตนมาหา พร้อมด้วยลูกสะใภ้อุ้มเด็กหัวจุก มาทวงค่าเช่าที่ดิน นายโสภณจึงต้องเขียนเช็คจ่ายเงินค่าเช่าที่ นำไปวางไว้ที่ศาลเจ้าหลังบ้านทุกๆ เดือน

นอกจากนี้ นายชนะ ประพันธ์วงศ์ เจ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเจ้าของบ้านเฮี้ยนหลังดังกล่าว ก็ออกมายืนยันว่าเคยเห็น “ผีพระยา” เหมือนกับนายโสภณ ทั้งในความฝันและเห็นกับตา อีกทั้งเวลาที่ตัวเองกลับบ้านดึกๆ มักจะเห็นคนโบราณนั่งตำหมากอยู่เต็มสนามหญ้า และยังเล่าด้วยว่า ครั้งหนึ่งผีเจ้าของบ้านยังเคยช่วยชีวิตเอาไว้ เมื่อครั้งเครียดกับปัญหาเศรษฐกิจ เตรียมปืนจะมายิงตัวตาย พอเผลอหลับไป เจ้าของบ้านก็มาเตือนไม่ให้ทำอะไรโง่ๆ จนได้สติกลับคืนมา ต่อมาไม่นานยังให้ลาภก้อนโต หลังฝันเห็นเลข 2 ตัว ลอยมาจากตอไม้ จึงนำไปซื้อหวยใต้ดิน ถูกได้เงินถึง 300,000 บาท

...

ชาวกรุงเก่าผวาสิ่งลี้ลับ บ้านโบราณ ‘ขุนพิทักษ์’ ถูกทิ้งร้อยปี ไม่มีคนอาศัย

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ 16 ม.ค.2545 โดยมีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับบ้านโบราณของขุนนางเก่าแก่หลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ละคืนมักจะมีเหตุการณ์ประหลาด ทั้งเสียงโหยหวนของผู้หญิง ชาวบ้านบางคนเคยเห็นหญิงสาวใส่ชุดขาวออกมายืนบริเวณหน้าต่าง ขนาดนกยังไม่กล้ามาเกาะหลังคา ทั้งที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านร้าง ไม่มีใครอยู่มานานหลายสิบปี

นายชัยกร นิยมไกร ชาวบ้านในละแวกนั้น กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ห่างจากบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 100 เมตร ซึ่งตนอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยเห็นใครมาดูแลบ้านหลังนี้ ทุกครั้งที่ตนมองผ่านมาที่บ้านหลังนี้ก็จะรู้สึกวังเวงน่ากลัว เดิมทีทราบว่า เจ้าของบ้านชื่อขุนพิทักษ์ ขุนนางสมัยรัชกาลที่ 5 หลังจากเสียชีวิตก็ได้ยกบ้านหลังนี้ พร้อมที่ดินหลายไร่ให้กับราชพัสดุ จากนั้นก็ไม่มีใครเข้าอยู่อาศัยร่วมร้อยปีมาแล้ว

ทั้งนี้ ตนเคยชวนเพื่อนข้ามไปดูในบ้านก็ต้องแปลกใจอย่างมาก เมื่อพบว่าภายในบ้านมีความสวยงาม ประตูหน้าต่างมีลวดลายแกะสลักอย่างประณีตบรรจง ที่สำคัญ ทุกซอกทุกมุมของตัวบ้าน และพื้นกระดาน ซึ่งเป็นไม้แผ่นใหญ่ ดูสะอาดเหมือนกับมีคนคอยทำความสะอาด ไม่มีหนูหรือนกไปทำรัง เหมือนกับบ้านร้างทั่วๆ ไป

นายชัยกร กล่าวอีกว่า ชาวบ้านที่นี่เคยเจอเหตุการณ์ประหลาดจากบ้านหลังนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นใกล้พลบค่ำแสงแดดเป็นแสงสีเหลือง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ผีตากผ้าอ้อม” จะเห็นผู้หญิงสวมชุดขาวเปิดหน้าต่างชั้นบนออกมา บางครั้งมีเสียงผู้หญิงร้องโหยหวน และเสียงเปิดปิดประตูดังปังหลายๆ ครั้ง ทั้งๆ ที่รอบๆ ในรัศมี 100 เมตร ไม่มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่แต่อย่างใด

นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่ตนเข้าไปดูในบ้านยังเห็นมีห้องใต้ดินอยู่ด้วย แต่เมื่อเดินลงไปไม่กี่ก้าวก็รู้สึกเย็นมาก จนต้องออกมา ชาวบ้านแถวนี้เชื่อว่า น่าจะมีวิญญาณของขุนพิทักษ์และบริวารวนเวียนอยู่ จึงไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้จนถึงทุกวันนี้

ลูกฆ่าพ่อ มีดโบวี่ฟันร่างยับเยิน คฤหาสน์ตั้งฮั้ว ผวาขนหัวลุก

กรณีนายวิชัย แสงกล้า คนรับใช้ในคฤหาสน์ของนายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และส.ส.อุบลราชธานี ผู้ล่วงลับ เพราะลูกชายก่อเหตุปิตุฆาต ซึ่งนายวิชัยได้ก่อคดีสยองใช้ค้อนปอนด์ทุบกะโหลกนางหนูรัตน์ วงศ์อุดม ภรรยาเจ็บสาหัส แล้วผูกคอตัวเองเสียชีวิตคาห้องพัก ในรั้วบ้านของนายไชยศิริ หรือเสี่ยตั้งฮั้ว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนายจำเนียร มนทิลอาจ คนสวนมาสอบปากคำ ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุนายวิชัยกับพวก ตน รวมทั้งนางหนูรัตน์ตั้งวงกินข้าวมื้อเย็นอยู่ที่หน้าห้อง นายวิชัยบ่นปวดศีรษะกินข้าวไม่ลง แล้วลุกไปซื้อบุหรี่ และก็เข้าห้องตามหลังภรรยาที่เข้าไปนอนก่อน จนกระทั่ง 2 ทุ่มเศษ ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างโหยหวนเจ็บปวดของนางหนูรัตน์ พวกตนมองลอดกระจกบานเกล็ดเห็นนางหนูรัตน์ร้องครวญครางกุมแผลที่ศีรษะเลือดไหลมาก จึงรีบเข้าไปช่วยส่งโรงพยาบาล

สำหรับคฤหาสน์ดังกล่าว ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุสุดสยองสะเทือนขวัญมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม ฉายา “ตั้งฮั้ว” เจ้าพ่ออีสานใต้ นายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีชื่อดังและส.ส.อุบลราชธานีหลายยุคหลายสมัย ถูกลูกชายคนโต เป็นหนุ่มปริญญาโทจากอเมริกา ร่วมกับลูกน้องคนสนิท วางแผนชั่วก่อคดีปิตุฆาตบุกสังหารพ่อบังเกิดเกล้าอย่างสุดอำมหิต ด้วยการใช้มีดโบวี่ฟันร่างยับเยินตายคาห้องนอน เนื่องจากต้องการมรดกนับพันล้าน

...

ทาง พ.ต.ต.เพชรยืนยง สวส.สน.บางซื่อ เผยว่า ช่วงเที่ยงได้มีโทรศัพท์อ้างชื่อ พ.ต.กรันต์ สถิตยุทธการ เจ้าของบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านเสี่ยตั้งฮั้ว เล่าว่า เคยมีเหตุฆ่ากันตายในบริเวณรั้วบ้านของเสี่ยตังฮั้วมาแล้วหลายราย และเมื่อเจ้าของคฤหาสน์มาถูกลูกชายกับพวกก่อคดีสังหารโหด หลังจากเสี่ยตั้งฮั้วเสียชีวิตเพียง 2 คืน ลูกจ้างคนหนึ่งก็ประสบเหตุลึกลับ เห็นชายรูปร่างหน้าตาเหมือนนายไชยศิริมาเดินอยู่ในบ้านหลอกหลอนทุกคืน ตนคิดว่าจะต้องโยกย้ายไปไปเช่าบ้านที่อื่นอยู่อาศัยดีกว่า.