ฮือฮาอีกครั้งแล้วกับข่าว "วิวาห์สายฟ้าแล่บ" ของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม พิธีกรชื่อดัง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ไทยรัฐ ออนไลน์มีโอกาสคุยกับเปิดใจ ทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องส่วนตัว เรื่องรัก และเรื่องอนาคต และข่าวลือกับ เจ้าสาวสุดสวยของสื่อมวลชนคนดังคนหนึ่งในประเทศไทยเป็นที่แรกๆ ....
ณัฐรดา อภิธนานนท์ หรือ แจ๊กกี้ เจ้าสาวสุดเซ็กซี่ ของพิธีกรชื่อดัง เริ่มต้นเล่าถึงตัวตนแท้ๆ ผ่านไทยรัฐ ออนไลน์ด้วยเสียงสดใส ปัจจุบันเธอช่วยดูแลกิจการส่วนตัวเล็กๆ ของครอบครัวอยู่ ที่บ้านแจ๊กกี้เปิดร้านขายต้นไม้เล็กๆ เป็นต้นไม้สวยงาม และก็ทำผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสวนมากมายอยู่แถวบางนา
“ทำหมดเลยไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้หรือกระทั่งลงขุดดินเองก็ทำเองเป็นบางครั้ง (หัวเราะ) หรือเดินขนดินก็ทำบ้าง อย่างวันนี้วันหยุด (วันที่12 ส.ค.53) ก็รับโทรศัพท์อยู่ที่ออฟฟิศบ้างหรือถ้าเวลาลูกค้าสั่งต้นไม้มา หรือสั่งต้นไม้ที่หายากมาเราก็ต้องไปหาซัพพลายเออร์ให้กับลูกค้าก่อนหน้านี้คุณแม่ทำส่งออกทำพวกสมุนไพรส่งออก”
แจ๊กกี้ บอกว่า ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบดอกไม้ - ต้นไม้มาตั้งแต่เล็กๆ
“ถามว่าชอบดอกไม้ชนิดไหนจริงๆ ชอบต้นไม้ทุกชนิดค่ะ แต่ที่ชอบมากคือต้นจิกทะเลจิกน้ำ ซึ่งเสน่ห์ของไม้ใหญ่ที่ชอบแดดชนิดนี้มก็คือ 1 ปีมันจะออกดอกครั้งเดียว ที่สำคัญมันปลูกในเมืองขึ้นยากมากๆ (เน้นเสียง) ต้องทะนุถนอมดูแล เฝ้าเหมือนยิ่งกว่าเลี้ยงลูกที่ต้องคอยทะนุถนอมเหมือนกับเวลาลูก ถูกยุงกัดแล้วมีแผล ต้นไม้ถ้าเกิดหนอนไช หรือเพลี้ยไช มันจะต้องใส่ยาใส่ปุ๋ย ซึ่งปุ๋ยมากไปก็ไม่ได้ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกดินเค็มมากก็ไม่ได้ เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้ทำให้แจ๊กกี้ชอบมากๆ และตอนนี้มันเป็นต้นไม้ที่อนุรักษ์ไปแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีขายอยู่ แต่หายากเต็มที”
แจ๊กกี้ เป็นลูกครึ่งไทยกับสเปน คุณพ่อเป็นทหาร คุณแม่เป็นคนไทย แต่ทั้ง 2 เลิกรากันตั้งแต่เด็กๆ แจ๊กกี้มาเกิดที่เมืองไทยและเรียนหนังสืออยู่ที่นี่ถึงชั้นประถมที่ 4 จากเมืองไทย หลังจากนั้นก็เดินทางตามคุณพ่อไปเรียนต่อระดับไฮสคูลที่แคนาดาจนถึงเกรด 12 ก่อนที่จะไปต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยซานตาครูซ สาขาจิตวิทยาสิ่งแวดล้อม แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
“สาขาจิตวิทยาสิ่งแวดล้อม เมื่อแปลเป็นไทยมันจะดูงงๆ (หัวเราะ) ซึ่งที่จริงแล้วมันเป็นวิชาที่ตรงกับกิจการต้นไม้ที่บ้านเราทำเลย โดยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โลกร้อน ชีววิทยา สัตว์น้ำ สัตว์บก แล้วก็เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยตรง ถามว่าใครคือไอดอลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม คุณแม่ของแจ๊กกี้คือตัวจริงในการรีไซเคิล รียูสได้ทุกๆ อย่าง”
ด้านการแสดงก่อนหน้านี้เราอาจจะเห็นแจ๊กกี้เข้ามาในวงการบันเทิงระยะหนึ่ง ด้วยการเล่นหนังเล่นละคร แจ๊กกี้บอกว่า มันเป็นงานอดิเรกที่ไม่คิดจะเอาดี แต่บังเอิญมีจังหวะชีวิตที่ดี
“ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าแจ๊กกี้เข้าวงการครั้งแรกเด็กมากๆ งานแรกเป็นงานโฆษณา “ฟิลม์สีโกดัก”
หลังจากนั้นก็พัฒนาการมาได้เล่นละครของ “อาฉลอง ภักดีวิจิตร” แล้วก็พัฒนาการมาเรื่อยๆ จากโฆษณา จนได้เล่นหนังใหญ่ เช่น หนังใหญ่เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด และ หนังดังเรื่องบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาค 2 และ หนังเรื่อง สวย...ซามูไร เป็นต้น
ส่วนเรื่องเล่นหนังนั้นเป็นจังหวะที่ตอนนั้นมีโอกาสได้เป็นเลขาของเสี่ยเจียง (สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ) มีหน้าที่ตามเสี่ยเจียงไปขายหนังตามเทศกาลหนังเมืองคานส์ ปูซานตั้งแต่ยุคแรกๆ (องค์บากภาค 1) ก็มีคนเห็นแววก็เลยชวนไปเล่นหนังเริ่มต้นเรื่องแรกคือ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม เป็นเรื่องแรก ปืนใหญ่จอมสลัด และก็สวยซามูไร ซึ่งเราทำฆ่าเวลาเฉพาะช่วงที่ว่างจากการเรียน ไม่ได้คิดว่าจะมุ่งหวังจะเป็นจูเลียร์ โรเบิร์ต อะไร (หัวเราะ) เพราะเราไม่เคยฝันว่าจะเป็นดารา มันเป็นโอกาสและจังหวะชีวิตเท่านั้น
สำหรับเรื่องการพบรักกับ หม่อมปลื้มนั้น แจ๊กกี้บอกว่า จริงๆ ทั้งคู่เจอกันมาหลายปีมากๆ จากแค่รู้จักว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนก็พัฒนาเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นแฟนกัน
“แจ๊กกี้กับหม่อมปลื้มเรามาเจอกันที่เมืองไทยตั้งนานแล้ว เรียกได้ว่าผ่านกันไปผ่านกันมาหลายรอบแล้ว ซึ่งหม่อมปลื้มเป็นเพื่อนของเพื่อนแจ๊กกี้อีกที พอคบได้สักระยะก็คุยกันว่าอายุเราไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ถามว่าใครเป็นคนขอแต่งงานก่อน หม่อมปลื้มค่ะ เราก็มาตัดสินใจจนวินาทีสุดท้ายว่าแต่งงานกัน จนเรื่องมาเข้าหูสื่อ”
เมื่อถามว่า คุณพ่อคุณแม่ทั้ง 2 ฝ่ายรู้ก่อนไหมเรื่องแต่งงานแจ๊กกี้บอกว่า ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรับทราบหมดทุกท่านแล้ว แต่ที่ไม่รู้ก็คือ เรื่องนี้คนอื่นรู้ข่าวการแต่งงานได้อย่างไร
“เหตุผลแรกที่แจ๊กกี้ไม่อยากจะบอกใครก็เพราะว่า เห็นคุณปลื้มคนรักเขาเยอะ กลัวว่าคนจะหมั่นไส้ กลัวคนจะเกลียดเรา อีกอย่างแจ๊กกี้ไม่ใช่นักสังคมไฮโซ ออกงานหรูๆ อะไรเลยแบบนี้ เป็นแค่คนที่มีชีวิตธรรมดาชอบไปเที่ยว ดำน้ำตามต่างจังหวัด ใช้ชีวิตสมถะมากๆ คนละอย่างกับคุณปลื้มเลย”
ถามว่าแล้วมาคลิ๊กกันตรงไหนเพราะ 2 ฝ่ายการใช้ชีวิตแตกต่างกัน แจ๊กกี้ บอกว่า โดยพื้นฐานแล้วเราทั้ง 2 คนมีหลักการเหมือนกัน เรียกว่าคุยปรึกษาได้ทุกๆ เรื่อง
“อย่าถามเรื่องขอแต่งงานเลยค่ะ เพราะไม่มี (หัวเราะ) หม่อมปลื้มเขาเป็นคนเคร่งครึม เหมือนกับในทีวีที่เราเห็น ไม่มีหลายหน้า เป็นคนมีหน้าเดียว (หัวเราะ) นี่คือสิ่งที่เรารักเขา เป็นคนเหมือนกันตรงนี้ เหมือนกับไม่ต้องคุยว่ารู้สึกอย่างไร มันก็โอเค มันถึงเวลาแล้ว ที่เหมาะสมก็ไปตามนั้น ไม่โรแมนติกทั้งคู่”
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าเธอเคยแต่งงานมาแล้วนั้น แจ๊กกี้ปฏิเสธว่า ไม่เคยพร้อมกับอธิบายว่า
“เมื่อก่อนแจ๊กกี้เคยมีแฟน ก็เหมือนคนอื่นๆ อย่างตอนที่เป็นวัยรุ่นก็มี เคยมีแฟน ซึ่งคบกันนาน 4-5 ปี แล้วก็เลิกไป หลังจากนั้นแล้วก็มีแฟนเป็นฝรั่ง จริงๆ ไม่เคยอินเลิฟ เพราะว่าเหมือนกับเป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดจะแต่งงาน”
สำหรับวางอนาคต แจ๊กกี้วางแผนเอาไว้ว่า อยากจะอยู่เมืองไทย เราเป็นคนที่ชอบเด็กทั้งคู่ ส่วนจะเป็นเพศไหนก็ได้เพราะถ้ามีเขาก็คือลูกของเรา
ทั้งนี้ สำหรับกำหนดการการแต่งงานนั้นจะจัดในวันที่ 7 ตุลาคม 2553 ที่ห้องสกุณตลา บอลรูม โรงแรมเพนนินซูล่า โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และ นางธนาวดี อภิธนานนท์ เป็นประธานฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
...