มิจฉาชีพรูปแบบใหม่ "แก๊งเตะทอง" มาเป็นกลุ่ม ประณามเหยื่อเป็นคนร้าย หาว่าเตะกระเป๋าใส่ทองไปให้เพื่อน ก่อนขู่กรรโชกเอาทรัพย์สินสาวเบญจเพสเคราะห์ร้าย เจอคนร้ายรุมขู่จนยอมถอดสร้อยทอง 1 บาท กับแหวนทอง 2 วง ให้ไป พบภาพวงจรปิดมากัน 3 คน... 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ตลาดนัดอิคิวซัง ริมถนน บางกรวย-ไทรน้อย ม.6 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ปาริฉัตร เอกพงษ์ อายุ 25 ปี แม่บ้าน ว่าเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเดินซื้อของอยู่ที่ตลาดได้มีหญิงสาววัยกลางคนอายุประมาณ 35-40 ปี 3 คน ลักษณะแต่งตัวดีโดยคนแรกได้วิ่งร้องไห้เข้ามากล่าวหาว่าตนได้เตะกระเป๋าสะพายของเขา ซึ่งภายในมีสร้อยคอทองคำ ไปให้กับหญิงสาวคนหนึ่งหลบหนีไป ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธไปว่าไม่ได้ทำ และไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมีหญิงสาวคนที่สองเดินเข้ามาชี้ที่ตนอีก และบอกว่าเห็นตนเป็นคนเตะกระเป๋าของผู้หญิงคนแรกส่งไปให้กับหญิงสาวอีกคนหนึ่งหลบหนีไป ก่อนจะบอกให้ผู้หญิงคนแรกรีบไปแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ของตลาด โดยที่ผู้หญิงคนที่สองจะคอยดูตนไว้ให้

น.ส.ปาริฉัตร กล่าวอีกว่า เมื่อผู้หญิงคนแรกเดินไปแล้ว หญิงคนที่สองได้ชี้ไปที่ผู้หญิงคนที่สามซึ่งกำลังยืนซื้อของอยู่ไม่ห่างจากมากนักว่า นี่คนนี้ไง ที่เป็นคนเอากระเป๋าที่น้องเตะให้ไป ซึ่งผู้หญิงคนที่สามก็ยอมรับว่าเอากระเป๋าไปจริง ก่อนที่ผู้หญิงคนที่สองจะพูดว่าถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ น้องเดินตามพี่มา ถ้าไม่มาจะถือว่าน้องมีส่วนรู้เห็นในการขโมยกระเป๋า ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่ได้ทำ จึงเดินตามหญิงสาวทั้ง 2 คนไปที่ป้ายรถประจำทาง ที่หน้าหมู่บ้านปิยวรารมย์ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดนัด ซึ่งระหว่างเดินไปนั้นหญิงทั้ง 2 คนได้โต้เถียงกันไปตลอดว่าในกระเป๋ามีสร้อยทองอยู่จริงแล้วจะเอายังไง เมื่อถึงป้ายรถประจำทางผู้หญิงคนที่สอง ได้พูดตะคอกตนว่าเอาอย่างนี้ ให้ตนถอดสร้อยที่คอน้ำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ แหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วง แหวนทองคำหนัก 1 สลึง 1 วง มาไว้ที่เขาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตนก็สงสัยว่ามันแปลกๆ จึงถามไปว่าพวกพี่เป็นแก๊งตกทองรึเปล่า

...

"ทำให้หญิงทั้ง 2 คนรีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่ผู้หญิงคนที่สามจะพูดขู่ว่าถ้าเขาโดนจับ ก็จะซัดทอดหนูด้วย ขณะนั้นรู้สึกงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ถอดทรัพย์สิน มีสร้อยทอง 1 บาท 1 เส้น แหวนทอง 2 วง น้ำหนัก 50 สตางค์ 1 วง หนึ่งสลึง 1 วง ให้ไป เมื่อหญิงสาวทั้ง 2 คนได้ทรัพย์สินไปแล้ว ก็ได้โยนกระเป๋าสะพายของหญิงคนแรกมาให้ และบอกว่าในกระเป๋ามีสร้อยทองอยู่ 5 บาท ก่อนวิ่งขึ้นรถเก๋งติดฟิล์มดำไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไป เมื่อตั้งสติได้จึงร้องให้คนช่วย แต่ก็ไม่ทันแล้ว และเมื่อเปิดกระเป๋าสะพายออกดู พบว่าภายในมีเพียงถุงเท้ากับขวดใส่น้ำมะพร้าวเท่านั้น จึงรีบไปแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง"

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาขอดูภาพจากกล้องจรปิดภายในตลาดและที่หน้าหมู่บ้าน โดยมี นายสุพจน์ ทองอำนาจ กำนันตำบลบางบัวทอง มาตรวจร่วมสอบภาพวงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยนายสุพจน์ ทองอำนาจ กำนันตำบลบางบัวทอง ได้ฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ในแต่ละชุมชนที่มีตลาดนัดเกือบทุกที่ ว่าให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบใหม่ ทำให้ผู้ถูกกระทำเกิดความกลัว และหากเจอพฤติกรรมของคนร้ายในลักษณะแบบนี้ให้เรียกคนที่อยู่รอบข้างเข้ามาช่วยเหลือ อย่าได้ทำตามที่คนร้ายบอก อาจจะเป็นเหยื่อได้

ทางด้าน พ.ต.ท.รุ่งระวี สุขัง รอง ผกก.สส. ได้สั่งให้ชุดสืบสวน ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่คาดว่าจะเห็นหน้าคนร้ายแก๊งนี้ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.