ปราชญ์ข้าวชาวสุรินทร์ ทดลองหุงข้าวเก่าค้างโรงสีชุมชนใส 5 ปี กินอ้วกแทบพุ่ง เอาให้หมายังไม่กิน แนะให้เอาไปทำปุ๋ยดีกว่า ชี้ข้าวหมดสารอาหารแล้ว หลังรัฐบาลมีแนวคิดจะเอาข้าวเก่าในโกดัง 10 ปีไปขาย

หลังจากกรณีที่เป็นข่าว เกี่ยวกับข้าวในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ถูกเก็บไว้ในโกดังถึง 10 ปี ยังสามารถหุงทานได้ และจำหน่ายได้ ตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโกดัง ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 67 หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบสินค้าเกษตรไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการถูกกล่าวหาว่าข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเป็นข้าวที่เก็บรักษาไม่ได้มาตรฐานพบเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพจนไม่สามารถจำหน่ายให้คนบริโภคได้ ก่อนจะเปิดเผยและยืนยันกับสื่อมวลชนอีกครั้งจนเป็นกระแสข่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีดังกล่าวได้ทำให้เกิดข้อสงสัยจากนักวิชาการหลายคน รวมทั้งประชาชน ว่าข้าว 10 ปียังสามารถทานได้อยู่จริงหรือไม่

...

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 202 หมู่ 12 ตำบลคอโค อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงสีชุมชน ซึ่งมีข้าวเก่าเกือบ 5 ปี เก็บซีลใส่ถุงสุญญากาศใส่อย่างดี มีสติกเกอร์ด้านหน้าระบุวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2563 เป็นของนายวิโรจน์ พวงประโคน อายุ 63 ปี ปราชญ์ชาวบ้านด้านข้าว เพื่อตรวจสอบและเปรียบเทียบคุณภาพข้าวที่เก็บไว้ 5 ปี ผู้สื่อข่าวจึงได้แกะข้าวดังกล่าวออกมาดมดู ปรากฏว่ามีกลิ่นสาบเหมือนมีแมลงบางอย่างตายอยู่ข้างในข้าว และเม็ดข้าวก็จะจับตัวกันเป็นก้อนๆ พร้อมกับเอาไปทดลองหุงแล้วลองกินดูปรากฏว่า อ้วกแทบพุ่ง คายออกแทบไม่ทัน จึงเอาไปให้สุนัขกินดูปรากฏว่าสุนัขไม่กิน และเมินเดินหนี

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตัวเองได้เปิดถุงออกมาดมดู คือ มันจะเหม็นหาคำบรรยายไม่ถูกว่ากลิ่นจะแบบไหน อย่าว่าแต่คนกินเลย สุนัขบ้านตนก็ไม่กินอันนี้คือเรื่องจริง หลังจากนั้นก็ดมดูอีกทีนึง กลิ่นมันจะสาป มันจะหืน ไม่รู้จะบรรยายแบบไหน นี่ขนาดข้าวแค่ 5 ปีกว่าๆ ถ้า 10 ปีจะขนาดไหน ตนไม่อยากให้มโนว่าทุกคนจะต้องกินได้ แล้วมากินให้เป็นตัวอย่าง เพราะว่าข้าวอายุข้าวไม่เกิน 2 ปี ถ้าจะให้มีสรรพคุณทางยา คือ ปีต่อปี ก็คือที่ไม่เกิน 2 ปีส่วนมากก็จะเป็นคนที่ไม่มีอันจะกินนั่นแหละเอามากิน ถ้าเราจะกินก็ปีต่อปี

...

ปราชญ์ชาวบ้านด้านข้าว กล่าวด้วยว่า อยากให้ทุกคนตระหนักว่าข้าวเป็นยาอีกทางหนึ่ง ถ้าเก็บไว้นานสรรพคุณทางยาก็จะหายไป ซึ่งข้าวก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่ผลเสียกับร่างกาย นอกจากเอาไปทำปุ๋ย แล้วเอามาแจกจ่ายชาวบ้าน ให้หว่านทั่วแปลงทั่วนา ยังจะได้ประโยชน์ ไม่แนะนำให้เอาไปทำเป็นอาหารสัตว์ ค่าโปรตีน ค่าคาร์โบไฮเดรตมันหมดแล้ว ถ้าเอาไปให้สัตว์กินยิ่งจะไปเพิ่มโรคไข้อีก ฉะนั้นก็ทำเป็นสารปรับปรุงดินยังจะง่ายกว่า และได้ประโยชน์.