ปิดฉากสวยงาม สำหรับ "เทศกาลควายไทย ครั้งที่ 12" จ.อุทัยธานี ที่จัดสุดยิ่งใหญ่ ตัวแทนฟาร์มจากทั่วประเทศร่วมงานแน่น ฮือฮาบิ๊กดีล "พ่อเลี้ยงเจ" เจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม หอบเงิน 18 ล้าน ซื้อควายเผือกตัวงาม "โก้เมืองเพชร"
วานนี้ (10 มี.ค. 2567) บริเวณแก้มลิงเขื่อนวังร่มเกล้า จังหวัดอุทัยธานี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน เทศกาลควายไทย อุทัยธานี ครั้งที่ 12 ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 โดยมี นายวิฑูรย์ สิรินุกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวต้อนรับ และมี นายเผด็จ นุ้ยปรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายกฤษฎา ซักเซ็ค นายกสมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย นายประสงค์ เรืองสวัสดิ์ ปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงควาย และประชาชน ร่วมงานจำนวนมาก
บรรยากาศภายในงาน จัดให้มีการประกวดกระบือลุ่มน้ำสะแกกรัง 16 รุ่น (เฉพาะกระบือในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี) และประกวดกระบือรุ่นทั่วไป 16 รุ่น แบ่งประเภทรุ่นฟันแท้ เพศผู้เผือก/เพศเมียเผือก รุ่นฟันน้ำนม เพศผู้เผือก/เพศเมียเผือก ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร และรุ่นฟันแท้ เพศผู้ดำ/เพศเมียดำ และรุ่นฟันน้ำนม เพศผู้ดำ/เพศเมียดำ ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร พร้อมการประกวดกระบือทั่วไป แกรนด์แชมป์ และการประกวดกระบือลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง แกรนด์แชมป์ อีกด้วย
...
การจัดงานเทศกาลควายไทยที่ผ่านมาถึง 11 ครั้ง ที่ จ.อุทัยธานี สามารถช่วยกระตุ้นให้การซื้อขายกระบือในจังหวัดอุทัยธานี มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทั้งในรูปแบบกระบือสวยงาม และกระบือทั่วไป รวมไปถึงการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์กระบือ ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ลูกกระบือที่เกิดมามีมูลค่าสูง จากการสำรวจข้อมูลเกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือ จำนวนกระบือ ปริมาณผลผลิต และมูลค่ารวมของกระบือ ในปี 2566 พบว่ามีเกษตรกรผู้เลี้ยง จำนวน 2,906 ราย จำนวนกระบือ 32,576 ตัว ปริมาณผลผลิตรวม 11,524 ตัว (จำแนกเป็นกระบือสวยงาม 408 ตัว กระบือทั่วไป 11,116 ตัว) มูลค่ารวม 402.70 ล้านบาท (กระบือสวยงาม 40.8 ล้านบาท กระบือทั่วไป 361.90 ล้านบาท) ตามลำดับ
ถือได้ว่ากระบือนั้นจัดเป็นสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญ 1 ใน 3 ของจังหวัดอุทัยธานี นอกจากข้าวและปลาแรด ส่งผลให้เกษตรกรหันมาสนใจในอาชีพการเลี้ยงกระบือมากขึ้น เพิ่มรายได้ เพิ่มองค์ความรู้ สร้างมูลค่าเพิ่มจากกระบือสวยงาม รวมทั้งพัฒนาพันธุ์กระบือให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย ภายหลังจากที่ทำการเปิดงานแล้วนั้น ยังมีการทำพิธีส่งมอบควายหรือซื้อขายกระบือกัน โดยมีคนที่มาร่วมเชียร์เป็นพยานในการซื้อขาย กับดีลช็อกโลก เมื่อ "พ่อเลี้ยงเจ" เจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม จากจังหวัดเชียงราย หอบเงิน 18 ล้านบาท มาสู่ขอกระบือเผือกเพศผู้ชื่อ "โก้เมืองเพชร" กับเจ้าของเดิมคือ นายดำรงศักดิ์ มรกฎ เจ้าของฟาร์ม 9 มรกฎฟาร์ม เพื่อไปพัฒนาพันธุ์กระบือต่อไปให้ดียิ่งขึ้น
...
ขณะที่ "พ่อเลี้ยงเจ" เปิดเผยถึงการซื้อขายในครั้งนี้ว่า ได้อยู่วงการควายมา 1 ปีกว่าแล้ว และลองผิดลองถูกมาเรื่อย จากนั้นได้ไปคุยกับทางเจ้าของโก้เมืองเพชร ซึ่งทางเจ้าของนั้นก็อยากได้เงินนำมารักษาตัวพอดี และอยากให้มีคนสืบต่อ และหากเป็นควายเผือกนั้น โก้เมืองเพชรนั้นยืนหนึ่งของควายเผือก จะมีชื่อโก้เมืองเพชรเพียงตัวเดียวเท่านั้น ตอนนี้โก้อายุ 4 ปี 10 เดือน ความสูง 157 เซนติเมตร และยังไม่หยุดโต หากโตเต็มที่ความสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตร และโก้ยังเคยเล่นภาพยนตร์เรื่องมนต์รักลูกทุ่ง เป็นควายของไอ้คล้าว และน้ำเชื้อของโก้นั้นทำรายได้ให้กับเจ้าของเดิมปีหนึ่ง 7-10 ล้านบาท
...
เจ้าของวนาสุวรรณฟาร์ม กล่าวอีกว่า ในแง่ของการลงทุนกับ "โก้เมืองเพชร" ก็คุ้มในแง่ของความเป็นศักดิ์ศรี โก้ก็คุ้ม รวมถึงในแง่ของความสวยงาม ซึ่งมีครบทุกอย่าง โดยในเรื่องของกระแสที่มีคนวิจารณ์กันว่าซื้อไปแล้วจะคุ้มหรือเปล่า ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมาเจ้าของเดิมโก้ก็ทำรายได้ให้ปีละ 7-8 ล้านบาท และยังต่อยอดโก้ในเรื่องของธุรกิจอีกด้วย และมั่นใจว่าภายใน 5 ปีนั้น โก้จะทำรายได้ให้ถึง 50 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมานั้นมีเศรษฐีจากประเทศดูไบมาขอซื้อไป แต่ทางเจ้าของหรือน้องเก้า อยากให้ควายไทยนั้นอยู่ในเมืองไทยมากกว่า และมีเจ้าสัวหลายคนนั้นอยากจะได้โก้เมืองเพชรและเสนอราคาที่สูงกว่าอีกด้วย
...
ส่วน นายดำรงศักดิ์ มรกฎ เจ้าของฟาร์ม 9 มรกฎ ฟาร์มเจ้าของโก้เมืองเพชร ได้เปิดใจในการขายกระบือสุดรักตัวนี้ว่า ก่อนหน้านี้ซื้อมาในราคา 2 ล้าน ในยุคนั้นเรียกได้ว่าแพงที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ เลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 1 ปี 10 เดือน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ไม่ว่าจะยุคโควิด-19 หรืออะไรก็ตาม ก็มีรายได้จากโก้เมืองเพชรมาช่วยจุนเจือครอบครัว ได้สร้างบ้านและมีที่มีทาง และมีรถขับเพราะโก้เมืองเพชร และความรู้สึกในตอนนี้ดีใจที่โก้เมืองเพชรได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่
"ตอนแรกมีความวิตกกังวล และรู้สึกใจหาย แต่ด้วยพี่เจหรือเจ้าของใหม่นั้นมีวิสัยทัศน์ที่ดี สามารถพาโก้เมืองเพชรไปได้ไกล และพัฒนาวงการควายไปได้ไกลมากกว่าอยู่กับผมอย่างแน่นอน เหมือนส่งดาวให้กับคนที่ปั้นดาวนั่นเอง และอยากให้ควายไทยไปควายโลก" เจ้าของเก่าของ "โก้เมืองเพชร" กล่าว.
