โรงเรียนเทศบาล 3 เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นำนักเรียนลงมือเรียนรู้วิธีการปลูกผักอินทรีย์ ปลอดสารพิษไว้บริโภคเอง และแบ่งปันเพื่อนนักเรียนกับคณะครู เพื่อลดรายจ่าย และส่วนที่เหลือขายสร้างรายได้ เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกปฏิบัติจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนเทศบาล 3 สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ใช้เวลาว่างในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน และช่วงเย็นหลังเลิกเรียน มาช่วยกันรดน้ำ พรวนดิน ถอนหญ้าและวัชพืช ที่ขึ้นอยู่ในแปลงผัก ที่นักเรียนได้ร่วมกันปลูก ซึ่งเด็กนักเรียนต่างมีความสุข และสนุกสนาน ไปกับการได้เรียนรู้ ในขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงการนำผักที่ได้ นำไปรับประทาน และนำไปจำหน่ายสร้างรายได้
...
เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเป็นการปลูกฝังให้เด็กนักเรียน ได้เรียนรู้การใช้ทักษะชีวิต และได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง โดยการปลูกผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ ไว้ประกอบอาหารกลางวันรับประทาน และแบ่งให้คณะครู นักเรียน นำไปประกอบอาหารบริโภคในครัวเรือน ส่วนที่เหลือนำมาจำหน่ายให้กับผู้ปกครอง ที่เดินทางมารับนักเรียนกลับบ้านทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เพื่อเป็นการลดรายจ่าย และสร้างรายได้ระหว่างเรียน โดยเงินที่ได้จากการขายผักจะนำเก็บไว้ ซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการทำสวนผัก และนำไว้ใช้ในกิจกรรมของแต่ละห้องเรียน รวมทั้งยังจะได้นำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอด ในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ ให้กับตนเองและครอบครัวในอนาคตได้
สำหรับแปลงผักที่ปลูกนี้ มีทั้งผักคะน้า, ผักเคลหรือคะน้าใบหยัก, ผักชี , กวางตุ้ง, พริก, ขิง, ข่า, ตะไคร้, มะเขือ, ผักบุ้ง, กะเพรา, โหระพา , กระเจี๊ยบ และผักที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ที่ได้มีการปลูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามฤดู จนทำให้พื้นที่ของโรงเรียนเทศบาล 3 ที่มีมากเกือบ 50 ไร่ นอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับอาคารเรียน สนามกีฬา และพื้นที่ใช้สอยต่างๆ แล้ว ยังได้มีการเนรมิตพื้นที่ ให้กลายเป็น ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบฐานการเรียนรู้ต่างๆ ที่มีมากกว่าแปลงปลูกผัก
โดยมีทั้งโรงเรือน สำหรับการทำแปลงเพาะพันธุ์ พืชผักนานาชนิด และไม้ดอกไม้ประดับ มีพื้นที่ทำแปลงปลูกข้าวอินทรีย์ มีพื้นที่ปลูกไม้ผล มีพื้นที่ปลูกไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง และมีพื้นที่สำหรับบ่อเลี้ยงปลา รวมถึงมีฐานการเรียนรู้ต่างๆ เช่น ฐานเรียนรู้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เช่น ทหารพันธุ์ดีชุมชนเบิกบานอาหารปลอดภัย, ฐานเรียนรู้ขยะพารวย หรือ Zero Waste, ฐานเรียนรู้ข้าวอินทรีย์, ฐานเรียนรู้คนเอาถ่าน , ฐานเรียนรู้ขยะอินทรีย์, ฐานเรียนรู้ปุ๋ยหมักรักษ์โลก และฐานเล่าขานสานความรักษ์
...
ทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากการที่ โรงเรียนเทศบาล 3 ได้เข้าร่วมโครงการทหารพันธุ์ดี ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย ที่ทางมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จ.บุรีรัมย์ ได้เข้ามาให้การสนับสนุน ช่วยเหลือดูแล จนทำให้โรงเรียนเทศบาล 3 ได้มีศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ครูและนักเรียน ได้ใช้ในการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
ด.ญ.คลองรัตน์ รักษา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บอกว่า ทำให้ตนเองได้มีความรู้ เกี่ยวกับวิธีการปลูกและการบำรุงดูแลรักษาผักปลอดสารพิษ เพื่อนำความรู้ที่ได้รับ ไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน โดยการปลูกผักไว้รับประทานเองที่บ้านด้วย รวมถึงการที่ได้มาลงมือปลูกผัก ยังสามารถสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยนำผักที่ปลูกมาขายให้กับผู้ปกครอง ที่เดินทางมารับนักเรียนในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ส่วนเงินที่ได้นำเก็บไว้เป็นเงินกองกลางของห้องเรียน เพื่อนำไปสำหรับจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก และเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำสวนผัก และไว้ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของทางห้องเรียน
...
ด้าน ด.ญ.ภัทราวดี เพชรเลิศ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 บอกว่าแปลงผักแห่งนี้ ได้มีการปลูกผักไว้หลายชนิด โดยในทุกวันทางโรงเรียน จะนำผักมาประกอบอาหารกลางวัน ให้นักเรียนรับประทาน เพื่อที่นักเรียนจะได้รับประทานผักที่ปลอดภัยจากสารเคมี ส่วนที่เหลือก็จะนำไว้มาจำหน่ายให้กับผู้ปกครองที่เดินทางมารับนักเรียน ส่วนเงินที่ได้ก็นำไว้ใช้ในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ และไว้ใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของทางห้องเรียน
ขณะที่ นางเพ็ญแข แสงงาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 3 กล่าวว่าเนื่องจากว่าทางโรงเรียนมีพื้นที่เยอะมากประมาณ 50 ไร่ ซึ่งแต่ละพื้นที่ที่เราทำเนี่ย เราได้ทำไปแล้วแบ่งเป็นเป็นส่วนๆ ส่วนแรกที่เราทำนี่ก็จะมีพื้นที่ที่ทำแปลงปลูกข้าวอินทรีย์ เราใช้ชื่อว่าแปลงปลูกข้าวอินทรีย์ของดีเทศบาล 3 ประมาณ 3-4 ไร่ ส่วนแปลงที่ 2 ใช้สำหรับการปลูกไม้ผล เราใช้ชื่อว่าทางนี้มีผลทุกคนรักกัน ส่วนที่ 3 เป็นการเลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งเป็นปลาที่เป็นปลานิลจิตรลดา ที่ได้รับพระราชทานมา เนื่องจากโรงเรียนเทสบาล 3 ได้เข้าร่วมโครงการทหารพันธุ์ดี ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย และส่วนที่ 4 เป็นพื้นที่สำหรับการปลูกไผ่ไว้สำหรับกินหน่อ โดยเป็นไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง
...
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บริเวณข้างประตูทางเข้าโรงเรียน อยู่ด้านหน้าของอาคารหอประชุมอเนกประสงค์ จึงได้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่จัดทำเป็นแปลงผัก เพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับการทำเกษตรผสมผสาน คือใช้น้ำหมักปลาขี้ปลาที่ทางโรงเรียนได้จัดทำน้ำหมักไว้อยู่แล้ว และปุ๋ยหมักที่ทางโรงเรียนได้ทำไว้เช่นเดียวกัน จากการนำเศษใบไม้ เศษอาหารที่เหลือจากการรับประทานอาหารกลางวันของนักเรียน มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มาใช้เป็นปุ๋ยให้กับแปลงผักแห่งนี้ จึงทำให้ผักที่ปลูก เป็นผักที่ปลอดจากสารพิษและสารเคมี
ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 3 กล่าวด้วยว่า ตอนแรกเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องการขาย เพียงแค่ปลูกในพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว ก็แบ่งปันมาเป็นอาหารกลางวันให้เด็กรับประทาน และให้นักเรียนคณะครูได้นำไปรับประทานในครัวเรือน ส่วนที่เหลือจากนั้นนำไปสร้างรายได้ โดยการฝึกให้นักเรียนนำไปจำหน่าย ให้กับผู้ปกครองที่เดินทางมารับนักเรียนในช่วงหลังเลิกเรียน ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ปกครองเป็นอย่างดี เพราะเป็นผักที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารเคมี โดยเงินที่ได้จากการขายนำเก็บไว้ สำหรับใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่มนักเรียน.