เซ็นทรัล ทำ พาพันธมิตรเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 11 สายพันธุ์พื้นเมือง จากแหล่งปลูก 9 ชุมชนใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ มาบอกเล่าเรื่องราว และจำหน่ายให้ได้ลองรับประทานที่งาน “Thailand Rice Fest 2023” 14-17 ธ.ค.ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หวังให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ เซ็นทรัล ทำ พาวิลเลียน ในงาน “Thailand Rice Fest 2023” ได้ตกแต่งจัดแสดงภายใต้แนวคิด “ข้าวดี ชีวิตดี” ภายในบริเวณงาน “Thailand Rice Fest 2023” จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 6 และพร้อมจำหน่ายข้าวทั้ง 11 สายพันธุ์พื้นเมือง จาก 9 ชุมชนใน 7 จังหวัด ที่ร่วมในโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ทำด้วยกัน ทำด้วยใจ โครงการด้านความยั่งยืนดำเนินการโดยกลุ่มเซ็นทรัล ให้เป็นที่รู้จักและสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้ผู้คนในชุมชน พร้อมไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการยกระดับข้าวให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มีการเปิดจำหน่ายผลผลิต ที่ร้าน Good Goods สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ หรือ ทาง ร้านค้าออนไลน์เซ็นทรัลทำ 

...


นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ข้าว มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ข้าวบางชนิดมีคุณประโยชน์ในการรักษาและป้องกันโรค ถือว่าเป็นสินค้าเกษตรอันดับ 1 ของไทย และมีมูลค่าการส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สามารถสร้างรายได้ให้กับคนไทย รวมทั้งสร้างความยั่งยืนให้ประเทศ และยังมีคุณค่าในตัวเอง อีกทั้งยังเป็นความร่วมมือร่วมใจ ร่วมกันลงมือทำในการเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งนับว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ได้ลงไปมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสายพันธุ์ข้าวพื้นบ้านและสอนให้เกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์ ไร่นาผสมผสาน หันมาปลูกข้าวเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้คุณภาพของข้าวที่ดี โดยในครั้งนี้ “เซ็นทรัล ทำ” ได้นำสายพันธุ์ข้าวกว่า 11 สายพันธุ์ มาจาก 9 ชุมชน 7 จังหวัด ทั่วประเทศ ซึ่งมีเอกลักษณ์ด้านรสชาติและคุณลักษณะที่แตกต่างกัน มาจำหน่ายในงาน รวมทั้งพาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตัวจริง มาร่วมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าว และเล่าเรื่องราวของข้าวแต่ละพันธุ์ด้วย 

โดยภายในงาน “เซ็นทรัล ทำ” พาวิลเลียน แบ่งออกเป็น 5 โซน ดังนี้

โซนที่ 1 ขายข้าวดี : เป็นข้าว 11 สายพันธุ์ ที่ดีที่สุดของประเทศ จาก 7 จังหวัด 9 ชุมชน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวไร่ดอกข่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกข้าวไร่ดอกข่า ตำบลตากแดด จังหวัดพังงา, ข้าวเบายอดม่วง กะช่องฮิลล์/นาหมื่นศรี จังหวัดตรัง, ข้าวผกาอำปึล ข้าวเนียงกวง ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรทฤษฎีใหม่คอโค จังหวัดสุรินทร์, ข้าวหอมมะลิแดง สหกรณ์เกษตรพืชผักอินทรีย์หนองสนิท จังหวัดสุรินทร์, ข้าวเหนียวสันป่าตอง สหกรณ์การเกษตรแม่ทา จำกัด จังหวัดเชียงใหม่, ข้าวเหนียวเขี้ยวงู จากวิสาหกิจชุมชนไร่กลิ่นโคลนสาบควาย จังหวัดเชียงราย, ข้าวกล้องดอยพื้นเมือง (บือโปะโละ บือพะโคะ บือพะทือ) วิสาหกิจชุมชนเกษตรแปรรูปภูแจ่มใสและผ้าทอมือบ้านแม่ลานคำ จังหวัดเชียงใหม่, ข้าวเหนียวดำลืมผัว วิสาหกิจชุมชนข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว จังหวัดตาก และข้าวสังข์หยด วิสาหกิจชุมชนท่าช้างฟื้นฟูเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดพัทลุง และของแห้งทานคู่ข้าว เช่น น้ำพริกปลาย่าง กุนเชียง ปลาสลิดทอด ปลาช่อนแดดเดียว 

โซนที่ 2 ทำของดี : เป็นกิจกรรม workshop ปั้นโอนิกิริจากข้าวไทย และทำเทียนหอมจากไขถั่วเหลือง (Soy wax) กลิ่นข้าวหอมมะลิ สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าในงานและสนใจร่วมกิจกรรม

...

โซนที่ 3 กินอร่อยดี : โอมากาเสะข้าวไทย ตื่นตาตื่นใจอิ่มเอมไปกับเมนูอาหารที่รังสรรค์ โดยเชฟเทพ, เชฟแบล็ค และเชฟจากร้าน Spaghetti Factory กับเมนูที่ทำจากข้าว 11 สายพันธุ์พื้นบ้านไทย ทำให้การกินข้าวโอมากาเสะจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป และได้รู้ว่าข้าวไทยเป็นมากกว่าแค่ คาร์โบไฮเดรตในจาน

โซนที่ 4 เรื่องราวดีดี : กิจกรรมการเสวนาเกี่ยวกับข้าว “ทำทุกคำให้ดี” ต้องทำทันที “เริ่มจากข้าวบนต้น สู่ข้าวบนจาน” โดยได้รับเกียรติจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตัวจริงที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์จากการลงมือทำจริง เพื่อพัฒนาให้ข้าวทุกคำเป็น “คำที่ดี” จากความหลงใหลสู่เรื่องราวข้าวกับชีวิต และพบกับนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวสายพันธุ์ข้าวและชุมชนผู้ปลูกข้าวที่สนับสนุนโดย เซ็นทรัล ทำ

...

โซนที่ 5 ช้อปสินค้าดี : โซนสุดท้ายที่ยกร้าน Good Goods มาไว้ในงาน โดยมีทั้ง cafe และโซนสินค้าชุมชน ที่ได้นำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับข้าว และผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของแต่ละชุมชนมาจำหน่าย อาทิ กระเป๋าสานไม้ไผ่จากกลุ่มจักสานไม้ไผ่หวาย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่, สบู่ข้าวก่ำ (Black Sticky Rice Soap), สบู่ข้าวหอมมะลิ (Jasmine Rice Soap), สบู่ข้าวมันปู (Red Cargo Rice Soap), ข้าวจากภัทรพัฒน์ มูลนิธิชัยพัฒนา ข้าวหอมมะลิจันกะผัก และข้าวหอมปทุมธานี/ข้าวกล้องปทุมธานี พร้อมเปิดตัว น้ำหอมข้าว ที่ใช้ข้าวหอมมะลิเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นกลิ่นที่ทำให้นึกถึงน้ำค้างยามเช้าในนาข้าว

...

นอกจากนี้ภายในงานยังมีบริการห่อของขวัญในรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่น ฟุโรชิกิ ด้วยผ้าพิมพ์ลายที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะในงานทั้งหมด 3 ลาย 1.วิถีข้าว เรื่องเล่าจากชาวนา 2.กิน กับ ข้าว และ 3.ผืนดิน ถิ่นเดิม ซึ่งทั้ง 3 ลายได้แรงบันดาลใจมาจาก นาข้าว วัฒนธรรมการปลูกข้าว และการกินอยู่ สามารถนำไปมอบเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสพิเศษ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนด และยังมีส่วนลดพิเศษอีกมากมาย ทั้งนี้ สามารถรับคูปองแทนเงินสดในวันงาน มูลค่า 100 บาท ณ จุดลงทะเบียนตรงทางเข้า ฮอลล์ 2 ตั้งแต่ 10 โมง หรือ จนกว่าคูปองจะหมด และซื้อสินค้าภายในบูธ CMG Hall 8 (ขั้นต่ำ 500 บาท) จะได้รับคูปองแทนเงินสด 100 บาท เพื่อใช้จ่ายภายใน เซ็นทรัล ทำ พาวิลเลียน ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2566.