สองลุงป้าชาวกบินทร์บุรี แบ่งที่นา 16 ไร่มาปลูกอ้อย 4 ไร่ คั้นน้ำอ้อยบรรจุขวดขาย ทำเงินครั้งละหลักแสนต่อปี โดยขายน้ำอ้อยสบายกว่าทำนาหลายเท่า เพราะลงทุน 1 ปี เก็บเกี่ยวได้ 2 ปี ผสมผสานกับการทำนาข้าว ปลูกก็ไม่ยุ่งยากแถมซางอ้อยและเปลือกอ้อยนำไปทำปุ๋ยได้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านท่าทองดำ พื้นที่ ม.2 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีสองสามีภรรยา แบ่งพื้นที่จากพื้นที่นา 16 ไร่ หันมาปลูกอ้อยกว่า 4 ไร่ คั้นน้ำอ้อยสดใส่ขวดขาย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ปีหนึ่งโกยเงินเข้ากระเป๋าหลักแสนอย่างสบาย ขายเอง ซึ่งดีกว่าทำนาหลายเท่า เพราะลงทุน 1 ปีเก็บเกี่ยวได้ 2 ครั้ง หรือ 2 ปี จึงลงพื้นที่ไปพบกับเจ้าของไร่อ้อย

...

นายบุญมี สีวงษ์หัด อายุ 60 ปี และ นางสมจิตร สีวงษ์หัด อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา มีพื้นที่ทั้งหมด 16 ไร่ ก่อนหน้านี้เดิมที ก็ทำนาข้าว บริเวณที่ปลูกอ้อยจะเป็นพื้นที่สูงทำนาไม่ได้ผลเหมือนพื้นที่ลุ่ม แรกๆ จึงเปลี่ยนลองหันมาปลูกข้าวโพด ข้าวเหนียว 8 แถว แต่ก็ไม่ดีเท่าที่ควร จึงแบ่งพื้นที่ 4 ไร่ หันมาลองปลูกอ้อยดู ได้พันธุ์อ้อย 50 มาทดลองปลูก คั้นน้ำใส่ขวดขาย ปรากฏผลตอบรับดีมาก สามารถทำรายได้เป็นหลักแสนต่อปี และยังเก็บเกี่ยวผลผลิต ปีที่ 2 ได้อีกโดยไม่ต้องปลูกใหม่

ป้าสมจิตร กล่าวต่อว่า จากนั้นลุงกับป้าก็ได้ปลูกอ้อยมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ กว่า 8 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำนาข้าวควบคู่ไปอีกด้วย ส่วนพื้นที่สูงน้ำไม่ถึงก็จะปลูกยูคาลิปตัส และยังปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว ไว้ต้มขาย อีกทาง ส่วนน้ำอ้อย ก็จะขายส่งให้โรงงานบ้าง ขายเองตามหมู่บ้านร้านค้าบ้าง รวมๆ แล้ววันหนึ่งจะขายได้ประมาณ 70 ถึง 80 ขวด จะสร้างรายได้เข้าครอบครัวทุกวัน โดยราคามี 2 ขนาด ขวดเล็กขายเพียง 10 บาท ส่วนขวดใหญ่ขาย 20 บาท ส่วนซางอ้อยและเปลือกอ้อยก็มีประโยชน์นำไปเป็นปุ๋ยชั้นเยี่ยมให้กับต้นยูคาลิปตัส-นาข้าว เป็นอย่างดีอีกด้วย

ป้าสมจิตร กล่าวด้วยว่า ส่วนวิธีการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ง่ายกว่านาข้าว โดยอ้อยจะเริ่มปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ก็จะเริ่มตัดเก็บเกี่ยวได้ในเดือนธันวาคม ไปเรื่อยจนถึงเดือนเมษายน ของทุกปี หากใครสนใจอยากปลูกอ้อย เพื่อสร้างรายได้ ลุงบุญมีก็ยินดีให้คำปรึกษา และมีพันธุ์อ้อยขายให้ด้วย โดยพันธุ์อ้อยจะขายกิโลกรัมละ 4 บาท หรือใครสนใจอยากรับน้ำอ้อยคั้นสดไปขาย ก็จะขายในราคาส่งให้ หรือโทรสอบถามได้ที่ 086-078-1725 ป้าสมจิตร บ้านท่าทองดำ.

...