เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ ขอบคุณรัฐบาลที่เร่งปราบปรามหมูเถื่อน ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ฝากให้ กกร.ดูแลไม่ให้มีการขายหมูต่ำกว่าต้นทุน ยืนยันเนื้อหมูไทยปลอดภัย และเพียงพอต่อการบริโภค

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสั่งการให้ปราบปราม “หมูเถื่อน” เด็ดขาด และนำผู้กระทำผิด และเจ้าหน้าที่ของรัฐมาลงโทษตามกฎหมาย นับเป็นข่าวดีของผู้เลี้ยงหมู เพราะทำให้ปริมาณหมูเถื่อนลดลง หมูไทยเข้าสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น ซึ่งหมูไทยถูกเลี้ยงด้วยความเอาใจใส่ตามหลักการสุขอนามัยที่ดี แต่ที่ผ่านมาต้องประสบกับปัญหาขาดทุนสะสมยาวนาน กระทบต่อสภาพคล่องของเกษตรกร สร้างแรงกดดันกับเกษตรกรในภาวะที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

“การกวาดล้างหมูเถื่อน การตรวจค้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และห้องเย็นทั่วประเทศยังคงต้องดำเนินการต่อเนื่อง เพราะ 2 ปีผ่านมาหมูเถื่อนนับ 1,000 ตู้ทะลักเข้ามาในไทย สร้างความปั่นป่วนให้อุตสาหกรรมสุกร ทั้งราคา และการผลิต ถึงวันนี้ถูกจับกุมจำนวนมาก แต่ราคาหมูไทยยังไม่แตะต้นทุน รัฐบาลจึงควรดูแลเรื่องนี้ด้วย” นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าว

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า เรื่องหมูเถื่อนเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนเกษตรกรทิ้งอาชีพซึ่งจะกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของผู้บริโภค และประเทศไทย เพราะปัญหาหมูเถื่อนยืดเยื้อมาเป็นปี ที่สำคัญเนื้อหมูของไทยมีความปลอดภัยสูงมากทั้งมาตรฐานฟาร์ม และการบริหารจัดการ เพื่อสร้างหลักประกันให้กับคนไทยได้บริโภคเนื้อหมู ปราศจากสารปนเปื้อน และสารเร่งเนื้อแดง และขอยืนยันว่าเกษตรกรตั้งใจผลิตเนื้อหมูคุณภาพปลอดภัย เพื่อความมั่นคงทางอาหารให้ ประเทศอย่างยั่งยืน

ด้าน นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การกวาดล้างหมูเถื่อนอย่างหนักของรัฐบาลชุดนี้ส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย เริ่มมีกำลังใจในการเดินหน้าเลี้ยงหมูต่อเนื่อง จากที่ก่อนหน้านี้ต้องแบกภาระขาดทุนสะสมนานหลายเดือน ทั้งกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ยังมี แนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต

...

“หมูเถื่อนถูกจับกุม และอายัดไว้จำนวนมาก ช่วยหยุดยั้งการระบายออกมาสู่ตลาดได้ ทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่พออยู่ได้ ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ใส่ใจปราบปราม จึงอยากขอให้กรมปศุสัตว์ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง” นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าว    

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเชื่อว่าหมูเถื่อนที่จะลักลอบเข้ามาใหม่นั้นลดปริมาณลงมาก เนื่องจากการตรวจค้นที่เข้มข้นของเจ้าหน้าที่ หมูเถื่อนเหล่านี้ นอกจากเป็นหมูผิดกฎหมายแล้วยังปนเปื้อนสารตกค้าง โดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดง ทั้งยังถูกเก็บมานานแรมปีอาจมีการเสื่อมคุณภาพ หมดอายุหรือขึ้นรา ดังนั้นผู้บริโภคต้องระมัดระวัง ควรเลือกซื้อเฉพาะเนื้อหมูจากแหล่งจำหน่ายที่ได้รับตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ของกรมปศุสัตว์เท่านั้น.