แม่ค้าใน จ.สตูล เผย ตั้งแต่ขายกล้วยมานับ 10 ปี ไม่เคยพบกับราคากล้วยที่ปรับสูงขึ้นได้ขนาดนี้ และเป็นเหมือนกันทั่วประเทศ แม้ของแพง แต่ก็จำเป็นต้องขาย ขณะที่ลูกค้าเองบอกว่าแพงก็ต้องซื้อ เพราะเป็นของที่กินประจำ และมีประโยชน์กับเด็กและผู้สูงอายุ

นางก๊ะตา เจ้าของร้านก๊ะตาบ้านกล้วย กล่าวว่า กล้วยปรับขึ้นราคามาตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา และเริ่มแพงขึ้นเรื่อยๆ กล้วยทุกชนิดทั้งกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ แพงหมด ตนขายกล้วยมา 10 ปีแล้วปีนี้ถือว่าแพงเป็นประวัติการณ์เลยก็ว่าได้ ไม่เคยมีราคาแพงแบบนี้ ตนซื้อกล้วยน้ำว้า 2 วัน/ครั้ง ครั้งละ 400 กก. กล้วยไข่ กับกล้วยหอมอีก 60-80 กก. โดยซื้อยกเครือ ขาย กก.ละ 13 บาท มาตอนนี้ซื้อยกเครือ กก.ละ 20 บาท และตอนนี้กล้วยที่สตูลหาซื้อยากมาก

...

ล่าสุดต้องสั่งซื้อมาจาก จ.สงขลา แล้วต้องเสียค่าขนส่งอีก ขณะที่ตลาดค้าส่งผลไม้ที่สงขลาเองก็มีกล้วยขายน้อยเช่นกัน แต่ละรอบตนซื้อกล้วยครั้งละ 15,000 บาท ต้องมาแบ่งขายน้ำว้าดิบสวยผลโต หวีละ 40-50 บาท กล้วยไข่ กล้วยหอม หวีเล็กหวีละ 36-37 บาท กล้วยน้ำว้าหวีเล็ก 25 บาท ต้องรีบขายให้หมด ไม่เช่นนั้นกล้วยจะสุกงอมขาดทุนอีก ส่วนสาเหตุนั้นตนคิดว่าน่าจะเกิดจากภาวะแล้ง เพราะต้นปีที่ผ่านมาสตูลแล้งมาก ทำให้กล้วยไม่ออกผล เพราะต้องดูแลต้นไม่ให้ต้นตาย แต่อีกส่วนหนึ่งที่ได้ยินเขาพูดกันคือ มีแม่ค้ามาเลย์เข้ามากว้านซื้อกล้วยจาก จ.สตูล ไป จะเห็นได้ว่าช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ร้านโรตีจะไม่มีการขายโรตีกล้วย เพราะกล้วยแพงและขาดตลาด

ด้าน นางสมจิตร เมืองมา อายุ 62 ปี แม่ค้าขายกล้วยทับ กล่าวว่า ขายกล้วยทับมา 17 ปีแล้ว ช่วงเดือน ส.ค.นี้ถือว่าแพงเป็นประวัติการณ์ กล้วยเพิ่งจะมาแพงมากสุดๆ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เคยซื้อกล้วยเป็นหวี ตอนนี้กล้วยน้ำว้าขายเป็นกิโล ตก กก.ละ 25 บาท ก่อนหน้านี้จะไม่ขายกล้วยลูกเล็ก ตอนนี้ลูกเล็กก็เอาไว้ก่อน เพราะหากไม่เอาก็ไม่มีขาย ทุกวันตนใช้กล้วยน้ำว้าวันละ 25-30 หวี ยอมรับว่ากล้วยแพงขึ้น กำไรหายไปครึ่งต่อครึ่ง โชคดีที่มะพร้าวยังไม่ขึ้นราคา หากปรับขึ้นอีกคงขายราคาเดิมไม่ได้.