คนรับจ้างขับรถเกี่ยวข้าวที่ จ.ราชบุรี วอนรัฐกลับไปตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท เหตุกระทบต่อต้นทุนทำอาชีพ กำไรเหลือน้อย อีกทั้งไม่อยากขึ้นค่าเกี่ยวข้าว เพราะผลผลิตข้าวนาปรังปีนี้แย่จากเอลนีโญ เมล็ดเล็กลีบขายได้ราคาไม่ดี ทำให้ชาวนาเดือดร้อน

จากกรณี สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจุดยืน พร้อมกับเรียกร้องให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร หลังคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. มีมติปรับราคาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร โดยกำหนดเวลา 10 วัน (21 มิ.ย. 67) หากไม่ได้คำตอบ ผู้ประกอบการจะปรับราคาขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 9

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายอนิรุทธิ์ ทองเย็น ชาวบ้าน อ.บ้านโป่ง หนึ่งในผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวที่ออกให้บริการให้กับชาวนาในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง เพื่อส่งโรงสี แต่ปัญหาต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น กำลังส่งผลกระทบต่อรายได้เช่นกัน

...

นายอนิรุทธิ์ เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพรับจ้างเกี่ยวข้าวมาแล้ว 27 ปี โดยจะรับจ้างชาวนาในพื้นที่ และตามจังหวัดใกล้เคียง ในราคาไร่ละ 500 บาท ซึ่งประกอบด้วยต้นทุนทั้งค่าซ่อมบำรุง ค่าแรงคนงานขับ ค่านายหน้า และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จึงต้องเน้นทำปริมาณพื้นที่เพื่อให้พอเหลือกำไร ทว่าราคาน้ำมันดีเซลซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักได้ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลในพื้นที่ขยับขึ้นไปถึงลิตรละ 33.10 บาท

"ตอนแรกตั้งใจว่าจะขยับราคาค่าบริการขึ้นตามอีกไร่ละ 50 บาท หลังไม่ได้ปรับราคามานานกว่า 10 ปี แต่เมื่อลงสำรวจแปลงนาของชาวบ้านพบว่าในฤดูนาปรังปีนี้ข้าวเสียหายหนักมาก เหลือเพียงร้อยละ 40 อันเนื่องมาจากสภาวะเอลนีโญ อากาศร้อนจัดทำให้เม็ดข้าวลีบ ไม่ได้น้ำหนัก จึงตัดสินใจรับเกี่ยวข้าวในราคาเดิมไปก่อน เพราะเข้าใจในหัวอกชาวนาว่ากำไรจากการขายข้าวมีไม่มาก" คนรับจ้างขับรถเกี่ยวข้าว กล่าว

นายอนิรุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคาน้ำมันไม่ให้ลอยตัวเกิน 30 บาท เพราะถ้าราคาน้ำมันยังคงปรับราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นนี้ ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตฤดูนาปี ตนและกลุ่มผู้ประกอบการรับจ้างเกี่ยวข้าวคงต้องปรับราคาค่าบริการขึ้น เพื่อให้ยังคงสามารถประกอบอาชีพนี้ได้ ซึ่งท้ายที่สุดผลกระทบก็จะตกไปอยู่กับชาวนาที่จะได้กำไรจากการขายข้าวลดน้อยลงไปอีก.