สำรวจหน้าเขียงที่ตลาดเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ด้าน เจ้าของเขียงหมู เผย หมูราคาร่วงเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคกำลังซื้อลด และเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ปริมาณการบริโภคเนื้อหมูลดลง แต่เป็นโอกาสที่คนได้กินหมูราคาถูก ขณะที่เกษตรกรต้องอดทน คาดหลังเปิดเทอมกลับสู่ปกติ
จากกรณีที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรออกมาขอความร่วมมือห้างค้าปลีก-ส่ง งดจัดโปรโมชัน พร้อมกับรณรงค์ให้มีการบริโภคเนื้อหมูมากขึ้น เพื่อช่วยเกษตรกร หลังหมูล้นตลาดวันละกว่า 8,000 ตัว ทำราคาตกต่ำ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการเลี้ยงหมูมากที่สุดของประเทศ เพื่อสำรวจราคาหมูหน้าเขียงในตลาดเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง พบราคาหมูเนื้อแดงอยู่ที่กิโลกรัมละ 125 บาท สามชั้น 170 บาท หัวไหล่ 115 บาท สันคอหมู 150 บาท สันนอกและสันใน 130 บาท ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาเลือกซื้อกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคักเท่าที่ควร
...
น.ส.สุรีย์วัล รอดสุโข เจ้าของเขียงหมูดีช็อป เปิดเผยว่า เนื้อหมูมีการปรับราคาลงมาตั้งแต่หลังเทศกาลตรุษจีน โดยส่วนตัวมองว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาหมูตกต่ำมีหลายปัจจัย เริ่มจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ประชาชนต่างรัดเข็มขัด ลดการจับจ่ายซื้อสินค้า และอยู่ในช่วงปิดเทอม ทำให้ปริมาณการบริโภคเนื้อหมูในแต่ละวันลดลงถึงร้อยละ 80 สวนทางกับปริมาณหมูในท้องตลาดที่เพิ่มขึ้น อันเกิดจากกลุ่มเกษตรกรรายกลางและรายย่อยส่วนหนึ่ง หันกลับมาเลี้ยงหมูอีกครั้ง หลังเผชิญกับโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือ ASF และผู้ประกอบการรายใหญ่บางราย นำเนื้อหมูที่ชำแหละแล้วไปเก็บไว้ในห้องเย็น เนื่องจากล้นตลาด แต่ด้วยค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาที่สูงสวนทางกับราคา และยังคงมีการชำแหละหมูในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสียหายจึงนำออกมาเทขายในราคาถูก
เจ้าของเขียงหมูดีช็อป กล่าวด้วยว่า ในส่วนปริมาณความต้องการบริโภคจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งก็จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แล้วปริมาณจะลงลดตามเดิม แต่คาดว่าสถานการณ์ราคาและการบริโภค จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังโรงเรียนเปิดเทอมไปแล้ว 1 เดือน ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีของประชาชนที่จะได้บริโภคหมูคุณภาพในราคาถูก แต่ก็เป็นช่วงที่เกษตรกรต้องกัดฟันทน ส่วนปัญหาหมูเถื่อนนั้น ตนมองว่าไม่กระทบกับราคาตลาดในปัจจุบัน เนื่องจากภาครัฐได้ปราบปรามอย่างหนัก ผู้ที่จะลักลอบจำหน่ายหมูเถื่อนทำได้ยากขึ้น.