ภาพประกอบจากแฟ้มข่าว
อธิบดีกรมการค้าภายใน เผย จับมือสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และกรมปศุสัตว์ รณรงค์ให้ประชาชนบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้น เพราะผลผลิตเกินความต้องการอยู่ 8 พันตัวต่อวัน โดยขอห้างร้านตรึงราคาหมูไว้ที่ กก.ละ 130 บาท งดจัดโปรโมชั่นเกรงกดราคารับซื้อกระทบเกษตรกร
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และกรมปศุสัตว์ จัดรณรงค์ให้ผู้บริโภคช่วยบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยพยุงราคาเนื้อหมูให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากขณะนี้ ผลผลิตหมูมีชีวิตมีปริมาณเกินความต้องการจากปกติ โดยปัจจุบันมีหมูออกสู่ตลาด 5.8 หมื่นตัว มากกว่าความต้องการบริโภคเฉลี่ยวันละ 5 หมื่นตัว ทำให้มีหมูส่วนเกิน 8 พันตัว จึงต้องหาทางเร่งระบายผลผลิตส่วนเกิน
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวต่อว่า แม้ว่าในส่วนของกรมปศุสัตว์ จะเร่งแก้ปัญหาตัดวงจรหมูด้วยการผลักดันให้ทำหมูหัน ส่วนกรมการค้าภายในก็ได้รณรงค์ขอให้บริโภคเนื้อหมูเพิ่ม พร้อมขอความร่วมมือไปยังห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ให้งดการจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าเนื้อสุกรในช่วงนี้ เพราะราคาเนื้อหมูถูกอยู่แล้ว โดยราคาเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ กก. ละ 130 บาท และหากมีการนำเนื้อหมูมาจัดโปรโมชัน เกรงว่าจะไปกดราคารับซื้อหมูและกระทบกับเกษตรกร
นายวัฒนศักย์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 67-68 บาท เกษตรกรผู้เลี้ยง ยังคงขายได้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ซึ่งการตัดวงจรหมู จะช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องเข้าไปช่วยดูแลในด้านต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาอาหารสัตว์ เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้
ด้าน ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เพื่อติดตามราคา และสถานการณ์วัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตอาหารสัตว์ต่อเนื่อง โดยพบว่าแนวโน้มราคาปรับลดลงตามต้นทุนวัตถุดิบที่ถูกลง โดยขณะนี้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 10.26 บาท ลดลงจากปีที่แล้วที่ 12.67 บาท กากถั่วเหลือง เฉลี่ย ม.ค.-ก.พ. 67 กก.ละ 13.92 บาท ลดลงจากปีก่อน 16.84 บาท ข้าวสาลี กก.ละ 7.74 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ 8.23 บาท ปลาป่น กก.ละ 32 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ 36.61 บาท
...