เกษตรกรที่บ้านบึงสวาง ต.บึงเนียม อ.เมืองขอนแก่น ใช้พื้นที่ 1 ไร่ แบ่งปลูกพริกหยวกและปลูกมะระขี้นก โดยสิ่งสำคัญต้องระวังไม่ให้เพลี้ยมารบกวน เพราะใช้สารเคมีกำจัดไม่ได้ โดยพืชทั้ง 2 แบบสามารถเก็บผลผลิตขายได้ตลอดปี พริก กก.ละ 120 บาท มะระขี้นก 1 ถุง 5 กก.150 บาท
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านบึงสวาง ม.5 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับลำน้ำพอง ที่ชาวบ้านทำการเกษตรปลูกพืชชนิดต่างๆ จำนวนมาก เพื่อสำรวจราคาหน้าสวนที่เก็บขายในปัจจุบัน โดยพบกับนายลำพวน แทนซิน อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่ใช้ทำการเกษตรจำนวน 1 ไร่ แบ่งปลูกพริกหยวกและปลูกมะระขี้นก ซึ่งนายลำพวนอยู่ระหว่างการเก็บพริกหยวกและมะระขี้นกส่งขาย
...
นานลำพวน กล่าวว่า ในส่วนของพริกหยวกนั้นจะเริ่มปลูกตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนและธันวาคม เดือนมกราคม ก็เริ่มเก็บขาย ส่งขายที่ตลาด โดยเก็บใส่ถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม ขายในราคา 120 บาท แต่ต้องคัดเอาเฉพาะลูกที่สวยงามเท่านั้น ลูกที่หงิกงอจะต้องคัดออก ซึ่งในปีนี้ก็เริ่มเก็บขายได้แล้ว
ในส่วนของการปลูกมะระขี้นกนั้น จะลงมือปลูกเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องดูแลไม่ให้เพลี้ยมารบกวน ซึ่งที่สวนนั้นถูกเพลี้ยมารบกวนนานเป็นเดือน และเพิ่งฟื้นคืนมาได้ เพราะมะระไม่สามารถใช้ยาฆ่าเพลี้ยมากำจัดได้จะทำให้มะระตาย จึงต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เถาไหนมีเพลี้ยรีบกำจัดออก คงไว้เฉพาะที่ยังแข็งแรง เมื่อเถามะระแข็งแรง ก็ต้องดูแลและรดน้ำ เพื่อให้ออกดอก ออกผล และเก็บขาย
นานลำพวน กล่าวอีกว่า ที่สวนจะทำการเก็บมะระส่งขายให้พ่อค้าในทุกๆ 2 วัน จะบรรุจุใส่ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม ส่งขายในราคา 150 บาท ขณะนี้มีผลผลิตที่น้อย เก็บขายไม่พอกับออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งการทำสวนมะระขี้นกนั้นสามารถเก็บขายได้ตลอดทั้งปี เพียงแค่ต้องดูแลกำจัดเพลี้ยอย่าให้มารบกวน ก็สามารถเก็บขายและมีรายได้ตลอดทั้งปี.