เกษตรกรโคราชดีใจ นโยบายพักชำระหนี้ 3 ปีของรัฐบาล "เศรษฐา" เป็นจริง เชื่อส่งผลดีทำให้ลูกหนี้มีเงินไปหมุนเวียนต่อยอดก่อนแล้วเมื่อครบเวลา 3 ปี เชื่อว่าเศรษฐกิจดีขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถชำระหนี้ทั้งหมดได้
จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้มีนโยบายพักชำระหนี้ให้เกษตรกร 3 ปี โดยให้เน้นกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่มีหนี้ 100,000 บาท ถึง 1 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแบ่งเบาภาระให้ โดยจะทำให้ลูกหนี้เกษตรกร มีเงินไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจก่อน ไม่ต้องนำมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. และเมื่อครบเวลา 3 ปี เชื่อว่าเศรษฐกิจดีขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถจะนำเงินมาชำระหนี้ได้อย่างแน่นอนจากนโยบายแก้ปัญหาเร่งด่วนดังกล่าว ทำให้เกษตรกรต่างพากันดีใจ
นายบุญส่ง แฉกพิมาย อายุ 68 ปี เกษตรกรบ้านมะค่า หมู่ที่ 11 ตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกร เป็นเวลา 3 ปี รู้สึกดีใจอย่างมาก เพราะจะทำให้มีเงินหมุนเวียนสำหรับไว้ทำนาปลูกข้าว ซึ่งแต่ละปี ตนจะลงทุนทำนาปลูกข้าว จำนวน 20 ไร่ ต้องลงทุนในการเพาะปลูกแต่ละครั้ง ปีละ 6 – 8 หมื่นบาท เป็นเงินกว่า 8 หมื่นบาท โดยเงินที่นำมาลงทุนเพาะปลูก จะเป็นเงินส่วนตัวราวๆ 2 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือจะกู้มาจาก ธ.ก.ส. 3 หมื่นบาท และกู้เงินกองทุนหมู่บ้านอีก 3 หมื่นบาท
...
อย่างไรก็ตาม การปลูกข้าวนาปี จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเจอกับภัยธรรมชาติ ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย ซึ่งในพื้นที่ทำนาของตน มักจะเจอปัญหาน้ำท่วมหรือภัยแล้งแทบทุกปี ทำให้ผลผลิตเสียหาย บางปีก็ขาดทุน ไม่มีเงินไปส่งให้กับ ธ.ก.ส. ถูกทวงถามตลอด เงินที่รัฐบาลชดเชยช่วยเหลือ ก็ไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุนเสียไป จะหาผลผลิตไปขายก็ไม่มี ถ้าหากมีการพักชำระหนี้ให้เกษตรกร 3 ปี ก็จะทำให้ตนมีเงินมาหมุนเวียนใช้ลงทุนเพาะปลูกข้าว และยังสามารถเก็บเงินที่ได้จากการขายผลผลิตไปไว้ชำระหนี้ได้ทั้งหมดในปีต่อไปด้วย นับเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับเกษตรกร.