"อิแทวอน" ย่านสถานบันเทิงชื่อดัง และยิ่งเป็นที่พูดถึงในวงกว้างมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก จากแรงผลักของ "ซีรีส์ Itaewon Class" กลับกลายมาเป็น สถานที่แห่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ ต่อจากเหตุ "โศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่ม" จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลายมากถึง 304 ศพ ในเดือนเมษายน ปี 2014 หลังการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีนในเมืองหลวงของเกาหลีใต้ ซึ่งมีผู้คนมากกว่า 100,000 คนเข้าร่วม และส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุ 20 ปีต้นๆ นำไปสู่เหตุการณ์เหยียบกันตาย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ลำดับเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมอิแทวอน :

29 ต.ค. 2565

ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงหัวค่ำ สื่อของเกาหลีใต้รายงานว่า มีฝูงชนมากกว่า 100,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาววัย 20 ปีต้นๆ พยายามเบียดเสียดยัดเหยียดเข้าไปร่วมงานเทศกาลฮาโลวีน ซึ่งถือเป็นงานรื่นเริงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ของเกาหลีใต้ ที่ถนนอิแทวอน ซึ่งมีความยาวเพียงประมาณ 1.4 กิโลเมตร ทุกอย่างจึงเต็มไปด้วยความโกลาหล และเป็นที่น่าสังเกตว่า “ไม่มีมาตรการควบคุมหรือจำกัดคนเข้า-ออก หรือมีอุปกรณ์ในการแจ้งเตือนฝูงชนแต่อย่างใด”

...

เวลา 22.22 น. : ตร.กรุงโซล ได้รับแจ้งเกิดเหตุฝูงชนเหยียบกันตายจำนวนมากที่อิแทวอน จึงมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่มากกว่า 1,700 คน เข้าให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ดี พยานในที่เกิดเหตุบอกกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า การจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก อันเป็นผลสืบเนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังอิแทวอน ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าถึงที่เกิดเหตุได้อย่างยากลำบากและล่าช้า

เกิดอะไรขึ้นที่ อิแทวอน :

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานยืนยันถึงสาเหตุของโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาเห็นกลุ่มชายประมาณ 5-6 คน เริ่มผลักคนอื่นๆ ก่อนที่จะทำให้มีหนึ่งหรือสองคนเริ่มล้มลง จากนั้นทุกอย่างก็เต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อผู้คนล้มลงตามๆ กันเหมือนกับโดมิโน ท่ามกลางเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือของเหล่าคนที่ถูกทับ และมีบางคนพยายามตะโกนร้องว่า “ช่วยด้วย หายใจไม่ออกแล้ว” ในขณะที่คนที่อยู่ด้านหลังซึ่งไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังพยายามดันคนข้างหน้าต่อไปเป็นทอดๆ

ทั้งนี้ ปัญหาการจราจรที่ติดขัด ทำให้ผู้รอดชีวิตส่วนหนึ่งบอกกับสำนักข่าวท้องถิ่นด้วยว่า กว่าที่จะได้รับความช่วยเหลือ “ร่างของเขาถูกทับจากผู้คนนานถึงร่วมหนึ่งชั่วโมง” และเมื่อการช่วยเหลือเข้าถึงอย่างล่าช้า พลเมืองดีจำนวนมากจึงต้องทำ CPR เพื่อพยายามช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ส่วนใหญ่นอนหมดสติอยู่ตามถนนด้วยตัวเอง ท่ามกลางเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆ รวมถึงผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ที่นอนเรียงรายอยู่

ขณะเดียวกับผู้รอดชีวิตคนหนึ่งได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เขาสามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ เป็นเพราะได้พยายามตะเกียกตะกายเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่งที่มีประตูเปิดอยู่พอดี ส่วนหญิงสาวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า เธอโชคดีที่เดินอยู่บริเวณช่วงปลายถนน เพราะหากติดอยู่บริเวณช่วงกลางถนน เธอคงไม่น่าจะรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น คำตอบล่าสุดจากทางเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ ระบุเพียงว่า “ยังไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันในเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน” ในขณะที่เหล่าพนักงานในย่ายอิแทวอน ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ย่านอิแทวอนเนืองแน่นไปด้วยผู้คนตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 29 ตุลาคมแล้ว อย่างไรก็ดี ย่านนี้มักเต็มไปด้วยผู้คนอยู่เสมอๆ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้มาก่อน

...

จำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บล่าสุด :

เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศเกาหลีใต้ สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า เหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 151 ศพ เป็นหญิง 97 ศพ ชาย 54 ศพ ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 19 ศพ ส่วนผู้เสียชีวิตที่สามารถระบุสัญชาติได้แล้ว คือ สัญชาติอิหร่าน นอร์เวย์ จีน และ อุซเบกิสถาน ด้านจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ 82 ราย ขณะเดียวกันมีรายงานว่าอีก 350 คน ที่ยังสูญหาย

ประธานาธิบดียูน ซอค ยอล (Yoon Suk-Yeol) แห่งเกาหลีใต้ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
ประธานาธิบดียูน ซอค ยอล (Yoon Suk-Yeol) แห่งเกาหลีใต้ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ

...

โศกนาฏกรรมและหายนะที่ไม่ควรเกิดขึ้น :

ประธานาธิบดียูน ซอค ยอล (Yoon Suk-Yeol) แห่งเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุทันที และล่าสุดได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประกาศให้ลดธงลงครึ่งเสาทั่วประเทศเพื่อแสดงการไว้อาลัยให้กับเหล่าผู้เสียชีวิต ให้คำมั่นว่าจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงแสวงหามาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ขณะเดียวกันยังมีสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทบทวนเรื่องมาตรการจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าทุกอย่างจะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

กราฟิก : sathit chuephanngam

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

...