ตอนที่ 6
อาการเจียงหนักถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกต้องผ่าตัดด่วน บัวร้องไห้หมดแรงไม่รู้จะทำอย่างไร ชยุติปลอบใจและจะอยู่เคียงข้าง บัวส่ายหน้าพยายามออกห่าง เขายื้อขอดูแลเธอ
“อย่าเอาตัวมาเกลือกกลั้วกับคนชั้นต่ำอย่างฉันจะดีกว่า หากคุณอยากจบปัญหานี้จริงๆ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ออกไปจากชีวิตฉันซะ” บัวเดินหนีไปยืนห่างๆ
ชยุติเสียใจมาก กลับมาบ่นกับมาลัยว่าจะต้องหาทางช่วยบัวให้ได้ มาลัยเห็นด้วย
“คนตกทุกข์ได้ยากเราต้องช่วย แต่คนที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม เรายิ่งต้องช่วย”
“แต่ผมจะต้องขัดคำสั่งของป๊ากับม้า”
“แต่ทำตามคำสั่งของอาม่าไง”
ชยุติปลื้มปริ่มที่มาลัยเข้าใจ มาลัยเตือนว่าจะช่วยอะไรอย่าให้พวกบัวรู้เพราะคนบ้านนั้นไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี ชายหนุ่มรับคำจะระวังให้ถึงที่สุด ตนไม่อยากเห็นบัวร้องไห้อีก...ด้านบัวนั่งร้องไห้อยู่ลำพัง ว้าวุ่นใจเรื่องอาการเจียงและคำพูดของชยุติที่เขาจะต่อสู้กับความอยุติธรรมเพื่อตน ทั้งที่ความอยุติธรรมนั้นคือครอบครัวของเขาเอง
ชยุติมาประกันตัวดำเกิงเพราะคิดว่าเป็นความรับผิดชอบของตน ดำเกิงไม่ขอบคุณและยังย้ำให้เขาเลิกทำให้บัวต้องเจอแต่เรื่องซวยๆเสียที ชยุติไม่โต้แย้งบอกเพียงว่าเจียงเข้าโรงพยาบาล ดำเกิงแทบช็อก รีบตามไปหาบัวด้วยความร้อนใจ
บัวโผกอดดำเกิงบอกว่าเจียงพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังโคม่าอยู่ ดำเกิงบอกบัวไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษาตนจะขายบะหมี่ทั้งวันทั้งคืนหาเงินมาให้ บัวรู้ว่าไม่พอจะเอาบ้านไปจำนอง ดำเกิงไม่เห็นด้วย บัวนึกได้ถามเขาออกมาได้อย่างไร ดำเกิงเฉไฉบอกตนไม่ผิดตำรวจไม่มีสิทธิ์จับ...ห่างออกมา ชยุติยืนฟังหน้าเครียด คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยบัว
ไหมฟ้าเดินเก็บดอกเบี้ยพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาด เจอนกขมิ้นนั่งแซวส่งตาเจ้าชู้ ไหมฟ้าทำสะบัดสะบิ้งพองามแต่เล่นด้วย ตรึงจิตมาเห็นพุ่งเข้าตบไหมฟ้า นกขมิ้นต้องลากตรึงจิตกลับ...นกขมิ้นแก้ตัวว่าที่ตีสนิทกับไหมฟ้าเพราะอีกหน่อยคณะงิ้วจะเป็นของเธอ ตรึงจิตไม่สนบอกขายน้ำเต้าหู้ยังดีกว่า นกขมิ้นชวนไปเยี่ยมเจียง เธอส่ายหน้าจะไปเข้าบ่อนยังมีโอกาสได้เงินเพิ่ม
ooooooo
วันต่อมา ไชโยคุยกับวลีเรื่องล้วนกับแสงเดือนชวนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กนกวิภายุวลีให้ตกลง วลีเองก็ตั้งใจอยู่แล้ว ชยุติเดินผ่านไปไม่ทักทาย ทั้งสามแปลกใจจะไปไหน จ๊าดรีบรายงานว่าทั้งอาม่าและจี๊ดไปกับชยุติด้วย วลีฉุกคิดสงสัยจะไปหาพวกงิ้ว
มาลัยทำอาหารมาให้บัวเพราะรู้ว่าเจียงยังไม่ฟื้น บัวเกรงใจไม่รับแต่มาลัยย้ำว่าต้องกินเพื่อป๊า ถ้าเป็นอะไรไปอีกคนจะยุ่ง พยาบาลเข้ามาขอย้ายเจียงไปห้องพิเศษ บัวแปลกใจคิดในใจว่าเป็นฝีมือชยุติ ไม่เพียงเท่านั้น ชยุติยังมาแจ้งห้องการเงินขอเป็นเจ้าของไข้เจียง
บัวแปลกใจเมื่อจะจ่ายค่ารักษาเจียง พยาบาลแจ้งว่ามีคนที่ชอบดูงิ้วจ่ายแทนแล้ว...ตกเย็นบัวกลับบ้านเจอธานีกับไหมฟ้าพาลูกน้องมายกข้าวของในบ้าน ก็รีบขอให้อะลุ้มอล่วยเพราะเจียงยังนอนอยู่โรงพยาบาล ไหมฟ้าโวยทีตนยังโดนไล่ออกอย่างกับหมูกับหมา ดำเกิงกลับมาพอดีชี้หน้าไหมฟ้าว่าเธอลาออกไปเอง เจียงไม่ได้ไล่ ทั้งสองด่ากันล้งเล้ง ดำเกิงโมโหกระชากคอธานีมาจะชก ธานีร้องลั่น ถ้าทำร้ายตน ตนจะยึดบ้าน ดำเกิงชะงักยอมปล่อย
“อั๊วยังไม่ยึดบ้านก็ได้ เห็นแก่ชีวิตอั๊ว เอ๊ย! เห็นแก่พวกจนตรอกอย่างพวกลื้อนะ แต่อั๊วให้โอกาสอีกแค่วันเดียวเท่านั้นนะ ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่จ่าย มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน...” ทุกคนมองหน้าธานีแม้แต่ไหมฟ้า “อั๊วจะมาเอาอาบัวไปขัดดอก” ทุกคนตกใจ
แม้แต่ไหมฟ้าก็โวยธานีที่จะเอาบัวมาทำเมีย ธานีแก้ตัวว่าเอามาขัดดอก ตรึงจิตหัวเราะเยาะว่าไหมฟ้าตกกระป๋อง ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้ไหมฟ้า ...ดำเกิงร้อนใจกับเรื่องนี้มาก บัวตั้งสติคิดในทางที่ดีว่าแค่ไปทำงานขัดดอกเท่านั้น
บ่ายวันนั้น วลีรู้เรื่องชยุติถอนเงินจากบัญชีไปสองแสนก็โวยวาย มาลัยอ้างว่าขอยืมเงินหลาน วลีไม่เชื่อ ชยุติจึงบอกว่าตนถอนเงินไปทำธุระส่วนตัว วลีเค้นถามว่าเอาไปช่วยพวกงิ้วใช่ไหม ไม่ทันไร จ๊าดวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกเรื่องบัวถูกขายไปเป็นเมียขัดดอกธานี ชยุติตกใจรีบวิ่งออกไป วลีร้องลั่นให้กลับมา แต่เขาไม่สนใจฟัง
ชยุติไปหาบัวที่ศาลเจ้า เธอกำลังสวดมนต์ไหว้พระ เขารีบถามเธอเรื่องธานี บัวแทรกขึ้น
“ผู้หญิงขัดดอกน่ะเหรอ”
“มันไม่จริงใช่ไหมบัว”
“แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะคะ” ชยุติสวนว่าไม่ยอม “มันไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย คุณไม่จำเป็นต้องมาเดือดร้อนอะไรด้วย”
“แต่ผมเดือดร้อนไปแล้ว ผมทนเห็นคุณตกอยู่ในสภาพแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ อย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับคนอย่างเสี่ยธานีเลย มันไม่คุ้มหรอก”
“มันคุ้มแน่ ถ้ามันทำให้ฉันรักษาบ้าน รักษาคณะงิ้วของป๊าไว้ได้”
“แต่ไม่สามารถรักษาลูกสาวของเขาไว้ได้ป๊าคุณจะเสียใจแค่ไหนที่ปกป้องคุณไว้ไม่ได้ คณะงิ้วจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีนางเอกงิ้ว”
“แต่ถ้าฉันไม่ทำ ฉันก็อาจจะต้องอยู่อย่างเสียใจไปตลอดชีวิต”
ชยุติตัดสินใจขอใช้หนี้ธานีแทนเจียง บัวไม่อาจรับความช่วยเหลือจากเขาได้อีก
“ฉันขอบคุณนะแต่แค่ค่ารักษาพยาบาลป๊า ฉันก็ใช้หนี้คุณยากแล้ว และฉันไม่อยากให้ใครดูถูกว่าเป็นปลิงดูดเลือด ฉันจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ส่วนคุณถ้าอยากให้ฉันสบายใจ กรุณาทำหนังสือสัญญากู้ยืม
มาให้ฉันด้วย โดยกำหนดให้เขาเป็นเจ้าหนี้”
ชยุติเครียดที่บัวไม่รับความช่วยเหลือ กลับมาบ้านเจอยิ่งจันทร์แต่งตัวเว่อร์วังยืนหมุนตัวอวด เขาชะงักทำหน้าเซ็ง เธอหลงคิดว่าเขาตะลึงกับความงามของตัวเอง
“คิดว่านางฟ้าเหรอคะ พี่ติอ่ะ จันทร์เขิน ดูดู๊มองตาเป็นมันเชียว”
“เปล่าครับ ผมนึกว่าผี แล้วนี่มาทำไมครับกลางค่ำกลางคืน มีธุระอะไรรึเปล่า”
“แหม...ทำเป็นเก๊ก ก็พี่ติจะชวนจันทร์ไปฟังเพลงที่ไนต์คลับไม่ใช่หรือคะ จันทร์รอตั้งนาน จะไปกันได้รึยังคะ”
ชยุติปรายตามองวลีกับวลัยที่นั่งยิ้ม จึงบอกยิ่งจันทร์ว่าอาม้ากับอาอี๊มากกว่าที่ชวน เธอมาแล้วตนมีเรื่องอยากคุยด้วยพอดี เขาดึงมือเธอออกไปคุยในสวน วลีกับวลัยมองด้วยความอยากรู้ ยิ่งจันทร์ทำหน้าขวยเขินที่ชยุติจับมือเดินมา พอมองที่มือเขาก็เห็นว่าไม่ได้สวมแหวนของตนจึงเอ่ยถาม ชายหนุ่มอ้างว่าฝากอาม้าไว้ เธอยิ้มปลื้มคิดว่าเขากลัวหาย ชยุติปฏิเสธ
“กลัวจันทร์จะเข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นคู่หมั้นกันมากกว่า เลยฝากอาม้าให้เอาแหวนไปคืนจันทร์...ขอโทษนะจันทร์แต่อย่ารอพี่อีกเลย ยังไงเราก็ไปด้วยกันไม่ได้หรอก”
ยิ่งจันทร์ยังไม่เข้าใจคิดว่าคืนนี้ที่ไปกันไม่ได้ เขาคงง่วงนอน ชยุติสวนตนไม่ได้ง่วง แต่ตนไม่ได้รักเธอ วลีกับวลัยซึ่งแอบฟังอยู่ตกใจ ส่วนยิ่งจันทร์อ้าปากค้างชยุติพูดตรงประเด็น
“เลิกให้คนอื่นบงการชีวิตซะทีเถอะจันทร์ พี่รู้ว่าจันทร์เองก็ไม่ได้รักพี่เหมือนกัน” ยิ่งจันทร์แย้งว่ารัก เขาถาม “ทำไมจันทร์ถึงรักพี่ล่ะ ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันไม่นาน”
“ก็พี่ติรวย...เอ๊ย...ก็พี่ติน่ารัก เป็นคนดี อีกอย่างความรักมันก็ไม่เกี่ยวกับระยะเวลานี่คะ”
“แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกของพี่ พี่ไม่ได้รักจันทร์ จันทร์อย่าเอาความสุขทั้งชีวิตมาทิ้ง เพราะการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักจันทร์เลยแม้แต่นิดเดียว”
“ตะ...แต่ แต่จันทร์ไม่ได้อยากมีความสุขนี่คะ จันทร์แค่อยากได้เงิน เอ๊ย! จันทร์แค่อยากเป็นเมียพี่ติ”
“แต่พี่คิดกับจันทร์แค่น้องสาวเท่านั้น และมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงด้วย”
ยิ่งจันทร์ร้องกรี๊ดๆ วลีกับวลัยวิ่งออกมาปลอบและเอ็ดชยุติ แต่เขากลับบอกว่าเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง แล้วให้วลีคืนแหวนยิ่งจันทร์ไป ยิ่งจันทร์ร้องไห้โฮสะบัดสะบิ้งวิ่งกลับไป วลีใจหายวาบกลัวจะเสียลูกสะใภ้...
วลีหันมาเล่นงานชยุติ วลัยคอยปรามให้ใจเย็นๆและคอยเสริมพี่สาวเป็นระยะๆ แต่ชยุติก็ยืนกรานว่าจะไม่แต่งงานกับยิ่งจันทร์ คนที่ตนอยากแต่งด้วยคือบัว มาลัยยืนฟังอยู่มุมหนึ่ง ยิ้มปลื้มที่หลานชายเด็ดขาด ไชโยวิ่งมาสมทบ ช่วยวลีต่อว่าชยุติ
ชยุติก้มกราบไชโยกับวลี ขอโทษและขอบคุณที่เลี้ยงตนมาอย่างดี ตนจะทดแทนบุญคุณด้วยการสานต่อโรงงาน ส่วนเรื่องมรดกจะตัดตนออกก็ไม่เป็นไร กนกวิภาวิ่งมาปรามพี่ชายแต่เขาไม่สนใจฟังใครทั้งนั้น ยืนหยัดคำพูดตัวเอง วลีเรอเอิ๊กๆจะเป็นลม มาลัยแกล้งเหน็บเสียงดัง
“เอะอะก็เป็นลมๆตั้งแต่สาวยันแก่...โรคสำออยแหงๆ”
ชยุติมาหาบัวที่บ้านแต่ไม่มีใครอยู่ จึงนั่งรอที่หน้าบ้านด้วยความสับสนเสียใจ...ด้านยิ่งจันทร์ร้องไห้กลับมาบ้าน เห็นแสงเดือนกับล้วนกำลังไล่คนของเจ้าหนี้ที่มายกของในบ้านออกไปแทบหมด ก็ยิ่งร้องไห้โฮ พอแสงเดือนรู้เรื่องที่ชยุติบอกว่าไม่รักและไม่แต่งงานด้วยกับยิ่งจันทร์ก็เครียด คิดแผนใหม่ต้องจับชยุติให้ได้
ไม่อย่างนั้นพวกเธอจะลำบากยิ่งกว่านี้
ooooooo
เจียงยังนอนนิ่งอยู่โรงพยาบาล บัวกับดำเกิงเดินกลับบ้าน ต่างปลอบใจกันและกันให้กำลังใจ ดำเกิงให้บัวเข้าบ้านไปก่อน เขาจะไปขายบะหมี่
บัวอวยพรให้ขายหมดเกลี้ยง พอจะเข้าประตูบ้านต้องสะดุ้ง เห็นชยุตินอนขดอยู่ที่ม้าหิน จึงเข้าไปปลุกให้เขากลับบ้าน
ชยุติสะดุ้งตื่น บอกบัวว่าตนไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปไหน บัวรู้ว่าเขาต้องทะเลาะกับที่บ้านมา
“อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลจะดีกว่า เราทุกคนต่างมีหน้าที่ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด หน้าที่ของความเป็นลูกที่ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ คุณโชคดีที่มีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า ไม่เหมือนกับฉัน ฉะนั้นอย่าแลก อย่าทำอะไรที่สุดท้ายแล้วคุณจะต้องมานั่งเสียใจภายหลังเลย...ถ้าคุณยังร้อน ยังไม่พร้อมกลับบ้าน ฉันก็อนุญาตให้คุณนั่งอยู่ตรงนี้ได้จนกว่าจะดีขึ้น หวังว่าคุณจะคิดได้ไวๆ”
ชยุตินับถือในความคิดที่ดีของบัว มองเธอเดินเข้าบ้านไปอย่างชั่งใจ...รุ่งเช้า บัวเปิดประตูบ้านออกมาไม่เห็นชยุติที่ม้าหินแล้ว เธอถอนใจหวังว่าเขาจะคิดได้