ตอนที่ 2
“คนนี้เหรอครับ ที่จะมาแทนสารวัตรวาริช”
“ใช่ คุณเพิ่งรู้เหรอ”
“ผมไปตั้งจุดสกัด เพิ่งถอนกำลังกลับมา”
“ท่าทางแกดูดีนะ แต่ไม่น่าปอดแหกเลย”
“ปอดแหกยังไง”
“ก็แกอยู่บนรถที่โดนปล้น แต่กลับไม่ยอมทำอะไรเลย”
พิทยาธรรับฟังแต่ยังไม่ตัดสินว่าสารวัตรใหญ่เป็นยังไง...เวลานั้นใกล้ค่ำแล้ว ใหญ่ตั้งใจไปหาที่พักค้างคืน จู่ๆพิทยาธรในชุดครึ่งท่อนวิ่งตามมาทำความเคารพและรายงานตัวอย่างฉะฉานก่อนจะถามว่า
“สารวัตรกำลังจะไปไหนครับ ผมจะขับรถไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก ตลาดอยู่ใกล้ๆนี่เองไม่ใช่เหรอ”
“ก็ไม่ใกล้หรอกครับ ถ้าเดินไปก็เอาการอยู่ครับ แล้วอีกอย่างผมเกรงว่าที่นอนที่สารวัตรต้องการก็จะหาไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ”
“แต่ผมนอนได้ทุกแห่งและไม่เลือกสถานการณ์”
“แต่ถ้าไม่มีคนพื้นที่แนะนำ ผมเกรงว่าสารวัตรจะเสียหายได้ครับ”
“เสียหาย?”
“ใช่ครับ โรงแรมที่นี่คนขับรถบรรทุกจะนิยมมาใช้เป็นที่พักเพราะมีบริการหลายอย่าง ทั้งยาเสพติด แล้วก็ผู้หญิง...ไปกับผมเถอะครับ ผมจะช่วยหาโรงแรมที่เหมาะสมให้ พอดีผมพอจะรู้จักผู้จัดการโรงแรม ถ้าเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักผม ผมมักจะพาไปพักที่นี่ครับ”
“ก็ได้”
“งั้นเชิญทางนี้ครับ” พิทยาธรเดินนำออกไป
“เดี๋ยวนะ รถที่จะขับไปส่งเป็นรถหลวงหรือรถส่วนตัว”
“รถส่วนตัวครับ แม่ซื้อให้ผมเป็นรางวัลที่สอบไล่ปีสุดท้ายได้”
“คุณจบจากที่ไหน”
“โรงเรียนนายร้อยตำรวจครับ...ถึงแล้วครับ” พิทยาธรขึ้นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ สตาร์ตเครื่องแล้ว
ส่งหมวกกันน็อกให้...ใหญ่รับมาใส่ก่อนขึ้นซ้อนท้าย รู้สึกสบายใจเล็กๆ อย่างน้อยก็มีมิตรอยู่บ้าง
ooooooo
ถึงโรงแรมกลางเมือง พิทยาธรพาใหญ่มาพบผู้จัดการเพื่อติดต่อเช่าห้องพัก แต่ผู้จัดการให้อยู่ฟรี บอกว่าสำหรับตำรวจพระลานเรายินดีต้อนรับและมีห้องไว้ให้เสมอ
“ไม่ได้ครับ จะให้พักฟรีไม่ได้ ไม่งั้นคุณจะขาดรายได้”
“แต่เรากันห้องเอาไว้สำหรับช่วยราชการแล้วค่ะ ตำรวจพระลานใครๆก็มาใช้ห้องฟรีกันทั้งนั้น”
“งั้นให้ถือซะว่าผมเป็นตำรวจคนแรกที่ได้รับเกียรติอุดหนุนโรงแรมคุณ จะให้เกียรติผมได้ไหมครับ”
ผู้จัดการลังเล มองหน้าพิทยาธรเพื่อถามความเห็น แต่ผู้หมวดกลับไม่พูดอะไร ใหญ่จึงรวบรัด
“ถ้าผู้จัดการไม่ยอมรับค่าห้อง ผมจะถือว่าไม่ให้เกียรติและคงต้องไปพักที่อื่น”
“งั้นก็ได้ค่ะ แต่คงต้องขอเก็บครึ่งราคานะคะ”