ตอนที่ 13
เหมยพยายามหลอกตัวเองว่าการตายของตี๋เล็กเป็นแค่ความฝัน แต่ครั้นมาถึงที่ห้องเก็บศพและเห็นร่างไร้วิญญาณของลูกชายก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง ตี๋เล็กตายไปแล้วจริงๆ ถึงกับเข่าอ่อนก่อนจะเป็นลมล้มพับ
เต็งล้อต้องเข้ามาประคองออกไป ทิ้งให้รุจียืนมองศพตี๋เล็กด้วยน้ำตานองหน้าเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองรักเขามากแค่ไหนก็ตอนที่เขาไม่มีลมหายใจแล้ว...
เมื่อกลับถึงโรงแรมที่พัก หลิวขออยู่ตามลำพังไม่ต้องการให้ฮัวมาเป็นบอดี้การ์ดให้เพราะอยากทำใจกับเรื่องที่เจออาติยะอีกครั้ง ระหว่างนั่งทอดอารมณ์อยู่ริมสระว่ายน้ำ จางเหาเข้ามาถามว่ายังไม่ได้เข้าร่วมกับพวก 14K ใช่ไหม เธอแปลกใจเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เขาขอร้องเธอไม่ต้องไปสนใจว่าเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ที่สำคัญคือเธอต้องไม่ถลำตัวเข้าไปยุ่งกับพวก 14K เพราะถ้าเข้าไปร่วมกับพวกนั้นเธอจะไม่มีวันถอยหลังกลับได้อีก
“ผมสงสัยว่าเต็งล้อจะเป็นคนบงการทุกเรื่อง ตอนนี้ผมยังอธิบายให้คุณเข้าใจไม่ได้แต่อยากให้คุณเชื่อผม”
“พอได้แล้ว แปะเต็งเป็นเหมือนคนในครอบครัวจะให้ฉันเชื่อคนที่ฆ่าพ่อตัวเองว่าทุกอย่างเป็นแผนของแปะเต็งได้ยังไง...คุณเลิกยุ่งกับฉันเถอะ คุณจำได้ดีมาตลอดว่าเราเป็นศัตรูกัน” หลิวตอกกลับทั้งที่ใจเจ็บช้ำ
“แล้วคุณจะให้ผมลืมสิ่งที่พ่อคุณทำกับครอบครัวผมหรือไง”
แม้ในใจจะเจ็บปวดไม่แพ้จางเหาเช่นกัน หลิวกลับท้าให้เขาฆ่าเธอตรงนี้เลย บุญคุณความแค้นของเราจะได้จบๆกันไป จางเหาไม่สามารถฆ่าหลิวได้ต่อให้แค้นครอบครัวของเธอมากแค่ไหนก็ตาม เธออยากรู้เหตุผล เขาอยากบอกใจจะขาดว่าเป็นเพราะเขารักเธอแต่ปากหนักเกินกว่าจะพูดออกมา
ระหว่างนั้น อาติยะเดินออกมาพร้อมกับตรัยฌาน หลิวไม่อยากให้จางเหามีปัญหารีบบอกให้ออกไปก่อน เขากลับยืนนิ่งไม่ขยับ ตรัยฌานเห็นเขาขวางทางเจ้านายก็กร้าวใส่
“หัวหน้าองค์การ 14K มีธุระจะคุยกับคุณหลิว”
จางเหาชะงักที่รู้ว่าอาติยะเป็นถึง เค.วอง แต่
ก็ยังไม่หลบอยู่ดี อาติยะต้องเป็นฝ่ายเดินเลี่ยงเขาเข้าไปหาหลิว แค่จะมาบอกให้เธอรู้ว่าไม่ต้องห่วง เขารับรองจะจัดการเรื่องการเข้าร่วมเป็นสมาชิก 14K ให้เธอเอง
“คุณจัดการตามกฎเถอะค่ะ ฉันไม่อยากให้ใครว่าคุณได้...เอ่อ ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัวนะคะ” หลิวรีบตัดบทก่อนจะเดินหนี อาติยะคว้าแขนเธอไว้ ตัดพ้อเธอที่ทำตัวห่างเหินกันแบบนี้ ยังไม่หายโกรธอีกหรือ เธอโกหกว่าไม่ได้เป็นอะไร แล้วผละจากไป อาติยะจะตามแต่ตรัยฌานห้ามไว้
“ให้เวลาคุณหลิวหน่อยเถอะครับคุณอาติยะ”
อาติยะพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันหลังกลับไป จางเหามองตามสงสัยในความสัมพันธ์ของเขากับหลิว...
เนื่องจากเต็งล้อหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน แถมขาดการติดต่อไปดื้อๆทำให้หลิวสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี จึงชวนฮัวให้รีบกลับบ้าน จากนั้นไม่นาน เมื่อรถของหลิวเลี้ยวเข้าไปในบริเวณบ้านธรรมกุลเห็นโคมขาวติดอยู่ที่ซุ้มประตูเหมือนตอนที่ตี๋ซุ้งเสียชีวิต หลิวใจคอไม่ดีมั่นใจว่าต้องเกิดเรื่องร้าย เป็นจังหวะเดียวกับเต็งล้อออกมาหา เธอเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของเขาร้องทักว่าเกิดอะไรขึ้น
“นายน้อย...นายเล็กตายแล้ว” คำตอบของเต็งล้อทำให้หลิวถึงกับเข่าอ่อน ฮัวต้องช่วยประคองเอาไว้
ooooooo
หลิวเป็นห่วงความรู้สึกของแม่รีบไปหาที่เรือนเล็ก เจอท่านกำลังอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ตี๋เล็กไปสู่ภพภูมิที่ดี หลิวเข้าไปจับมือท่านไว้อย่างเป็นกำลังใจให้ เหมยพยายามกลั้นน้ำตาไม่อยากเศร้าให้ลูกสาวเห็น
“อาหลิว เป็นความผิดของม้าเอง ม้าไม่ดูแลตี๋เล็กให้ดีๆ อาหลิว...ม้า...”
“ม้าอย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยนะ สุขภาพของม้าก็สำคัญ ถ้าตี๋เล็กเห็นม้าเป็นแบบนี้ ตี๋เล็กต้องไม่สบายใจแน่” หลิวดึงแม่มากอดไว้แน่น เหมยกอดลูกตอบ ทั้งสองคน ต่างกอดปลอบใจซึ่งกันและกัน...
ฝ่ายเต็งล้อรู้จากฮัวว่าอาติยะคือเค.วองแห่ง 14K ก็ถึงบางอ้อทันทีทำไมทางนั้นถึงย้ำนักย้ำหนาว่าต้องเป็นนายน้อยเท่านั้นที่เข้าประชุมได้ ฮัวเห็นสีหน้าไม่สู้ดี นักของเขา อดทักไม่ได้ว่าไม่ดีใจหรือ เพราะอาติยะจะต้องรับนายน้อยเข้าเป็นสมาชิกแน่นอน
“ดีใจเหรอ...ฮึ” เต็งล้อคิดหนักเพราะเดินหมากผิด ทันทีที่หลิวเข้าร่วมกับ 14K นั่นเท่ากับเธอจะกลายเป็นหงส์ที่มีเขี้ยวเล็บมังกรทำให้ยากต่อการกำจัด จังหวะนั้นคนที่เต็งล้อคิดถึงย่องเงียบเข้ามาพอดี เขารีบปรับท่าทีหันมาค้อมหัวให้อย่างนอบน้อม เธอถามเขารู้ใช่ไหมว่าใครฆ่าตี๋เล็ก เต็งล้อไม่อยากให้ใครได้ยินเรื่องที่จะคุยกันจึงชวนเธอไปที่ห้องทำงานของตี๋ซุ้ง ครั้นได้อยู่กันตามลำพัง เต็งล้อรายงานว่าเป็นฝีมือของเฮียไฮ้
“เรื่องที่นายเล็กไปขัดผลประโยชน์ของมัน”
หลิวพอจะเดาออกอยู่แล้ว ทั้งเสียดายและเสียใจที่น้องชายไม่น่าหาเรื่องใส่ตัว เต็งล้อเลียบๆเคียงๆถามถึงเรื่องที่อาติยะกลายเป็นเค.วอง เธอเล่าว่าในที่ประชุมทุกคนต่างดีใจที่อาติยะคือเค.วอง แต่เธอกลับไม่ดีใจแม้แต่น้อย เธอกับเขาห่างกันไปนานเกินกว่าจะจำความสัมพันธ์เก่าๆได้
“แปะ อั๊วขอโทษ ถ้าบางทีมันจะไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆต้องการ” หลิวเริ่มไม่มั่นใจว่าอยากจะเข้าร่วมกับพวก 14K อย่างที่พ่อต้องการ เต็งล้อพยายามจะอ่านความรู้สึกนึกคิดของเธอแต่อ่านไม่ออกจึงต้องพูดเป็นกลางๆกันเหนียวไว้ก่อนว่าอะไรจะเกิดไม่มีใครรู้ได้ เธออย่าโทษตัวเองจะดีกว่าแล้วทีนี้เราจะเอาอย่างไรกันต่อ
“สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการจัดงานศพให้กับตี๋เล็กอย่างสมเกียรติ”...
ข่าวการตายของตี๋เล็กด้วยน้ำมือของเฮียไฮ้ล่วงรู้ถึงหูอาติยะซึ่งเป็นห่วงความรู้สึกของหลิว สั่งให้ตรัยฌาน เอารถออก หวังจะไปปลอบขวัญเธอ
ooooooo
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่เฮียไฮ้กำลังเอาหอกเอาดาบโบราณที่สะสมไว้มาเช็ดทำความสะอาดเจ๊หยกเข้ามาโวยวายเรื่องที่ผู้นำสูงสุดของ 14K เคยเป็น
คนรักเก่าของหลิวนั่นเท่ากับการจะเข้าเป็นสมาชิกของมันต้องราบรื่นไม่มีปัญหา เฮียไฮ้กำลังเครียดเรื่องราวต่างๆที่ถาโถมเข้ามาทำให้สติหลุดโวยกลับไปบ้าง
“แล้วเจ๊จะให้ผมทำยังไง เลิกเอาแต่สั่งได้แล้ว”
สองคนมีปากเสียงกัน เฮียไฮ้ด่าสู้ไม่ได้ ฮึดฮัดจะเงื้อมือตบสั่งสอน แต่ยั้งมือไว้ทันรีบขอโทษที่สติหลุด เธอโกรธที่เขาบังอาจท้าทายอำนาจปรี่เข้าไปทุบตีอุตลุดแถมด่าสาดเสียเทเสียว่าเนรคุณ เขาสติแตกผลักเธอ
อย่างแรงเซไปกระแทกกับหอกที่วางอยู่ หอกเสียบทะลุท้อง เลือดทะลัก เฮียไฮ้หันไปเห็นเธอล้มฟุบลงไปจมกองเลือด ตกใจแทบสิ้นสติ...
ปราบข้องใจเกี่ยวกับการตายของตี๋เล็กที่แจ้งว่าเป็นการฆ่าตัวตายจึงเข้าไปขอให้ท่านชาติชายอนุญาตให้ตรวจสอบใหม่ ท่านกลับบอกว่าไม่เห็นจะผิดปกติตรงไหน พวกมาเฟียตายน่าจะเป็นเรื่องดีกับประชาชน ปราบไม่เห็นด้วย ถึงจะเป็นมาเฟียก็ถือว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งเช่นกัน ถ้าประชาชนตายอย่างคลุมเครือในระหว่างการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แล้วเราจะตอบคำถาม ประชาชนได้อย่างไร ท่านชาติชายเริ่มเดือดปุดๆ
“ผมก็เห็นมีแต่คุณนั่นแหละที่ถาม ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคนชั่วมันจะตายยังไง ในเมื่อหลักฐานมันเป็นอย่างนั้นคุณก็ไม่ควรเรื่องมาก” ท่านชาติชายจ้องหน้าปราบอย่างเอาเรื่อง
“ถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่มีความชัดเจน คนที่ประชาชนอยากให้ตายอาจจะไม่ใช่โจรก็ได้”
ท่านชาติชายไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยไล่ปราบทางอ้อม ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็เชิญไปได้...
ดึกสงัดคืนเดียวกัน คุงใช้นำร่างไร้วิญญาณของเจ๊หยกเอาไปทิ้งลงแม่น้ำเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย
ooooooo
หลิวเป็นห่วงแม่มากตั้งแต่ตี๋เล็กตาย ท่านไม่
แตะต้องอาหารเลย เช้านี้เธอไปชวนท่านมากินข้าวด้วยกัน อุตส่าห์ให้แม่ครัวทำอาหารโปรดไว้ให้ ท่านก็ไม่สนใจเอาแต่เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง เธอต้องปลอบว่าที่ตี๋เล็กตายไม่ใช่ความผิดของท่าน
“ม้าไปกินข้าวก่อนเถอะนะ ถ้าม้าเป็นอะไรไปอีกคนหลิวจะอยู่อย่างไร” แม้หลิวจะทั้งอ้อนวอน ทั้งขอร้องแต่แม่ก็ไม่ยอมลุกไปกินข้าว เธอจึงกลับตึกใหญ่ด้วยความหนักใจและผิดหวัง...
ที่ทางเดินไปบ้านแปะคู ขณะจางเหากำลังครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลิวกับอาติยะ มีเสียงโครมครามดังมาจากหัวมุม เขาตื่นจากภวังค์รีบเดินไปดู เห็นแปะคูนอนแผ่อยู่ที่พื้นอุปกรณ์เขียนฮู้ตกเกลื่อน รีบเข้าไปพยุงกลับบ้าน ค่อยๆประคองให้ลงนอนบนเตียง แปะคู ลูบหน้าลูบหลังจางเหาด้วยความดีใจ
“อาจาง ลื้อหายไปไหนมา”
“แปะพักผ่อนเถอะนะ เดี๋ยวอั๊วเอาของไปเก็บให้ก่อนนะ” จางเหาเดินเลี่ยงออกมาไม่อยากตอบคำถาม เก็บข้าวของให้แปะคูเสร็จ อดคิดถึงวันที่สอนให้หลิวเขียนพู่กันจีนที่นี่ไม่ได้ รีบสลัดความคิดนั้นทิ้ง เดินไปเก็บข้าวของของตัวเองใส่กระเป๋ากำลังจะจากไปแต่มีเสียงเรียกของแปะคูดังขึ้นเสียก่อน
“ลื้อจะไปไหน นี่ลื้อจะทิ้งอั๊วไปอีกแล้วใช่ไหม” แปะคูตัดพ้อพลางเดินเข้ามาหา อารามรีบร้อนกลัวจางเหา จะหนีไปอีก ชนเก้าอี้จะล้ม จางเหาปรี่เข้าไปประคองไว้ทัน อธิบายว่าที่อยู่ที่นี่ไม่ได้เพราะไม่อยากทำให้ท่านเดือดร้อน แปะคูไม่สนใจ ขอแค่ให้เขาอยู่ด้วยก็พอ หรือเขาไม่อยากจะอยู่กับคนแก่ จางเหาไม่เคยคิดแบบนั้น
“ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นลื้อก็อยู่กับอั๊วนะ อั๊วไม่อยากต้องตายไปโดยที่รู้สึกว่าไม่มีใคร”...
เมื่อวานมีเหตุด่วนเข้ามาทำให้อาติยะมาหาหลิวไม่ได้ วันนี้เขาก็เลยมาหาเธอแต่เช้า หวังจะมาปลอบใจเรื่องการตายของตี๋เล็กและเพื่อจะสานสัมพันธ์กันต่อ แม้จะจำเรื่องราวความรักที่เคยมีกับเขาได้ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อาติยะเองก็รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ แต่ยังไม่ยอมแพ้
“ผมจะพยายามทำให้คุณจำถึงความรักของเราในวันเก่าๆให้ได้”...
อาติยะไม่อยากเร่งรัดอะไรหลิวนักจึงขอตัวกลับก่อน วันหลังจะมาหาใหม่ ระหว่างนั่งรถกลับโรงแรมที่พัก ตรัยฌานเห็นเจ้านายเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา ถามว่าคิดถึงเรื่องของหลิวอยู่หรือ เขาพยักหน้ารับคำ
“ให้เวลาเธอหน่อยนะครับ คุณหลิวเพิ่งจะฟื้นความจำได้ไม่นาน ความทรงจำอาจจะยังกลับมาไม่หมด”
“ฉันรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนความจำเสื่อม แต่เหมือนกับว่าเธอไม่ได้รักฉันอีกแล้ว” อาติยะสงสัยว่าหลิวอาจจะมีคนอื่น ขณะที่ตรัยฌานไม่กล้าออกความเห็น อะไรอีก...
ทางด้านเต็งล้อแอบเห็นหลิวนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว ในห้องทำงาน ความแค้นที่มีต่อตี๋ซุ้งพุ่งขึ้นมาอัดแน่นอก แทบระเบิด อยากจะฆ่าเธอให้ตายตอนนี้เลย เห็นดาบ ที่วางโชว์อยู่เผลอตัวเดินเข้าหา ทันใดนั้นมือถือของเขาสั่น ปลุกให้สติกลับคืนมา เขามองมือถือในมือเห็นเป็นเบอร์โทร.ของท่านชาติชาย รีบหลบออกไปรับสาย ท่านชาติชาย แสดงความเสียใจกับเขาด้วยเรื่องการตายของตี๋เล็ก
“ลื้อมีอะไร” น้ำเสียงของเต็งล้อราบเรียบไม่แสดง ความรู้สึกใดๆ
ท่านชาติชายแค่อยากรู้ว่าหลังจากนี้เต็งล้อจะเอาอย่างไรต่อไป เขายืนยันให้ทำตามแผนเดิม ให้ธรรมกุลเข้าเป็นสมาชิก 14K ก่อน แล้วค่อยฆ่าให้หมดทั้งเฮียไฮ้ และหลิว
ooooooo