ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ชื่อชั้นของ "โหรวารินทร์" ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง หลายคนเรียกเขาว่า “โหรสายทหาร”, “โหรท็อปบู๊ต” หรือแม้กระทั่ง “โหรคมช.”

ไม่เพียงแต่ชื่อชั้นในแง่ของความใกล้ชิดกับบุคคลระดับบิ๊กสายทหาร แต่โหรวารินทร์ยังดังกระหึ่ม และอยู่ในความสนใจของประชาชนมาแล้ว ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า คนเด่นคนดังของบ้านเมืองหลายท่านขอเข้าพบ เพื่อตรวจดวงชะตา ไม่ว่าจะนักการเมือง นักธุรกิจ และนายทหารระดับสูง จนทำให้คนทั่วไปอยากทราบว่า เขาเป็นใคร มาจากไหน เหตุใดบุคคลระดับผู้นำต่างมุ่งหน้าไปหาเขาในยามที่บ้านเมืองดูอึมครึม

เหตุที่ทำให้ วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังถิ่นล้านนา เริ่มมีชื่อเสียงนั้น ว่ากันว่า มาจากความแม่นยำในการทำนายทายทักและการแก้กรรม โดยโหรวารินทร์ เคยทำนายไว้ว่า พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ซึ่งก็เป็นไปตามคำทำนาย

...

หรือในปี 2555 ระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โหรวารินทร์ทำนายว่า หากมีคนไม่หวังดีทำให้บ้านเมืองเกิดความโกลาหล จะมีบุคคลอักษรย่อ “ป.ปลา” เป็นอัศวินขี่ม้าขาวมากู้วิกฤติ ซึ่งตอนนั้นหลายคนจับตามองไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ “บิ๊กตู่”

นอกเหนือจากนี้ ยังมีพิธีกรรมแก้ดวงเมืองของโหรวารินทร์ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้ความเชื่อถืออีกด้วย

ที่มา ฉายา “โหรคมช.”

ผู้สื่อข่าว เคยถามโหรวารินทร์ว่า ทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับอาจารย์ได้อย่างไร? โหรวารินทร์ ตอบข้อซักถามนี้ว่า “คนเราใช่ว่าจะเกิดชาติเดียว คนเราเกิดมาไม่รู้กี่แสน กี่ล้านภพ แต่ละภพ แต่ละภูมิ แต่ละชาติ ไม่รู้เราทำความดี ทำความเลวอะไรไว้บ้าง แต่ละคนที่มาพบมาเจอกัน คือ ผู้ที่มีสัญญาร่วมกันมา”

“ในอดีตผมคงต้องเกี่ยวข้องกับทางศาสนา ทางบ้านเมือง ทางทหาร เช่นเดียวกัน ในภพชาตินี้ กลุ่มที่มีสัญญาร่วมกันเลยได้มาพบ มาเจอะมาเจอ มาร่วมกันสร้างบุญ สร้างบารมีให้แก่ชาติบ้านเมือง”

เมื่อถูกถามว่า รู้สึกอย่างไรกับฉายาที่ว่า “โหรคมช.” โหรวารินทร์ ตอบว่า ผมไม่ใช่คนของใคร ผมปฏิบัติหน้าที่ของผมตั้งแต่ดั้งเดิมมาหลายสิบปี ตอนนั้นยังไม่มีอะไรเลย แต่ก็ได้มีการติดต่อดูแลกันทำบุญด้วยกัน จนกระทั่งวันที่ 19 กันยายน 2549 กลุ่มที่ทำหน้าที่ให้แก่บ้านเมืองตอนนั้น บังเอิญมาเป็นผู้ร่วมกุศลกับเราเป็นประจำทุกปี สื่อจึงมองว่า ผมมีความใกล้ชิดกับ คมช.

วินาทีรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ผ่านมุมโหร

เหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ทาง คมช. ได้มาขอคำปรึกษาอะไรบ้าง? คำถามที่หลายคนอยากฟังจากปาก โหรล้านนาคนดัง “ไม่ได้ขอคำปรึกษา แต่ก่อนเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ได้เห็นนิมิตว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในบ้านเมือง จึงได้บอกกับผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่าขอให้พวกเราปรองดองสามัคคีกัน เหตุการณ์ร้ายต่างๆ มันไม่บังเกิดขึ้น มารต่างๆ จะไม่สามารถแผลงฤทธิ์ได้ แต่ภาวะนั้น เป็นเวลาของกรรมของแผ่นดินมากกว่า เกิดเหตุการณ์วุ่นวายยุ่งเหยิงขึ้นมา ทางคณะทำงานก็เข้ามาสกัดกั้นไม่ให้เกิดกรรมตรงนั้น”

“ผมเห็นตั้งแต่แรก ในช่วงเดือนมกราคม 2549 ว่าแผ่นดินจะเดือดร้อนวุ่นวาย แต่ผมเห็นท่านสนธิ (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) ถือธงนำออกมา จะต้องมีการปฏิวัติ และมีความหมายว่า ท่านคือ ผู้นำชัยมาสู่บ้านเมือง” โหรวารินทร์ เคยเล่าเรื่องนี้ผ่านสื่อเอาไว้เมื่อปี 2551 ภายหลังจาก พล.อ.สนธิ ตัดสินใจนำกำลังออกมายึดอำนาจและกลายมาเป็น คมช. “ผู้โค่นทักษิณ” ในเวลาต่อมา

สัมพันธ์ “โหรวารินทร์” กับ “ทักษิณ”

แม้ใครจะเรียกขานเขาในนาม “โหรคมช.” แต่จะมีสักกี่คนเล่าที่จะรู้ว่า โหรวารินทร์ คนนี้เคยแก้กรรมให้ผู้ชายชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” มาแล้ว

ในปี 2551 โหรวารินทร์ เคยบอกเล่าเรื่องนี้ผ่านสื่อไว้ว่า “ตอนปี 2541 ผมได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณ(ตำแหน่งในสมัยนั้น) ที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี ที่สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ กับ พล.ต.ยุทธพงษ์ พวงทอง เป็นคนนำพาให้มาพบกัน ก็ได้นั่งคุยกัน”

“ผมเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ มาหลายปี มีความเลื่อมใส เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำหน้าที่ให้แก่บ้านเมือง แต่ยังติดวิบากกรรม ตอนนั้นก็มีการไปปล่อยวัว สร้างพระนอนองค์หนึ่งให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ” โหรวารินทร์ บอกเล่า

จุดเริ่มต้น “ญาณวิเศษ”

ส่วนที่มาที่ไปของ “ญาณวิเศษ” ของโหรวารินทร์ ถูกเปิดเผยโดยเจ้าตัวว่า เริ่มสนใจเรื่องการใช้พลังจิต มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยศึกษาในตำราต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งอายุราว 35 ปี โหรวารินทร์ ก็ประสบกับปรากฏการณ์ “ตายแล้วฟื้น” จากนั้น จึงเริ่มรับรู้ว่าตัวเองมีอะไรบางอย่างพิเศษเรื่อยมา

โดยช่วงที่ฟื้นขึ้นมาใหม่ๆ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลสวนปรุง เพราะตอนนั้นคิดว่าตัวเองบ้า แต่หลังจากที่ได้สแกนร่างกายอย่างละเอียด หมอก็บอกว่า ไม่ได้มีการอาการผิดปกติ ร่างกายสมบูรณ์เหมือนกับทุกคน

โหรวารินทร์ ยังเล่าอีกว่า เขาเริ่มพยากรณ์มาตั้งแต่ปี 2537 ดูเกี่ยวกับที่มาที่ไปของบุญกรรมของคน จากนั้น ก็จะแนะวิธีการขออโหสิกรรมต่างๆ และได้ปฏิบัติบำเพ็ญเพียรบุญ ทาน บารมี ตามที่พระพุทธองค์ และครูบาอาจารย์ได้สั่งสอนไว้

ล่าสุด เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โหรวารินทร์ พยากรณ์ไว้ว่า ท่านประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ยังมีหน้าที่ในบ้านเมือง เมื่อมีหน้าที่ที่มีส่วนสำคัญมาก ก็ต้องทำต่อและถึงเวลาหมดหน้าที่เมื่อไหร่ชาติบ้านเมืองเดินไปได้ ท่านจะเดินลงเอง เหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ.