ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงวันตามปฏิทินของเดือนตุลาคมให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน วันไหนเงินเข้า ได้รับเงินเพื่อใช้จ่ายค่าอะไร และจะได้รับเงินเป็นจำนวนเท่าไร ติดตามได้ที่นี่...
ได้เท่าไร : วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
หมายเหตุ : ผู้มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี ได้ 300 บาท, ผู้มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปีขึ้นไป ได้ 200 บาท
ได้เท่าไร : ค่าเดินทาง ด้วยรถโดยสารสาธารณะ แบ่งเป็น รถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท, รถ บขส. 500 บาท และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
หมายเหตุ : ถ้าเกิน 500 บาท ต้องออกเงินเพิ่มเติมเอง
ได้เท่าไร : ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ใครได้ : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2562- กันยายน 2563 ระยะเวลา 11 เดือน)
ได้เท่าไร : ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ใครได้ : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2562- กันยายน 2563 ระยะเวลา 11 เดือน)
ได้เท่าไร : ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อเดือน
ใครได้ : ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 88,189 ราย (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2562)
หมายเหตุ : จ่ายเต็มราคาก่อน เดี๋ยวกรมบัญชีกลางโอนเงินคืนให้ตามหลัง
ได้เท่าไร : รัฐจะเก็บภาษี VAT จากผู้มีรายได้น้อยเพียง 2% (จ่ายเอง 1% และออมให้ 1%)
ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หมายเหตุ : การคืนเงินภาษีแวตเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะแบ่งเป็น 1. ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องจ่ายภาษีจากการซื้อสินค้าเองตามปกติ ในอัตรา 1%
2. รัฐบาลจะทำการคืนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) ทุกวันที่ 15 ของเดือน จำนวน 5% ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถกดเป็นเงินสดออกมาใช้ได้
3. จะมีการเก็บเงินเข้าบัญชีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ของผู้ถือบัตรฯ จำนวน 1% เพื่อเป็นเงินออมของผู้มีรายได้น้อย หรือหากไม่มีบัญชีกับ กอช. อาจจะเปิดบัญชีเพื่อสะสมไว้.
ข่าวเกี่ยวข้อง