Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ภายใน 4 ปี E-Commerce อาเซียนจะมีมูลค่าสูงถึง 11 ล้านล้านบาท เม็ดเงินสะพัดข้ามพรมแดน

Date Time: 13 มี.ค. 2568 09:58 น.

Summary

  • ตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) จะเติบโตจนมีมูลค่าสูงถึง 11.21 ล้านล้านบาท ภายในปี 2571 ทุบสถิติใหม่ จากแรงหนุนของ Digital Payment และการค้าข้ามพรมแดนที่เติบโต พบ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ขณะที่ “ช่องทางการชำระเงินภายในประเทศ” ครองความนิยมในสิงคโปร์ และไทย

รายงาน How Southeast Asia Buys and Pays 2025 ในปีนี้ ชี้ให้เห็นว่า การเติบโตของระบบชำระเงินแบบ Digital Payment ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ตลอดช่วงที่ผ่านมากำลังสร้างโอกาสสำคัญใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนที่มีการพัฒนาของระบบ Cross-Border Payment ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มต้นทุนมากยิ่งขึ้น

สะท้อนให้เห็นว่า ระบบการชำระเงินไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นตัวเร่งการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนรายได้มหาศาล อีคอมเมิร์ซอาเซียนโตแรง

อินโดนีเซียนำโด่ง ไทย-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์เร่งเครื่องตาม

ปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 5 ของโลก ด้วยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 4.3% ในปี 2023 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% ในปี 2024 โดยมีอินโดนีเซียครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ขณะที่ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ กำลังเร่งขยายตัวอย่างก้าวกระโดดจากแรงหนุนของระบบชำระเงินดิจิทัล การค้าในประเทศ และการท่องเที่ยว

ภายใน 4 ปี ตลาดอีคอมเมิร์ซอาเซียนจะมีมูลค่าสูงถึง 11 ล้านล้านบาท

  • มูลค่าตลาดสูงถึง 11.21 ล้านล้านบาท หรือราว 325,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 2571 ด้วยแรงหนุนจากการชำระเงินดิจิทัลและการค้าข้ามพรมแดนที่เติบโต
  • การเติบโตของการชำระเงินดิจิทัล คาดการณ์ว่าภายใน 2571 การชำระเงินดิจิทัลจะมีสัดส่วนถึง 94% ของการชำระเงินทั้งหมดในตลาดอีคอมเมิร์ซในอาเซียน โดยการเติบโตที่สำคัญที่สุดจะเป็นช่องทางการชำระเงินภายในประเทศ (97.9%) และกระเป๋าเงินดิจิทัล (94.9%) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคที่มีการใช้บัตรเครดิตน้อยกว่า
  • การเพิ่มขึ้นของการชำระเงินแบบเรียลไทม์ (RTPs) การชำระเงินแบบเรียลไทม์จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2571 โดยคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 379.5 ล้านล้านบาท (หรือราว 11 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งเริ่มเห็นการเติบโตของ RTPs อย่างชัดเจนแล้วในสิงคโปร์ เช่น PayNow เป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับสาม จากผลสำรวจผู้ค้าในปี 2567 การเติบโตของการชำระแบบเรียลไทม์ในอาเซียน หลังได้รับแรงผลักดันจากโครงการริเริ่มของรัฐบาลที่มุ่งลดการพึ่งพาเงินสดและส่งเสริมวิธีการชำระเงินที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ ซึ่งตอบสนองความต้องการของทั้งผู้บริโภคและผู้ค้า
  • กระเป๋าเงินดิจิทัลและช่องทางการชำระเงินภายในประเทศครองความนิยม กระเป๋าเงินดิจิทัลและช่องทางการชำระเงินภายในประเทศเป็นที่นิยมในภูมิภาคนี้ โดยในปี 2566 กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ขณะที่ ช่องทางการชำระเงินภายในประเทศครองความนิยมในสิงคโปร์ และไทย โดยแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2567 โดยกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับการยอมรับเป็นอันดับสองจากผลสำรวจผู้ค้าในสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ และเป็นอันดับสามในอินโดนีเซียและไทย

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสสำคัญอีกมากมายจากธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนภายในภูมิภาคอาเซียน

  • โอกาสในตลาดของธุรกิจการค้าข้ามพรมแดน คาดว่าธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนภายในอาเซียนจะมีมูลค่าสูงถึง 5.04 แสนล้านบาท (หรือราว 14.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2571 ซึ่งนับว่าเติบโตขึ้น 2.8 เท่าจากปี 2566 อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ มูลค่าเฉลี่ยของการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนในต่อผู้บริโภค 1 คนมักจะมีมูลค่าสูงกว่าการทำธุรกรรมภายในประเทศ ยกเว้นที่เวียดนามและอินโดนีเซีย สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคนี้
  • การขับเคลื่อนธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนด้วยโครงการ Regional Payment Connectivity (RPC) ธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากโครงการ RPC ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศทั้ง 6 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม) โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างและปรับปรุงระบบชำระเงินระหว่างประเทศให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และคุ้มต้นทุนยิ่งขึ้น
  • ธุรกรรมข้ามพรมแดนให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการสำรวจพบว่า 62% ของผู้ค้าที่ทำธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนสามารถทำรายได้จากธุรกรรมดังกล่าวสูงกว่าธุรกรรมภายในประเทศ โดยเฉลี่ย 21% ดังนั้น ผู้ค้าที่ต้องการขยายธุรกิจสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้จากการมองหาตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน

อ่านเพิ่มเติม

IDC บริษัทวิจัยข้อมูลตลาดและ 2C2P แพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก ร่วมกับแอนทอม (Antom) จัดทำรายงานฉบับนี้ขึ้นเพื่อสำรวจภูมิทัศน์การชำระเงินดิจิทัลในภูมิภาค จากผู้ตอบแบบสอบถาม 600 รายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการชำระเงินในแต่ละตลาด รวมถึงข้อมูลเชิงลึกว่าแนวโน้มต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจและวางรากฐานสำหรับโอกาสการเติบโตในอนาคต อ่านเพิ่มเติม How Southeast Asia Buys and Pays 2025  

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)