วิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG) แถลงทิศทาง LG ในงาน CES 2025 ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงความก้าวหน้าที่เกิดจากโมเดลธุรกิจเชิงนวัตกรรมและความจำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงโครงสร้างและเร่งการเติบโตเชิงคุณภาพ ผ่านการปรับกลยุทธ์ระยะยาวของการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“หลังการนำเสนอ ‘วิสัยทัศน์แห่งอนาคต 2030’ (Future Vision 2030) ของ LG เมื่อสองปีก่อนท่ามกลางตลาดฮาร์ดแวร์ที่ชะลอตัว ขณะที่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าในประเทศใหญ่ ๆ ก็ทวีความรุนแรงขึ้น รูปแบบการแข่งขันกับบริษัทจีนที่กำลังเปลี่ยนจากการแข่งขันด้านราคาไปสู่การเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ซับซ้อนมากขึ้น”
ทั้งนี้ ‘วิสัยทัศน์แห่งอนาคต 2030’ LG มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจที่เน้นอุปกรณ์ไฟฟ้าไปสู่การเดินทาง (Mobility) และพื้นที่เชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่บริษัทโซลูชันเพื่อชีวิตอัจฉริยะ (Smart Life Solution Company) ที่เชื่อมต่อและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า โดยอาศัยความเข้าใจลูกค้า ความเชี่ยวชาญ และความชำนาญด้านเทคโนโลยีที่สั่งสมมาหลายทศวรรษ
“ด้วยเป้าหมายที่มุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่าที่แตกต่างให้กับลูกค้า เราจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย แต่ยังมีโอกาสที่เปิดกว้างอีกมาก” นายโชกล่าวเพิ่มเติม
ช่วงที่ผ่านมา LG กำลังนำโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจบอกรับสมาชิก (Subscription) และแอลจีออนไลน์ช้อป (LG.com) แทนการแข่งขันกันด้วยราคา โดย LG ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบริษัท นำธุรกิจแบบสมาชิกมาผนวกอุปกรณ์และบริการเข้าด้วยกันเพื่อมอบความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นที่มากขึ้น ทำให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ในเวลาที่เหมาะกับความต้องการและได้รับการบริการที่เหมาะสม อีกทั้งยังช่วยให้ LG ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูกค้ายิ่งขึ้น พร้อมสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2567 รายได้จากธุรกิจบอกรับสมาชิกของ LG เพิ่มขึ้นกว่า 75% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) สูงกว่าเป้าหมายเดิมของบริษัท (1.8 ล้านล้านวอน) โดยมียอดรวมใกล้ 2 ล้านล้านวอน และตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้เป็นสามเท่าภายในปี 2573 โดยธุรกิจบอกรับสมาชิกจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ
นอกจากนี้ LG ยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการยกระดับบริการดูแลในพื้นที่ (On-site Service) และการกระจายช่องทางการขาย โดยในปีนี้ LG กำลังขยายธุรกิจบอกรับสมาชิกไปยังอินเดีย สิงคโปร์ และฮ่องกง หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวในมาเลเซีย ไทย และไต้หวัน
ในส่วนของ แอลจีออนไลน์ช้อป (LG.com) ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงแบล็ค ฟรายเดย์เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YOY)
สำหรับธุรกิจบริการบนแพลตฟอร์ม เป็นโมเดลธุรกิจที่มีกำไรสูงและกำลังจะเข้ามามีส่วนในการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจของ LG ซึ่งตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้มากกว่า 5 เท่าภายในปี 2573 หรือมีสัดส่วนถึง 20% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมดของ LG โมเดลธุรกิจนี้ใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ LG หลายร้อยล้านเครื่องที่จำหน่ายทั่วโลกเป็นแพลตฟอร์มในการสร้างรายได้จากการนำเสนอคอนเทนต์ โฆษณาและบริการต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย
โดยในปีที่ผ่านมา ธุรกิจโฆษณาและคอนเทนต์บน webOS ในสมาร์ททีวีประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถทำรายได้เกินเป้าหมายถึง 1 ล้านล้านวอน ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป webOS จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์แบบครบวงจรสำหรับอุปกรณ์และโซลูชันต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ไอทีและระบบความบันเทิงในยานยนต์
นอกจากนี้ ยังจะขยายไปที่โซลูชันสื่อดิจิทัลนอกบ้าน (DOOH) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็น "แพลตฟอร์มสื่อโฆษณาแบบบูรณาการ" ที่นำเสนอประสบการณ์คอนเทนต์ที่แตกต่างในพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ LG จึงได้เริ่มรวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจอแสดงผล รวมถึงโทรทัศน์ ป้ายโฆษณาดิจิทัล จอมอนิเตอร์ และแล็ปท็อป ผ่านการปรับโครงสร้างองค์กรเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และยังคงมองหาโอกาสต่างๆ เพื่อขยายขีดความสามารถผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) และการสร้างพันธมิตรเพิ่มมากขึ้น
เพื่อขยายการเติบโตในตลาด B2B ทาง LG ได้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ (HVAC) ซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในยุค AI โดยได้จัดตั้งบริษัท LG Eco Solution (ES) เพื่อยกระดับธุรกิจ HVAC ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยจะทำงานร่วมกับธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และโรงงานอัจฉริยะ เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จของแอลจีในตลาด B2B ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น LG มีความภูมิใจในการนำเสนอโซลูชัน HVAC ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีหลักชั้นนำของอุตสาหกรรม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยตั้งแต่เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยไปจนถึงเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์สำหรับอาคาร โรงเรียน และหน่วยงานต่างๆ
รวมถึงโซลูชันทำความร้อนที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนหม้อไอน้ำเชื้อเพลิงฟอสซิล และเทคโนโลยีเครื่องทำความเย็นขั้นสูง ซึ่งขณะนี้ได้นำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI นอกจากนี้ LG ยังเร่งสร้างโครงสร้างธุรกิจแบบครบวงจรในตลาดสำคัญๆ ที่ครอบคลุมการวิจัยและพัฒนา การผลิต การขาย และการบำรุงรักษา รวมถึงการพัฒนาโซลูชันเฉพาะสำหรับแต่ละภูมิภาค
ทั้งนี้ได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 รายได้จากธุรกิจ B2B จะมีสัดส่วนประมาณ 45% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งในปี 2564 รายได้จาก B2B คิดเป็น 27% ของรายได้รวม และเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในปี 2567
LG กำลังปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตให้สอดคล้องกับทิศทางกลยุทธ์หลักได้แก่ การเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจสูงสุด การขยายธุรกิจบริการบนแพลตฟอร์ม การเร่งขยายธุรกิจ B2B และการเร่งการทำรายได้ของธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโต ซึ่งกว่า 75% ของความพยายามด้านการวิจัยและพัฒนาขั้นสูงของ LG จะมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจที่สอดรับกับกลยุทธ์ระยะกลางถึงระยะยาวของบริษัท รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญในสาขาที่มีศักยภาพในอนาคต
ทั้งนี้ LG จะยังคงมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีหลักทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ ซอฟต์แวร์, ชิปประมวลผล, AI, หุ่นยนต์, วัสดุและชิ้นส่วน, การกำหนดมาตรฐาน, นวัตกรรมการประมวลผล, และเทคโนโลยีคลาวด์/ดาต้า โดยจะเน้นไปที่การนำกลยุทธ์ "3B" ของซีอีโอโชมาใช้ นั่นคือ Build (สร้าง) Borrow (ยืม) และ Buy (ซื้อ) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถภายในและผนึกกำลังกับความเชี่ยวชาญจากภายนอก ตลอดจนแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ รวมถึงสตาร์ทอัพ และสถาบันการศึกษา เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี
พร้อมทั้งเดินหน้าลงทุนด้าน R&D ในสาขาที่มีศักยภาพสูงในอนาคตเช่น การประมวลผลควอนตัมและเทคโนโลยีอวกาศ ทีมงานเฉพาะกิจภายใต้การนำของซีอีโอเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอธุรกิจแล้ว LG ยังมุ่งเสริมความแข็งแกร่งด้านความสามารถในการแข่งขันเชิงโครงสร้าง ทั้งในด้านคุณภาพ ต้นทุน และการส่งมอบ เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นทั่วโลก
ในปีนี้ LG กำลังจัดตั้งระบบตรวจสอบใหม่ภายใต้การนำของซีอีโอ ซึ่งแต่ละหน่วยธุรกิจและสำนักงานใหญ่จะจัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อให้มั่นใจว่าแอลจีจะเป็นผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี ประสิทธิภาพการผลิต การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการดำเนินงานต่างๆ
โดยมีซีอีโอโชเป็นผู้ดูแลความคืบหน้าด้วยตนเอง ทีมเฉพาะกิจนี้ มีเป้าหมายหลักคือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต พัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยและการพัฒนา
นอกจากนี้ LG ยังเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนจากภายนอก ผ่านการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสร้างแบบจำลองสถานการณ์สำหรับประเด็นที่มีความอ่อนไหว พร้อมกับพัฒนา “คู่มือปฏิบัติการ” เพื่อกำหนดแนวทางรับมือที่เหมาะสมที่สุด ด้วยวิธีการเชิงรุกนี้ คาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอก และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี
แม้คาดการณ์ว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะยังคงมีความไม่แน่นอนสูงในอนาคต แต่ LG ยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจขั้นพื้นฐาน และการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ จะถูก 'ขยายให้ถึงระดับสูงสุด' ตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์
นอกจากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาแล้ว LG ยังคงมองหาโอกาสสำหรับการลงทุนในหุ้นและการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโตของบริษัทให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแผนการลงทุนกว่า 50 ล้านล้านวอนภายในปี 2573 ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงพอร์ตโฟลิโอและการเติบโตเชิงคุณภาพต่อไป
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -