การฟ้องร้องกลุ่มในครั้งนี้กล่าวหา “Siri” ระบบ Voice Assistant ของอุปกรณ์ที่พัฒนาโดย Apple ว่ามักจะบันทึกเสียงบทสนทนาหลังจากที่เปิดใช้งาน Siri โดยไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งยังเปิดเผยเสียงการสนทนาดังกล่าวต่อบุคคลที่สาม เช่น ผู้ลงโฆษณา
ผู้ใช้รายหนึ่งร้องเรียนว่าเขาได้รับโฆษณาเกี่ยวกับการศัลยกรรมที่มีชื่อแบรนด์หนึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับแพทย์ของเขาและอีกหลายรายที่กล่าวถึงโฆษณาที่เฉพาะเจาะจงปรากฏขึ้นหลังจากมีบทสนทนาเกิดขึ้น
รายงานได้ระบุถึงการฟ้องร้องก่อนหน้านี้ในปี 2021 ผู้ฟ้องบางรายอ้างว่าหลังจากที่พวกเขาเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ต่างๆ เช่น “Olive Garden” “Easton bats” “Pit Viper Sunglasses” และ “Air Jordans” พวกเขาจะได้รับโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพวกเขาอ้างว่ามาจากข้อมูลของ Siri
ทั้งนี้ Apple ได้ออกมาแถลงการณ์ปฏิเสธว่า บริษัทไม่ได้มีการเก็บบันทึกเสียงการโต้ตอบของผู้ใช้กับ Siri เว้นแต่ผู้ใช้จะเลือกรับข้อมูลดังกล่าวโดยชัดแจ้งเพื่อช่วยปรับปรุง Siri และถึงแม้จะทำเช่นนั้นแล้วการบันทึกเสียงดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาระบบเท่านั้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกที่จะไม่รับได้ตลอดเวลาได้อีกด้วย
Apple ยืนยันว่าบริษัทไม่เคยนำบันทึกเสียงการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับ Siri ไปใช้เพื่อการโฆษณาหรือสร้างโปรไฟล์การตลาด และไม่เคยขายให้กับบุคคลที่สามเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ พร้อมเสริมว่า Apple จะยังคงพัฒนาเทคโนโลยีต่อไปเพื่อให้ Siri เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม Apple ยืนยันว่าบริษัทพร้อมจ่ายเงินให้กับบุคคลที่ร้องเรียนว่าตนถูก Siri สอดส่องหรือพิสูจน์ว่าอุปกรณ์เปิดใช้งาน Siri โดยไม่ได้ตั้งใจทำให้พนักงานตรวจสอบการใช้งานอาจได้ยินบทสนทนาที่เกิดขึ้น
โดยผู้ใช้ต้องทำการสาบานตนว่าพวกเขาเปิดใช้งาน Siri โดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างการสนทนาที่ตั้งใจให้เป็นความลับหรือเป็นส่วนตัว ทั้งนี้หากได้รับการอนุมัติจากผู้พิพากษา ลูกค้าของ Apple หลายสิบล้านคนอาจได้รับเงินมากถึง 20 เหรียญสหรัฐต่ออุปกรณ์ที่รองรับ Siri เช่น iPhone และ Apple Watch
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -