Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

5 แอปฯ เปลี่ยนโลกดิจิทัล 2024 ยอดดาวน์โหลดทะลุร้อยล้าน เขย่าบัลลังก์ผู้นำตลาดเดิม

Date Time: 30 ธ.ค. 2567 08:00 น.

Summary

  • เปิด 5 แอปพลิเคชัน ที่ขึ้นแท่นว่าเป็น "Disruptor" เข้ามาเขย่าบัลลังก์ผู้นำในตลาดเดิม ทั้งกลุ่มแอปฯ โซเชียลมีเดีย แอปฯ ตัดต่อวิดีโอ ตลอดจนแอปฯ ช้อปปิ้งที่กำลังมีบทบาทอย่างมากในชีวิตของทุกคน และว่าบางแอปฯ จะไม่ถือว่าเป็นหน้าใหม่แบบที่เพิ่งเปิดตัวมาในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่ในปี 2024 ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง

สมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือ แทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์เราไปแล้ว ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนต่างหลงใหลและก้มหน้าอยู่กับหน้าจอ คงหนีไม่พ้น “แอปพลิเคชัน” ต่าง ๆ และปีนี้ก็เรียกได้ว่า มาแรงหลายแอปฯ เลยทีเดียว

ทั้งโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอ ตลอดจนแอปฯ ช้อปปิ้งได้รับความนิยมสูงมากในปี 2024 นี้ โดยมีหลายแอปฯ ที่น่าสนใจ จนขึ้นชื่อว่าจะเข้ามาแทนที่แอปฯ เจ้าเก่าที่อยู่มานาน เพราะจำนวนผู้ใช้งานที่มากขึ้น และเจเนอเรชันผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป ทำให้แอปฯ (หน้าใหม่) เหล่านี้เข้ามาแทนที่ผู้เล่นเดิม

อย่างไรก็ตาม แม้บางแอปฯ จะไม่ถือว่าเป็นหน้าใหม่แบบที่เพิ่งเปิดตัวมาในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่ในปี 2024 ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง โดย 5 แอปพลิเคชันที่ถูกมองว่าเป็น “Disruptor” แห่งปี 2024 ได้แก่

1. ChatGPT

เปิดตัวมาเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2022 แพลตฟอร์ม ChatGPT ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนโลก เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เครื่องมือแชทที่ทำได้ตั้งแต่ตอบคำถาม ตลอดจนเขียนโค้ด เขียนบทความ และออกแบบภาพ ก่อนจะกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลเมื่อมีผู้ใช้งานหลายรายโพสต์ว่า ChatGPT สามารถทำอะไรได้บ้าง

และในระยะเวลาเพียง 9 เดือน ChatGPT ก็มียอดผู้ใช้งานสูงกว่า 100 ล้านราย ซึ่งต่อมาในปี 2023 ก็ได้ทำการเปิดตัวแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีบน iOS ด้วยโมเดล GPT-3.5 และเปิดตัว ChatGPT Plus ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อใช้งานโมเดล GPT-4 

แม้ว่า ChatGPT จะเริ่มเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ปี 2023 แต่ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา จะเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนว่าทาง OpenAI ต้องการจะรุกเข้ามาแข่งในตลาด Search Engine เพื่อแย่งตลาดจากเจ้าใหญ่อย่าง Google ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ Search บน ChatGPT พร้อมกับพัฒนาโมเดล GPT-o1 ที่ถูกเคลมว่าฉลาดกว่ามนุษย์

โดยในปี 2024 นี้ ChatGPT รูปแบบแอปพลิเคชันได้ขึ้นมาติด Top 5 แอปฯ โหลดฟรีบน iOS ที่มียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 100 ล้านครั้ง ลำดับปรับขึ้นมาจากปี 2023 ที่ไม่ติด Top 10 เสียด้วยซ้ำ และจากข้อมูลในปี 2024 แอปฯ นี้มียอดดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ App Store ทั่วโลกสูงกว่า 282.22 ล้านครั้ง

2. Threads

หนึ่งในแอปพลิเคชันในเครือ Meta อย่าง Threads เปิดตัวออกมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2023 ในฐานะแพลตฟอร์มใหม่ที่การใช้งานใกล้เคียงกับ Twitter หรือ X คือ สามารถโพสต์ข้อความ ตอบ Reply กดถูกใจ และรีโพสต์ได้

ความพิเศษของ Threads คือเชื่อมต่อโดยตรงกับ Instagram ทำให้ผู้ที่ใช้งานสามารถเพิ่มยอดผู้ติดตามบน Threads ได้ทันทีเมื่อกด Follow ใน Instagram นอกจากนี้ ความนิยมของ Threads เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันที่เปิดตัวออกมา โดยในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็มียอดลงทะเบียนเข้าใช้งานกว่า 10 ล้านคน และในวันต่อมายอดก็เพิ่มเป็น 20 ล้านคน

การเกิดขึ้นมาของ Threads ถูกมองว่าจะเข้ามาแทนที่ Twitter ในตอนนั้น และต่อมาเมื่อ Twitter ถูกปรับภาพลักษณ์ไปเป็น X ก็ยิ่งทำให้ Threads ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า มียอดดาวน์โหลด Threads บน iOS สูงเป็นอันดับที่ 2 ในสหรัฐอเมริกาแซงหน้า TikTok และแอปฯ อื่น ๆ ในเครือ Meta ขึ้นมา

และจากข้อมูลในปี 2024 แอปฯ นี้มียอดดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ App Store ทั่วโลกสูงกว่า 326.75 ล้านครั้ง

3. CapCut

CapCut แอปพลิเคชันตัดต่อคลิปวิดีโอยอดนิยมของ ByteDance บริษัทแม่เดียวกันกับ TikTok เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2019 ในชื่อ JianYing เริ่มต้นเป็นแอปฯ ที่ใช้งานเฉพาะในประเทศจีน ก่อนจะได้รับความนิยมสูง จนได้มีการออกแบบเป็น CapCut เพื่อขยายตลาดออกไปในต่างประเทศเมื่อปี 2020

ความนิยมของ CapCut เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2021 กลายเป็นแอปฯ ที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store ในสหรัฐอเมริกา และต่อมาในปี 2023 หลังจากเปิดตัวใหม่ที่สามารถตัดต่อวิดีโอได้บนเว็บไซต์และบนเดสก์ท็อป ก็ทำให้จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนสูงถึง 200 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ใช้งาน TikTok ในช่วงเดียวกัน

ตามที่นิตยสาร Time เขียนไว้เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา หนึ่งในเหตุผลที่ CapCut ได้รับความนิยมอย่างมากคือความสามารถในการสร้างวิดีโอสำหรับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ใช่แค่ TikTok แต่ยังรวมถึง YouTube และฟีเจอร์ Stories และ Reels ของ Instagram ด้วย

แม้ว่า CapCut จะยังขาดฟีเจอร์บางอย่างที่ซอฟต์แวร์มืออาชีพอย่าง Adobe Premiere มี แต่ก็มีฟิลเตอร์และฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับโซเชียลมีเดียซึ่งแอประดับมืออาชีพมักไม่มี

และจากความนิยมของคอนเทนต์ประเภทวิดีโอสั้นที่มีมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ CapCut ติดอันดับ Top 10 ของแอปฯ ฟรีที่ถูกดาวน์โหลดสูงบน App Store ของสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2024 นี้ CapCut ติดอันดับที่ 8 และจากข้อมูลในปี 2024 แอปฯ นี้มียอดดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ App Store ทั่วโลกสูงกว่า 410.33 ล้านครั้ง

4. Temu

แอปพลิเคชัน Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน ผลงานของ PDD Holding เจ้าของเดียวกันกับ Pinduoduo แอปฯ ช้อปปิ้งชื่อดังในประเทศจีน ที่หลังจากได้รับความนิยมสูง ก็ขยายตลาดออกมาจากประเทศ โดยใช้ชื่อแพลตฟอร์มว่า Temu

Temu เปิดตัวมาในปี 2022 และได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสินค้ามีราคาถูก หลากหลาย และยังมอบส่วนลดกระหน่ำให้กับผู้ใช้ มาพร้อมกับ Tagline อย่าง “Shop Like a Billionaire” ที่ไม่ว่าใครก็ช้อปปิ้งสินค้าได้อย่างกับเป็นเศรษฐี ทำให้แค่ปีแรกที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ Temu ก็ทำรายได้สูงกว่า 30,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในตลาด EU ก็มียอดผู้ใช้งานสูงกว่า 92 ล้านรายแล้ว

นอกจากเรื่องของที่ราคาต่ำแล้ว Temu ยังใช้วิธีการทางตลาดอย่าง การเปิด Flash Sales ตลอดจนเพิ่ม Gamification ให้ผู้ใช้ได้เล่นมินิเกมเพื่อแลกส่วนลด ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์การช้อปแบบใหม่ ๆ ให้ลูกค้าอีกด้วย

และการเข้ามาของ Temu ในตลาดสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เจ้าเก่าในวงการอย่าง Amazon ต้องสั่นสะเทือน หันมาเปิดฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกได้ว่ามีต้นแบบมาจาก Temu คือการขายของถูกจากจีน เพื่อแย่งลูกค้าคืนกลับมา

โดยในปี 2024 นี้ Temu ก็ได้ติดอันดับที่ 1 ยอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store ของสหรัฐอเมริกา และจากข้อมูลพบว่าแอปฯ นี้มียอดดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ App Store ทั่วโลกสูงกว่า 516.40 ล้านครั้ง

5. TikTok

แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2016 แอปพลิเคชันคลิปสั้นอย่าง TikTok ก็ได้กลายเป็นแอปฯ ที่ยังคงเป็นที่นิยมในทุกวันนี้ โดยครั้งแรกที่ TikTok ทำยอดดาวน์โหลดแซงหน้า Facebook, Instagram, Snapchat และ YouTube คือปี 2018 และต่อมาในปี 2019 ก็ติด Top 4 แอปฯ ที่ถูกดาวน์โหลดสูงที่สุด

ช่วงที่ทำให้ TikTok มียอดใช้งานโตขึ้นแบบก้าวกระโดดคือช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ช่วยดันให้คอนเทนต์วิดีโอได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะวิดีโอสั้น ที่ดูจบในระยะเวลาไม่นาน โดยมีจำนวนผู้ใช้งานโตขึ้นกว่า 45% ต่อเดือนเลยทีเดียว

ส่งผลให้โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่นก็ต้องหันมาลงเล่นในตลาดคลิปสั้น โดย Facebook และ Instagram ก็มี Reels ในขณะที่ YouTube ก็ออกฟีเจอร์ Shorts มาด้วย ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการโซเชียลมีเดีย

โดยมีนักวิจัยด้านสื่อ การเมือง และนโยบายสาธารณะของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ออกมาเผยถึงเหตุผลว่าเพราะอะไร TikTok ถึงกลายเป็นดั่งกับสิ่งเสพติดใหม่ของสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนว่า “ทุกวันนี้ TikTok ได้กลายเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมใหม่ ที่ผู้คนในนั้นขยันสร้างวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ออกมา แต่วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีการกรองอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างจริงจัง”

ทุกวันนี้ TikTok ยังคงเผชิญปัญหากับการขัดกับกฎระเบียบในหลายประเทศ จนถึงขั้นถูกแบนห้ามใช้งานในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ปีนี้ยอดดาวน์โหลดของ TikTok บน App Store ในสหรัฐอเมริการ่วงลงมาอยู่อันดับที่ 3

อย่างไรก็ตาม หากมองภาพรวมทั่วโลก ในปี 2024 นี้ TikTok ก็ยังคงเป็นแอปฯ ที่ถูกดาวน์โหลดสูงที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 825.48 ล้านครั้ง

ที่มา: Apple, BI, TechCrunch [1][2], CBS, The Guardian [1][2], SEJ, Econsultancy, CNETStatista

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)