Tech & Innovation
Digital Transformation
สวยด้วยนวัตกรรม! แบรนด์ดังเกาหลีใช้ AI หาเฉดรองพื้นและลิปสติกที่ใช่ ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาหน้าลอย
Date Time: 12 ก.ค. 2567 13:34 น.
“Summary“
- AmorePacific เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังจากเกาหลีใต้ เปิด "Beaty Lab" อัจฉริยะ ใช้ AI วิเคราะห์ผิวลูกค้า พร้อมออกแบบเฉดรองพื้นที่ใช่และสีลิปสติกที่เหมาะสมให้ลูกค้าแต่ละคน ด้านนักวิเคราะห์เผย ยิ่งธุรกิจดึง AI มาช่วยแทนนักวิเคราะห์ จะยิ่งเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลดการทำงานหลายขั้นตอนของนักวิเคราะห์ลง และยังช่วยลดความผิดพลาดได้อีกด้วย
Latest
AmorePacific เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังจากเกาหลีใต้ อย่าง Sulwhasoo, Innisfree, Laneige, Mamonde และอื่นๆ เปิด “Beauty Lab” ที่ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ผิวของลูกค้า เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์อย่าง รองพื้น และลิปสติก ที่มีเฉดสีเหมาะสมกับแต่ละคน
จุดเริ่มต้นมาจากปัญหาที่ลูกค้าแต่ละคนมีสภาพผิวหน้า และโทนสีผิวที่แตกต่างกัน แต่สินค้าในตลาดจะมีเพียงเฉดที่ถูกกำหนดมา อีกทั้งแต่ละแบรนด์ยังมีโทนสีที่คล้ายคลึงกัน ทำให้ลูกค้าหลายคนไม่เจอรองพื้นหรือลิปสติกที่ตรงใจ
ทาง AmorePacific จึงได้ทดลองดึงเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI และหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Robotic) เข้ามาใช้งาน โดยเปิด Beauty Lab ให้ลูกค้าที่สนใจเข้ามาตรวจเช็กสภาพผิวหน้าของตัวเอง ก่อนจะให้ AI ช่วยวิเคราะห์และแสดงผลการตรวจเช็กผิวหน้าของลูกค้าแต่ละคน และส่งต่อให้หุ่นยนต์อัตโนมัติผสมรองพื้น หรือสีลิปสติกออกมาให้เหมาะกับสภาพผิวและโทนสีของลูกค้านั่นเอง
ซึ่งปัจจุบันนี้ AmorePacific ได้ใช้งาน AI ในการวิเคราะห์และออกแบบเฉดสีรองพื้นไปแล้วกว่า 205 เฉด กับลิปสติกอีกกว่า 366 เฉดแล้ว
ที่ผ่านมา จะเห็นว่าแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกหลายเจ้าก็มีการดึง AI เข้าไปใช้งาน อย่างเช่น L'Oréal ที่ใช้ AI ช่วยเพิ่มยอดขาย ในขณะที่ Sephora ใช้ AI เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
ด้านนักวิเคราะห์ มองว่า “การดึง AI เข้ามาทำงานให้คำปรึกษาแทน มนุษย์ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น ช่วยลดกำลังคน และลดความผิดพลาดได้อีกด้วย เพราะโดยปกติ จะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง 30-40 คนในขั้นตอนการวิเคราะห์ผิวลูกค้าและออกแบบผลิตภัณฑ์”
ตลาดเครื่องสำอางปัจจุบัน มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 6.26 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาโตอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากช่วงโควิด-19 ในปี 2022 ที่ทำยอดขายตกทั่วโลก
และสำหรับรายได้ของ AmorePacific ในไตรมาสแรกของปี 2024 ทางบริษัทฯ รายงานว่ายอดกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่โตขึ้น 42% แต่ในตลาดจีนรายได้ยังคงลดลง 19% และประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชียลดลง 4%
ในปีที่ผ่านมาทาง AmorePacific ต้องประสบกับปัญหาด้านยอดขายที่ลดลงทั้งตลาดในประเทศตัวเอง และประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชีย เนื่องจากมีการรีแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ในเครือ ยกตัวอย่างเช่น Innisfree อีกทั้งยังมีการปรับโครงสร้างร้านค้าออฟไลน์ใหม่ทั่วโลก และลดการผลิตสินค้าบางตัวลง จนส่งผลให้รายได้ในตลาดหลักอย่างประเทศจีนลดลงมากถึง 40%
ปัจจุบัน AmorePacific มีมูลค่าทางตลาดอยู่ที่ 9.41 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ 7.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง: Reuters, CosmeticsDesign, Yahoo! Finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
Author